“ปิยะสกล” ลั่นงานหลักประกันสุขภาพเดินหน้า พร้อมแก้ปัญหาติดระเบียบเบิกจ่ายงบท้องถิ่น

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการฯ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ปาฐกถาพิเศษในการประชุมชี้แจงหลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2561 ว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อการดำเนินระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและได้จัดสรรงบประมาณอย่างต่อเนื่องเพื่อดูแลประชาชนให้เข้าถึงการรักษาและบริการสาธารณสุขอย่างทั่วถึง ซึ่งในการทำงานร่วมกันของหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจะต้องยึดหลัก 2 ข้อสำคัญ คือ 1.คุยกันเรื่องการแก้ปัญหาว่าวิธีใดดีที่สุด ไม่ใช่เอาปัญหามาพูด แต่ไม่ได้บอกวิธีการแก้ไข และ 2.ต้องไม่แบ่งฝ่ายว่าตนคือผู้ซื้อบริการหรือผู้ให้บริการ เพราะเงินงบประมาณที่นำมาซื้อหรือให้บริการก็เป็นเงินของประชาชน ทั้งหมดต้องทำเพื่อประชาชน

นพ.ปิยะสกลกล่าวว่า สำหรับกองทุนการดูแลผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพึงระยะยาว (LTC) เป็นโครงการที่ทำมาตั้งแต่ในปี 2559 ซึ่งรัฐบาลได้ให้การสนับสนุนงบประมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 600 ล้านบาทในปี 2559 เป็น 900 ล้านบาทในปี 2560 และเพิ่มเป็น 1,200 ล้านบาทในปี 2561 นี้ เพราะมองเห็นประโยชน์เพื่อดูแลผู้สูงอายุในอนาคต แต่ผลประเมินโครงการที่ผ่านมาปรากฎว่างบที่จ่ายผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กลับติดปัญหาเบิกจ่ายไม่หมด หากปล่อยไว้แบบนี้ปี 2561 ย่อมเกิดปัญหาแน่ ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขและ สปสช.ได้ร่วมกันลงพื้นที่ อปท.เพื่อดูปัญหาติดขัด รวมทั้งดูดำเนินงาน อปท.ที่ประสบผลสำเร็จเพื่อนำมาสู่การแก้ไขปัญหาร่วมกัน

“อปท.ที่ดำเนินโครงการ LTC สำเร็จ แม้ว่าจะติดขัดระเบียบ อปท.ไม่สามารถโอนเงินไปยังศูนย์การดูแลผู้สูงอายุท้องถิ่นได้จากที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ทักท้วง จึงใช้ช่องทางดำเนินการผ่านโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) กระทรวงสาธารณสุขแทนในรูปแบบเหมาจ่าย ทำให้ อปท.เดินหน้าโครงการต่อไปได้ นำมาสู่การจัดการระดับประเทศ อาทิ การทำคู่มือดำเนินโครงการ LTC ส่งผลให้การดำเนินโครงการ LTC ปี 2561 นี้มีความราบลื่นได้ เป็นผลจากการลงไปดูปัญหา พูดคุยร่วมกัน และนำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้” นพ.ปิยะสกลกล่าว

 

ที่มา : มติชนออนไลน์