ส.ป.ก.ยันไม่ผักชีโรยหน้ารับนายกฯ ชี้น้ำ-ไฟฟ้า-ถนน มีกำหนดเวลาจัดหาชัดเจน ไม่เกินเม.ย.61

ส.ป.ก.ยันไม่ปลูกผักชีโรยหน้ากับนายกฯ ชี้น้ำ-ไฟฟ้า-ถนนมีกำหนดเวลาจัดหาชัดเจนไม่เกินเม.ย.61 ชุมชนสมบูรณ์100%

นายสมปอง อินทร์ทอง เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เปิดเผยว่า จากกรณีมีการร้องเรียนว่า การแจกที่ดินส.ป.ก.ให้กับเกษตรกร เป็นการ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐนตรี เดินทางไปมอบหนังสืออนุญาตให้สถาบันเกษตรกรเข้าทำประโยชน์ในที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน จังหวัดสระแก้ว จำนวน 10 แปลง เนื้อที่กว่า 3,342 ไร่ มีผู้ได้รับสรรที่ดินแล้ว 63 รายได้ โดยจัดสรรที่ดินสำหรับที่อยู่อาศัย 1 ไร่ และ 5 ไร่ โดยมีการจัดหาสาธารณูปโภคพื้นฐาน 1.ถนน 2.ไฟฟ้า และ3.น้ำ แต่เมื่อนายกฯเดินทางกลับทุกอย่างก็ไม่มี เหมือนการปลูกผักชีโรยหน้านั้น ถือเป็นเรื่องการเข้าใจผิดในเรื่องของ การสื่อสารของชาวบ้านหรือสื่อมวลชน

“การที่มีข่าวเรื่องส.ป.ก.โดยกระทรวงเกษตรปลูกผักชี เอาหน้ากับนายกรัฐมนตรีนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะการดำเนินการสร้างชุมชนต้นแบบ ในการทำกินบนที่ ส.ป.ก. ต้องใช้เวลาในการดำเนินการ แต่ที่เกิดเรื่องไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไร เพราะชาวบ้านเข้าใจเรื่องของกระบวนการ กำหนดเวลาในการจัดหาร น้ำ ไฟฟ้า ถนน ส่วนจะเป็นเรื่องพื้นที่นักการเมืองเก่าหรือไม่ไม่แน่ใจ”

สำหรับการแจกที่ดินส.ป.ก.ที่ผ่านมามีการแจกที่จังหวัดอุทัยธานี กาฬสินธุ์ไปแล้ว ทุกจังหวัดไม่มีปัญหา เมื่อนายกฯไปทำพิธีมอบ ภายใต้การสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน ที่อยู่อาศัยให้เหมือนจริง เพื่อให้นายกฯเห็นภาพการพัฒนาพื้นที่ เมื่อเสร็จพิธีการเปิดทุกอย่างก็ยังคงดำเนินการไปตามกำหนดการปกติก่อนหน้า คือ น้ำ ปัจจุบันมีการขุดบ่อบาดาลแล้ว 1 บ่อ และกำลังขุดอีก 1 บ่อ โดยมอบหมายให้กรมทรัพยกรน้ำ ซึ่งอยู่ในการดูแลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้เจราเรื่องขุดบ่อบาดาลเพื่อใช้สำหรับอุปโภคและบริโภค คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายใน 2 เดือนหรือในเดือน ต.ค. ส่วนน้ำเพื่อใช้สำหรับส่งเสริมการเกษตร กรมชลประทานมีการขุดสระเก็บน้ำแล้ว สามารถ เก็บกักน้ำได้ปะมาณ 180,000 ลูกบาศ์กเมตร(ลบ.ม.) คาดว่าอีก 8 เดือนหรือประมาณเม.ย.2561 จะแล้วเสร็จ 100% และมีระบบน้ำไปถึงแปลงนาทุกแปลงของเกษตรกรในพื้นที่ส.ป.ก. เกษตรกรอยู่อาศัยได้จริง

