การดำเนินงานแก้ไขปัญหาหมอกควัน 9 จังหวัดภาคเหนือ ณ วันที่ 2 เมษายน 2562

สถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ ประจำวันที่ 2 เมษยน 2562 ณ เวลา 09.00 น. พบว่าค่าฝุ่นละออง มีแนวโน้มลดลงในหลายพื้นที่ คุณภาพอากาศมีค่าอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง – มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสีแดง 7 พื้นที่ (มีผลกระทบต่อสุขภาพ) พื้นที่สีส้ม 7 พื้นที่ (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ) และพื้นที่       สีเหลือง 3 พื้นที่ (คุณภาพอากาศปานกลาง)

– ค่า PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 39 – 238 มลก./ลบ.ม. (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.)

– ค่า PM10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 52 – 269 มลก./ลบ.ม. (มาตรฐานไม่เกิน 120 มคก./ลบ.ม.)

ทั้งนี้สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางเว็บไซต์ air4thai.pcd.go.th และแอพลิเคชั่น air4thai

จังหวัดเชียงใหม่

      – พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์การจัดการและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ ณ ห้องประชุมอาคารอเนกประสงค์ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังการแก้ปัญหาและอุปสรรคของการทำงานในช่วงที่ผ่านมา พร้อมแนวทางการปฏิบัติทั้งหมด รวมถึงช่วยกันระดมสติปัญญาแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ครบทุกมิติ ซึ่งจะต้องแก้ปัญหานี้ให้คลี่คลายลงให้ได้ภายใน 7 วันข้างหน้า ทั้งในป่าภูเขา พื้นที่การเกษตร และพื้นที่เขตเมือง ที่จะต้องได้รับการแก้ปัญหาในทุกมิติ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีทราบรายละเอียดการทำงานที่ผ่านมาโดยละเอียดอยู่แล้วแต่วันนี้จำเป็นต้องลงรายละเอียดการทำงานมากยิ่งขึ้น ให้สามารถแก้ปัญหาเร็วขึ้น ถ้ามีปัญหาอุปสรรคใดๆรัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุน และยืนยันว่าไม่มีปัญหาในเรื่องของงบประมาณ ที่จะลงมาในพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาได้ตามเป้าหมาย

– นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวผลการดำเนินงานแก้ปัญหาหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยเรียกประชุมนายอำเภอทั้ง 25 อำเภอ เพื่อมอบนโยบายและมาตรการเร่งแก้ไขปัญหาหมอกควันในแต่ละพื้นที่อย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะอำเภอที่เกิดการเผาซ้ำซาก ซึ่งขณะนี้ทุกภาคส่วนได้เพิ่มกำลังในการจัดกองกำลังผสมออกลาดตระเวน ภายใต้ชื่อ “ยุทธการสยบไฟป่า” เพื่อป้องกันปราบปรามการลักลอบเผาป่า และจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างเข้มงวด กำชับต้องเฝ้าระวังไม่ให้เกิดการเผาในพื้นที่ เนื่องจากเป็นสาเหตุหลักของฝุ่นควันทั่วภาคเหนือ ซึ่งทุกภาคส่วนในทุกพื้นที่ยังมีการดับไฟป่าในทุกๆวัน และพยายามตามหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีอย่างไม่มีการละเว้น จากการดูดาวเทียมระบบ VIIRS มีจุด Hotspot เกิดเพิ่มมากขึ้นทั่วทั้งภาคเหนือ และประเทศเพื่อนบ้าน เฉพาะที่จังหวัดเชียงใหม่ เกิดจุดความร้อน จำนวน 573 จุด ขณะที่สภาพอากาศภาคเหนือตอนบนมีแนวลมพัดฝุ่นควันจากทิศเหนือของประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาปกคลุมยังจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้วันนี้มีความหนาแน่นของปริมาณฝุ่นควันมากกว่าเดิม โดยได้สั่งการให้ทุกอำเภอจัดให้มีที่พักผ่อนปลอดมลพิษ (Safety Zone) จัดทำในพื้นที่ที่มีขนาดห้องพอสมควร และมีเครื่องฟอกอากาศ เช่น ที่ว่าการอำเภอ เทศบาลตำบล องค์การบริหารส่วนตำบล โรงพยาบาล และครอบคลุมไปจนถึงโรงเรียน เพื่อใช้เป็นศูนย์พักพิงสำหรับประชาชน โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ เด็ก และผู้สูงอายุ ซึ่งนำร่องไปแล้วที่อาคาร SME ภายในศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ และที่อำเภอแม่แจ่ม โดยอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการขยายให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด กว่า 212 แห่งต่อไป

