กทม. ถกแผนใช้ยา “ฟาริพิราเวียร์” 600,000 เม็ด กับผู้ติดเชื้อโซนสีเขียว

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง

กทม.ถกหมอหลายฝ่ายใช้ยา “ฟาริพิราเวียร์” จ่อใช้ 6 แสนเม็ดกับผู้ติดเชื้ออาการไม่หนักก่อน ยันการใช้ยาอยู่ใต้การควบคุมของแพทย์ ก่อนกางตัวเลขผู้ติดเชื้อกทม.รวมแล้ว 1.4 พันราย เป็นผู้ติดเชื้อโซนสีเขียว 1.1 พันราย

เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2564 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการบริหารจัดการการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ของผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่กทม. โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สำนักการแพทย์ สำนักอนามัย และคณะแพทย์จากทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ ศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี นายกแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล นายกสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทยฯ พล.อ.ต.นพ.สันติ ศรีเสริมโภค รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นต้น ร่วมประชุม

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่ กทม.ขณะนี้เป็นสถานการณ์พิเศษซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรการปฏิบัติที่เข้มข้นมากกว่าปกติ ด้วยความห่วงใยในสถานการณ์แพร่ระบาดในปัจจุบัน กทม. จึงได้เตรียมพร้อมยาฟาวิพิราเวียร์กว่า 600,000 เม็ด เพื่อดูแลประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง โดยในที่ประชุมได้ร่วมกันหารือแนวทางการใช้ยาเพื่อให้เกิดประสิทธิผลและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน

ทั้งนี้ที่ประชุมเห็นร่วมกันว่า การให้ยาฟาวิพิราเวียร์แก่ผู้ป่วยเร็วจะมีผลดีต่อผู้ป่วยมากกว่าการให้ยาช้า รวมทั้งเห็นว่าแนวทางปฏิบัติเพื่อดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขเป็นแนวทางหลักที่ต้องถือปฏิบัติตาม

อย่างไรก็ตาม กทม.จะกำหนดมาตรการเสริมเพิ่มเติม อาทิ การเร่งตรวจหาผู้ป่วยเชิงรุกอย่างเข้มข้น จากนั้นจะคัดกรองผู้ป่วยตามระดับอาการป่วยแบ่งเป็นสีเขียว เหลือง และแดง และนำส่งต่อระบบการรักษาพยาบาล

Advertisment

จ่อใช้ “ฟาริพิราเวียร์” กับผู้ติดเชื้อโซนสีเขียว

ในส่วนของผู้ป่วยที่อยู่ระดับสีเขียว คือไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย รวมทั้งไม่มีปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดอาการรุนแรงของโรคจะได้รับการรักษาและติดตามอาการตามที่กทม. กำหนด คือการให้ยาฟาวิพิราเวียร์เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดความรุนแรงของโรค

โดยเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวบางส่วนเท่านั้นที่จะได้รับการรักษาด้วยยาฟาวิพิราเวียร์ ซึ่งต้องอยู่ในเกณฑ์ตามการประเมินของแพทย์ที่กทม. อาทิ เป็นผู้ป่วยที่มีปริมาณไวรัสในร่างกายมากกว่าผู้อื่นและเสี่ยงต่อการลุกลามของโรค ซึ่งเชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านี้หากได้รับยาตั้งแต่แรกได้และรักษาต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5-10 วัน จะช่วยรักษาไม่ให้กลายเป็นผู้ป่วยระดับสีเหลืองหรือสีแดงในอนาคตได้

อย่างไรก็ดีสิ่งสำคัญที่สุดคือกลุ่มผู้ป่วยสีเขียวนี้ต้องให้ความยินยอมในการรักษาด้วย

ทั้งนี้ กทม. จะจัดให้มีระบบการจัดเก็บข้อมูลจากการรักษา รวมทั้งมีมาตรการป้องกันผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการรักษาที่เพื่อปกป้องผู้ที่เข้าร่วมการรักษา และต้องมีการประเมินผลว่า การดำเนินตามนี้จะมีผลดีต่อการรักษาด้วยยาอย่างไร หรือจะมีผลทำให้เกิดเชื้อดื้อยาในอนาคตหรือไม่

Advertisment

ยันการใช้ยามีแพทย์ดูแล

ผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่า การใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ครั้งนี้จะเป็นไปภายใต้การควบคุมของแพทย์ มีการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล มีระบบการติดตามผลและประเมินซึ่งราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จะร่วมให้คำแนะนำในการศึกษา ติดตามและประเมินผลครั้งนี้ด้วย และหากพบว่าการรักษาตามที่กรุงเทพมหานครกำหนดครั้งนี้เกิดประโยชน์อาจนำไปเพิ่มเติมในคำแนะนำในการดูแลรักษาระดับประเทศต่อไปในอนาคตได้

เผยผู้ติดเชื้อโซนเขียว 1.1 พันราย

ปัจจุบันนี้กรุงเทพมหานครมีผู้ป่วยสะสมในพื้นที่ 1,478 ราย ในระดับสีเขียว คืออาการเพียงเล็กน้อย กว่า 1,192 ราย ระดับสีเหลือง 199 ราย และระดับสีแดง 38 ราย ที่ยังไม่ได้รับยา ซึ่งจะได้รับยาต่อเมื่อเลื่อนระดับอาการเป็นสีเหลืองและแดง คือมีปอดอักเสบและอาการรุนแรง