สำหรับการจ่ายไฟฟ้า ที่จะส่งเข้าไปสู่พื้นที่ส.ป.ก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ต้องการเอกสาร 2 อย่าง คือ 1.เอกสาร ที่ดินทำกินของเกษตรกรจำนวน 63 รายและรายชื่อเกษตรกรจำนวน 63 ราย 2.สำเนาทะเบียนบ้าน ซึ่งกระทรวงมหาดไทยโดยกรมการปกครองมีระเบียบอยู่ ว่าบ้านที่จะออกสำเนาทะเบียนให้ได้ ต้องเป็นบ้านที่มีการปลูกสร้างที่มีความมั่นคงและสามารถอยู่อาศัยได้ แต่ในพื้นที่ส.ป.ก.ปัจจุบันยังไม่มีการก่อสร้าง ทั้งนี้เพื่อทำให้นโยบายรัฐเดินหน้าได้ คณะทำงานของส.ป.ก.จึงมีข้อตกลงร่วมกับสำนักงานทะเบียนอำเภอโคกสูง โดยให้ทำสำเนาทะเบียนบ้านฉบับชั่วคราวขึ้นมา

ส่วนสำเนาทะเบียนบ้านโดยหลักกฎหมายของสำนักทะเบียน จะออกให้ต่อเมื่อบ้านที่ปลูกสร้างถาวรและสามารถปลูกอาศัยได้จริง ต้องปลูกสร้างอยู่บนที่ดินกรรมสิทธิ์ คือมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือ นส.3 แต่ในกรณีนี้การมอบที่ดินให้กับเกษตรกร 63 ราย เป็นที่ดินส.ป.กไม่ได้ให้กรรมสิทธิ์ แต่เป็นที่ดินที่อนุญาตให้ใช้ประโยชน์ได้ ดังนั้นสำนักทะเบียนจึงมีการยกเว้นหลักปฎิบัติ โดยภายใน 1 เดือน สำเนาทะเบียนบ้านชั่วคราวจะถูกออก เพื่อส่งให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเพื่อจ่ายไฟให้กับเกษตรกร โดยขณะนี้มีบ้านที่ปลูกสร้างเสร็จแล้ว 4 หลัง และจะการดำเนินการสร้างเพิ่มเติมอีก 59 หลัง

นายชาตรี กะหล่ำพันธ์ ประธานสหกรณ์ปฏิรูปที่ดิน อำเภอโคกสูง เปิดเผยว่า สำหรับการดำเนินการของภาครัฐชาวบ้านได้รับทราบทุกขั้นตอนมาโดยตลอด ในส่วนของการได้รับสิทธิ์ในการจัดสรรที่ดิน ชาวบ้านได้รับทราบและดีใจมาก คาดว่าในอนาคตจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านดีขึ้นแน่นอน ส่วนข่าวที่มีการร้องเรียนว่าการแจกที่ดินของรัฐให้เกษตรกรเป็นการทำเพียง ผักชีโรยหน้าเท่านั้น เป็นเรื่องเข้าใจผิด สมาชิกทั้ง 63 รายของสหกรณ์ รู้ดีในขั้นตอนการทำงานดี ทั้งเรื่องระบบไฟฟ้า น้ำ และไม่มีการร้องเรียนใดๆ ทั้งสิ้น แต่ข่าวที่ออกไปคือชาวบ้านที่ทราบ

นายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวถึง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่จำเป็นต้องดำเนินการในพื้นที่ยึดคืน ส.ป.ก. แบ่งออกเป็น 3 ด้าน คือ 1.ถนน มีก่อสร้างถนนสายหลักและสายรอง โดยหน่วยงานทหารช่าง กองทัพบก ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ 2.การขยายเขตไฟฟ้า โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีงบประมาณพร้อมอยู่แล้ว รอเพียงการอนุมัติติดตั้งไฟฟ้าเท่านั้น ซึ่งเกษตรกรต้องใช้เอกสาร 2 ส่วน คือ เอกสารที่ดิน ทำกินพร้อมรายชื่อผู้ขอใช้ไฟฟ้า และสำเนาทะเบียนบ้านฉบับชั่วคราว เมื่อมีเอกสารครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว สามารถขอขยายเขตไฟฟ้า เพื่อปักเสา พาดสาย ติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้าได้ในทันที 3.น้ำ คือ น้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการของ ส.ป.ก. กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และกรมชลประทาน”