จังหวัดตาก

ศูนย์บัญชาการหมอกควันและไฟป่าอำเภอแม่สอดจัดรถดับเพลิงทำการฉีดพ่นละอองน้ำและล้างถนน เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศใน​พื้นที่อำเภอแม่สอด โดยได้รับการสนับสนุนรถดับเพลิงจากเทศบาลนครแม่สอด เทศบาลตำบลท่าสายลวด องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ปะ และศูนย์ ปภ.เขต 9 พิษณุโลก

 จังหวัดลำพูน

จังหวัดลำพูนระดมพลพ่นน้ำ โดยใช้รถน้ำขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขต อ.เมือง ร่วมกับรถฉีดพ่นละอองน้ำแรงดันสูง (รถหุ่นยนต์) และรถหอน้ำดับเพลิงสูง 37 เมตร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง) เพิ่มความชื้นในอากาศ ลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ณ บริเวณหน้าศูนย์ราชการกระทรวงแรงงาน ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน ทั้งนี้การฉีดพ่นน้ำจะดำเนินการพร้อมกันครอบคลุมทุกพื้นที่ที่เกิดสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

จังหวัดพะเยา

เจ้าหน้าที่ทหารจากกองพันทหารปืนใหญ่ กรมทหารราบที่ 17 จังหวัดพะเยา พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลตำบลท่าวังทอง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ร่วมกันนำรถดับเพลิงเข้าทำการดับไฟป่าที่ลุกไหม้บริเวณริมค่ายขุนเจืองธรรมมิกราช หมู่ที่ 9 ตำบลท่าวังทอง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา หลังเกิดไฟป่าลุกไหม้อย่างรุนแรงในช่วงเย็นวันที่ 31 มี.ค.2562 อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถระงับไฟที่ลุกไหม้ไว้ได้แล้ว  ขณะที่ในพื้นที่หมู่ที่ 8 และหมู่ที่ 9 บ้านโป่งเกลือ ตำบลแม่ปืม อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ได้เกิดไฟป่าลุกไหม้บริเวณสันเขาจนสามารถสังเกตได้อย่างชัดเจน และเป็นบริเวณกว้าง ส่งผลกระทบให้ค่าหมอกควันในพื้นที่จังหวัดพะเยายังคงวิกฤติอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่แล้วเกิดจากไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางจังหวัดได้มีมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังมีผู้ลักลอบเผาป่า เพื่อหาของป่า ล่าสัตว์ ส่งผลให้จังหวัดพะเยายังคงประสบกับภาวะหมอกควันที่มีค่าเกินมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง

จังหวัดเชียงราย

นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในการประชุมเฉพาะกิจด่วน โดยมี ว่าที่ ร้อยตรี ณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พล.ต.สัชฌาการ คุณยศยิ่ง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เพื่อติดตามสถานการณ์และผลการปฏิบัติงานป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน จังหวัดเชียงราย หลังค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงเกินมาตรฐาน ณ ห้องจอมกิตติ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ซึ่งที่ผ่านมาดาวเทียมระบบ VIIRS (Suomi NPP) ได้ตรวจพบจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จำนวนทั้งสิ้น 1,317 จุด โดยตรวจพบจุดความร้อนมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อำเภอแม่สรวยจำนวน 301 จุด อำเภอเมืองเชียงรายจำนวน 203 จุด และอำเภอพานจำนวน 164 จุด โดยเฉพาะในพื้นที่เขตป่าสงวน          ป่าอนุรักษ์ สปก. และพื้นที่อื่นๆ ส่งผลให้ค่าคุณภาพอากาศและปริมาณฝุ่นละอองในพื้นที่จังหวัดเชียงรายอยู่ในระดับส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย จึงได้มีข้อสั่งการมาตรการพิเศษแก้ไขปัญหาดังกล่าวแบบเชิงรุก โดยสั่งการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 15 ร่วมกับสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 เชียงราย สนธิกำลังกับชาวบ้าน จัดกำลังชุดดับไฟป่า แบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด เฝ้าดับไฟทันทีเมื่อเกิดจุดความร้อนและให้ชุดลาดตะเวนฝังตัวอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ เคลื่อนไหวในป่าตลอด 24 ชั่วโมง เฝ้าระวังไม่ให้เกิดไฟป่าซ้ำ ส่วนในหมู่บ้านที่มีพื้นที่ติดกับป่า ให้ส่วนท้องถิ่นประสานผู้นำชุมชนตั้งฐานลอยกดดัน ซึ่งจะเริ่มเข้าดำเนินการสังเกตุการณ์ภายในหมู่บ้าน นับตั้งแต่ 15 วันต่อจากนี้ ตลอดจนขอให้ประชาชนรักษาสุขภาพตนเอง ตรวจเช็คสภาพยานพาหนะไม่ให้เกิดควันดำ และร่วมเป็นหูเป็นตาให้กับภาครัฐด้วย ทั้งนี้การฉีดพ่นน้ำชะล้างหลังคาบ้านของตนเอง และการฉีดพ่นน้ำตามจุดต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อเพิ่มความชื้นให้อากาศ ยังมีความจำเป็นที่จะต้องทำอย่างสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตามหากฝนยังไม่ตก ค่าคุณภาพอากาศและปริมาณฝุ่นละอองไม่ลดลง ภายในวันที่ 15 เมษายนนี้ จังหวัดเชียงรายจะยังคงใช้มาตรการห้ามเผาในพื้นที่โล่งโดยเด็ดขาดต่อไป

