สธ.เจรจา 4 บริษัทหาวัคซีนเพิ่ม ท้องถิ่นขอ มท.ไฟเขียวจัดซื้อ

วัคซีน-โควิด-19

สธ.เร่งจัดหาวัคซีนโควิด-19 เผยเจรจาอีก 4 บริษัท หลัง “แอสตร้าเซนเนก้า-ซิโนแวก” ยื่นแล้ว องค์การเภสัชฯ ปักหมุดซิโนแวกขึ้นทะเบียนก่อน 14 กุมภาฯ กทม.เอาด้วยเตรียมงบฯก้อนโตซื้อฉีดให้คนกรุง 5 ล้านคน อปท.เดินหน้าลุยต่อ หารือ สธ.ช่วยจัดซื้อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า มีวัคซีนที่มาขอขึ้นทะเบียนกับสำนักงานองค์การอาหารและยา (อย.) 2 บริษัท คือ AstraZeneca และ Sinovac คาดว่า อย.จะอนุมัติและขึ้นทะเบียนในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำลังเจรจาจัดหาวัคซีนจากอีก 4 บริษัท โดยบริษัทเหล่านี้ต้องนำเอกสารมาขอขึ้นทะเบียนวัคซีนกับ อย. ตามกระบวนการ

“สธ.เริ่มจัดหาวัคซีนตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่การพัฒนาวัคซีนต้องใช้เวลา ปกติ 10 ปี แต่วัคซีนโควิดกระบวนการได้ร่นขึ้น สธ.ไม่ได้รีบอย่างเดียว เราต้องรอบคอบที่จะจัดหาวัคซีีนมีประสิทธิภาพ และปลอดภัย”

เรื่องงบประมาณการจัดซื้อวัคซีนนั้นช่วงต้นของการระบาดประมาณการว่า ราคาเหมาะสมอยู่ที่ 1,000 บาท/โดส ซึ่ง สธ.ใช้ราคานี้อ้างอิง ส่วนการจองซื้อวัคซีน AstraZeneca ซื้อได้ 5 เหรียญ/โดส ถูกที่สุดที่หาได้ในท้องตลาด ขณะนี้

คาด 14 ก.พ.ซิโนแวกฉลุย

นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า การยื่นขึ้นทะเบียนวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าว่าเป็นการยื่นขอขึ้นทะเบียนในลอตการผลิตในต่างประเทศ ซึ่งยื่นเอกสารต่าง ๆ ค่อนข้างครบแล้ว อย่างไรก็ตาม อย.ได้ขอให้บริษัทส่งเอกสารข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนคุณภาพมาตรฐานการผลิตของโรงงานในต่างประเทศ ก่อนที่ผู้เชี่ยวชาญจะพิจารณาว่า จะอนุมัติการขึ้นทะเบียนหรือไม่ หากเอกสารครบจะพิจารณาได้ใน 1 สัปดาห์

หากวัคซีนตัวนี้ที่เป็นลอตการผลิตในต่างประเทศได้รับการขึ้นทะเบียน จะส่งผลต่อประเทศไทย คือ บริษัท สยามไบโอไซเอนฯ จะรับถ่ายทอดเทคโนโลยีมาผลิตในไทย 26 ล้านโดส เมื่อผลิตในประเทศเสร็จจะทำให้ขึ้นทะเบียนวัคซีนชนิดเดียวกัน แต่ต่างสถานที่ผลิตได้เร็วขึ้น เพราะหลักฐานการผลิตเหมือนกับลอตที่ผลิตในต่างประเทศ และที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย.แล้ว อย่างไรก็ตาม เอกชนจะไม่สามารถนำเข้าวัคซีนตัวนี้ได้ เพราะการยื่นขึ้นทะเบียนของบริษัท แอสตร้าเซนเนก้าระบุว่าจะขายให้รัฐบาลไทย เพราะเป็นการอนุมัติการขึ้นทะเบียนในภาวะฉุกเฉิน

ภญ.ศิริกุล เมธีวีรังสรรค์ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (GPO) ในฐานะผู้ยื่นขอขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวก เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ซิโนแวกทยอยส่งเอกสารมายังจีพีโอแล้ว และจีพีโอทยอยส่งให้ อย.พิจารณาเพื่อขึ้นทะเบียน ทั้งมีการตั้งทีมขึ้นมาดูแลเรื่องนี้และประสานกับ อย.โดยเฉพาะ คาดว่าเอกสารต่าง ๆ จะครบภายใน ม.ค.นี้ และมีเป้าหมายว่าจะให้ขึ้นทะเบียนได้ก่อนวันที่ 14 ก.พ.

กทม.ตั้งงบฯ 1,000-10,000 ล้าน

ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การประชุม ศบค.กทม. ได้หารือเรื่องการซื้อวัคซีนโควิด แต่ต้องรอดูท่าทีของคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติของรัฐบาลก่อนจะอนุมัติการฉีดวัคซีนอย่างไร และใช้วัคซีนของใคร

ส่วนการแจกจ่ายวัคซีนต้องให้รัฐดำเนินการก่อน ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้คำมั่นแล้วว่า พร้อมจัดสรรให้ประชาชนทุกคน โดยกทม.มีแผนกรณีที่รัฐขาดแคลนงบประมาณ โดยตั้งงบฯไว้ 1,000-10,000 ล้านบาท สำหรับซื้อวัคซีนเพื่อฉีดให้คน กทม. 5 ล้านคน โดยประเมินจากราคาในปัจจุบัน แพงสุดคือ โมเดอร์นาและซิโนแวกอยู่ที่โดสละ 1,000-1,200 บาท ถูกสุดคือแอสตร้าเซนเนก้าโดสละ 100-120 บาท

ทั้งนี้ วัคซีนแต่ละชนิดไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรื่องเงิน แต่มีเรื่องของคิวและโควตาที่ต้องตรวจสอบแต่ละชนิดจะได้ช้าหรือเร็ว

อปท.หารือ สธ.ช่วยจัดซื้อ

ด้านความเคลื่อนไหวขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่หลาย แห่งออกมาประกาศจะนำงบประมาณมาจัดซื้อวัคซีนเพื่อฉีดให้ประชาชน ล่าสุด นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น เปิดเผยว่า 2 สัปดาห์ที่แล้ว เทศบาลนครขอนแก่นประสานงานกับกระทรวงมหาดไทยขอออกระเบียบให้ใช้งบประมาณจัดซื้อวัคซีนมาฉีดให้ประชาชนที่อยู่ในทะเบียนราษฎร 1.1 แสนคน แต่ยังไม่มีผลตอบกลับมา และตั้งใจไว้ว่าจะจัดซื้อผ่านกระทรวงสาธารณสุขโดยตรง

ขณะที่นายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี เปิดเผยว่า เมื่อ 18 ม.ค.ได้เข้าไปหารือกับนายธนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสั่งซื้อวัคซีนผ่านกระทรวงสาธารณสุข และมอบหมายให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ลงพื้นที่สอบถามประชาชนเกี่ยวกับความต้องการในการฉีดวัคซีน โดยเบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบฯไม่ถึง 100 ล้านบาท

นางจินดา ถนอมรอด นายกเทศบาลนครแหลมฉบัง กล่าวว่า มีนโยบายจัดซื้อวัคซีนมาฉีดให้ประชาชน แต่รัฐบาลยังไม่อนุมัติให้ท้องถิ่นดำเนินการเอง โดยเตรียมนำเรื่องเข้าสู่วาระการประชุมของสภาเทศบาลในอาทิตย์นี้เพื่อของบฯ 110 ล้านบาท สำหรับประชากร 88,000 คน