จังหวัดแม่ฮ่องสอน

– จังหวัดแม่ฮ่องสอนจัดกำลังพลจิตอาสาพระราชทาน พร้อมรถบรรทุกน้ำจากส่วนราชการต่างๆ จาก ฉก.ร.7/บก.ควบคุม กกล.รส.จว.ม.ส. ปภ.จว.ม.ส. อบจ.ม.ส. เทศบาลเมือง ม.ส. สถานีควบคุมไฟป่าแม่ฮ่องสอน ทสจ.แม่ฮ่องสอน ท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน และ กอ.รมน.จว.ม.ส นำรถบรรทุกน้ำของแต่ละส่วนราชการ ร่วมทำม่านน้ำบริเวณท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองและเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ

– หน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่าแม่ลาน้อย ออกตรวจลาดตระเวนตามริมทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 108 พบไฟกำลังลุกไหม้ตรงบริเวณหลัก กม.ที่ 223 จึงรีบทำการดับไฟแต่เนื่องจากแนวไฟที่กว้างและมีความรุนแรงจึงได้ประสานขอกำลังจากเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดับไฟของอำเภอแม่ลาน้อย (เจ้าหน้าที่ปกครอง และเจ้าหน้าที่ทหารพราน) พบพื้นที่เสียหายประมาณ 40 ไร่ ในท้องที่ ต.แม่ลาน้อย อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ยวมฝั่งซ้าย

– สถานีควบคุมไฟป่าปางมะผ้า ปฏิบัติการดับไฟบริเวณไฟไหม้สวนส้มพี่กี หมู่ 2 ต.สบป่อง อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ตรวจพบโดยลาดตระเวน พบพื้นที่ป่าเบญจพรรณเสียหาย 70 ไร่ ในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ขสป.ลุ่มน้ำปาย โดยไม่ทราบสาเหตุการเกิดไฟ และได้เข้าดับไฟบริเวณหลังวัดสบป่อง หมู่ 1 ต.สบป่อง อ.ปางมะผ้า เจ้าหน้าที่สถานีฯ เข้าตรวจสอบพื้นที่แล้วสามารถทำการดับได้เพียงบางจุดแต่ยังไม่สามารถคำนวณพื้นที่เสียหายได้ เนื่องจากว่าไฟป่าได้ลุกลามเป็นวงกว้างบวกกับเป็นช่วงกลางคืน และพื้นที่เป็นภูเขาสูงซึ่งยากแก่การเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ได้ เจ้าหน้าที่สถานีฯ จะเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่อีกครั้ง

จังหวัดน่าน

– สถานีควบคุมไฟป่านันทบุรี ได้ปฏิบัติการออกลาดตระเวนและตรวจพบไฟป่า จำนวน 2 จุด ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำยาว-น้ำสวด นอกเขตอุทยานแห่งชาตินันทบุรี ท้องที่บ้านดอยติ้ว ตำบลศรีภูมิ อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน พบพื้นที่ป่าเสียหายรวม 49 ไร่ และยังได้ตรวจพบไฟป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำยาว-น้ำสวด อุทยานแห่งชาตินันทบุรี ท้องที่บ้านสันติสุข ตำบลสันติสุข อำเภอท่าวังผา พบพื้นที่ป่าเสียหาย 18 ไร่

– กรมทหารพรานที่ 32 ชป.ควบคุมไฟป่าและหมอกควันที่ 4 ร่วมกับหน่วยจัดการต้นน้ำน้ำสอด ปฏิบัติการดับไฟป่า โดยสามารถเข้าดับไฟได้ในพื้นที่บางส่วน พบพื้นที่บางส่วนเป็นพื้นที่ป่ารกทึบ และเขาสูงชันไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้ จึงได้ร่วมทำแนวกันไฟระยะทางประมาณ 1 กม. เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มขึ้นเป็นวงกว้าง พบพื้นที่ป่าเสียหายประมาณ 10 ไร่ และยังคงเฝ้าระวังไฟป่าอย่างต่อเนื่อง

– หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และปกครองในพื้นที่จังหวัดน่าน ได้ดำเนินการฉีดน้ำเพื่อสร้างความชุ่มชื้น และลดปัญหามลพิษหมอกควันในอากาศ อันเนื่องจากไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่อำเภอเวียงสา อำเภอภูเพียง และตามถนนสายหลัก อาทิเช่น เส้นทางสายน้ำพาง-ร่มเกล้า

จังหวัดลำปาง

เกิดไฟป่าในบริเวณพื้นที่ป่าท้ายหมู่บ้าน ชุมชนบ้านหลิ่งก้าน หมู่ที่ 3 ตำบลหนองหล่ม อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง จึงได้ระดมรถดับเพลิงพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองหล่มทำการดับไฟป่าด้วยการเร่งระดมฉีดน้ำเข้าไปในบริเวณพื้นที่ โดยมีนายวีรยุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอห้างฉัตร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอห้างฉัตร และผู้ใหญ่บ้านบ้านหลิ่งก้าน ร่วมกันเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่รอบๆ บริเวณ โดยในเบื้องต้นพบว่าจุดที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ป่าช้า หรือสุสานของหมู่บ้านชุมชนบ้านหลิ่งก้าน ซึ่งไฟที่ลุกไหม้ได้เผาบริเวณพื้นที่ไปเกือบทั้งหมด และเพลิงยังคงได้ลุกลามกินพื้นที่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ ตามกระแสลมพัด โดยปรากฏว่าเปลวไฟที่โหมลุกไหม้อยู่ในบริเวณสุสาน ได้ปลิวข้ามถนนไปติดเชื้อไฟที่เป็นใบไม้หญ้าแห้งในบริเวณพื้นที่ป่าฝั่งตรงข้ามใกล้เคียง ทำให้ไฟได้ลุกลามพื้นที่ป่าชุมชนเสียหายเพิ่มขึ้นอีกรวมแล้วหลายสิบไร่ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ฯ ได้มีการประสานความช่วยเหลือขอรับการสนับสนุนรถดับเพลิงจากหน่วยงานท้องถิ่นในพื้นที่ใกล้เคียง เนื่องจากไฟป่าได้ขยายวงกว้างลุกลามไปในหลายทิศทางอย่างรวดเร็ว ซึ่งหลังจากการประสานขอความช่วยเหลือทำให้เจ้าหน้าที่ฯ สามารถควบคุมจำกัดพื้นที่ไฟป่าไว้ได้ โดยใช้เวลา นานกว่า 3 ชั่วโมง

จังหวัดแพร่

– นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่ใช้มาตรการเข้ม 4 มาตรการ เพื่อสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ดังนี้

  1. ให้ทุกอำเภอจัดชุดลาดตระเวนพิเศษ เพื่อสอดส่องฝังตัวในป่า และสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาตัวผู้แอบเขาป่าในเวลาไม่ปกติ
  2. ให้ทุกอำเภอตรวจตราอุปกรณ์เพื่อการล่าสัตว์ที่เก็บไว้ที่บ้าน หรือเก็บไว้ในป่า โดยขอความร่วมมือให้ฝากไว้กับทางราชการในห้วงเวลานี้ ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเผาป่า เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
  3. ให้ทุกอำเภอตรวจตลาดชุมชน หากพบซากสัตว์ป่าวางขายให้สืบค้นหาแหล่งที่มาของซากสัตว์ขยายผลไปยังแหล่งที่มา หากมาจากต่างจังหวัดจะได้ขอความร่วมมือกับจังหวัดนั้นๆ เพื่อร่วมกันป้องกันต่อไป
  4. 4. ขอความร่วมมือส่วนราชการจังหวัดแพร่ทุกแห่งที่มีอาคารสูงกว่าระดับเหนือศีรษะ ดำเนินการติดตั้งมินิสปริงเกอร์บริเวณตัวอาคารสำนักงาน หรือบนต้นไม้ริมทางเท้า

– นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้เป็นประธานเปิดมาตรการลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดแพร่ ด้วยการเปิดสปริงเกอร์พ่นน้ำ เพื่อสร้างความชุ่มชื้นในอากาศ และลดปริมาณฝุ่นละอองที่แขวนลอยในอากาศ โดยเร่งรัดทุกหน่วยงานดำเนินการติดตั้งมินิสปริงเกอร์ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 เป็นต้นไป เพื่อให้การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กของจังหวัดแพร่ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมร่วมเดินรณรงค์กับ อสม. เพื่อให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นละออง และงดการเผาในระยะนี้