เอกสารเสนอขาย ซิโนฟาร์ม 20 ล้านโดส ว่อน! เข้าไม่ถึง “ประยุทธ์-อนุทิน”

อนุทิน-ประยุทธ์
FILE PHOTO : ROYAL THAI GOVERNMENT /

เอกสารเสนอขายวัคซีน ซิโนฟาร์ม 20 ล้านโดส ส่งได้ภายใน 2 สัปดาห์ ว่อนทั่วโลกออนไลน์ แต่เข้าไม่ถึง “ประยุทธ์-อนุทิน”

วันที่ 27 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์มีการเผยแพร่เอกสารจาก บริษัท แอคแคป แอสเซ็ทส์ จำกัด ส่งถึง ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ผู้อำนวยโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เรื่องการเสนอขายวัคซีนต้านโควิด-19 ยี่ห้อ SINOPHARM จากบริษัท TELLUS AGROTECH PRIVATE LIMITED จำนวน 20 ล้านโดส โดยมีเนื้อหาดังนี้

ตามที่ CHINA NATIONAL PHAMACEUTICAL GROUP CO., LTD. (SINOPHARM) ผู้ผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 SARS-COV-2 (Vero Cell), Inactivated 0.5 m ยี่ห้อ SINOPHARM และ CHINA NATIONAL BIOTEC GROUP CO., LTD. (CNBG) ได้แต่งตั้งให้ ASIA HEALTH SERVICES LIMITED และ BLUE STONE BIO PTE. LTD. (ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ASIA HEALTH SERVICES LIMITED) เป็นผู้จัดจำหน่าย วัคซีนดังกล่าวในภูมิภาคเอเซียแต่เพียงผู้เดียวตามลำดับ และ BLUE STONE BIO PTE. LTD.

ได้มอบหมายให้ TELLUS AGROTECH PTE. LTD. เป็นผู้ดำเนินการติดต่อและเสนอขายวัคชีนต้านโควิด-19 ยี่ห้อ SINOPHARM จำนวน 20,000,000 โดสให้แก่รัฐบาลไทย โดยวัคซีนยี่ห้อ และจำนวนดังกล่าวนั้น สามารถเริ่มดำเนินการจัดส่งได้ภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์ นับจากวันที่มีการลงนามในสัญญาซื้อขายและชำระเงินเรียบร้อยแล้ว รายละเอียดปรากฏตามสำเนาหนังสือที่แนบมาพร้อมกันนี้นั้น

บริษัท แอคแคป แฮสเซ็ทส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทฯพันธมิตรทางธุรกิจแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยของ TELLUS AGROTECH PTE. LTD. ได้รับการประสานงานให้ดำเนินการติดต่อนำวัคซีนต้านโควิด-19 ยี่ห้อและจำนวนดังกล่าว มานำเสนอโดยตรงต่อรัฐบาลไทย โดยไม่ผ่านตัวแทน หรือบริษัทผู้จัดจำหน่ายอื่นใด ซึ่งการดำเนินการในลักษณะนี้นั้น ตรงกับเจตนารมณ์ของบริษัท แอคแคป แอสเซ็ทส์ จำกัด ที่มีความประสงค์ในการสนับสนุนรัฐบาลต้านการจัดหาและจัดซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 ในภาวะเร่งด่วนนี้

ตลอดระยะเวลากว่า 1 เดือนที่ผ่านมา แม้ว่าบริษัทฯ จะพยายามดำเนินการติดต่อกับท่านนายกรัฐมนตรีและท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแล้ว แต่บริษัทฯก็ไม่สามารถที่จะเข้าถึง หรือเข้าพบเพื่อนำส่งเอกสารพร้อมนำเสนอวัคชีนยี่ห้อ และจำนวนดังที่กล่าวมาข้างต้นได้

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯได้รับทราบประกาศราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ผ่านทางราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๑๑๒ ง. ณ วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ.2564 ซึ่งระบุถึงหน้าที่ และอำนาจในการจัดหา ยา วัคซีน เวชภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์ และอื่นๆ ที่จำเป็น เพื่อการให้บริการทางการแพทย์ และการสาธารณสุข ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และสถานการณ์ฉุกเฉินอื่นๆ

ทางบริษัทฯ เห็นว่า วัคซีนต้านโควิด-19 ยี่ห้อ SINOPHARM จำนวน 20,000,000 โดส ซึ่งถูกจัดสรรไว้สำหรับราชอาณาจักรไทยนั้น ยังสามารถดำเนินการจัดส่งได้ภายในระยะเวลาที่กล่าวมาข้างต้น และน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในการจัดหาวัคซีนทางเลือกให้ได้อย่างรวดเร็วและเพียงพอต่อความต้องการ

บริษัท แอคแคป แฮสเซ็ทส์ จำกัด จึงขอนำส่งหนังสือฉบับนี้ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจของ TELLUS AGROTECH ผู้ได้รับมอบหมายจาก SINOPHARM และ CNBG เพื่อชี้แจงและประสานงานในการนำเสนอขายวัคซีนต้านโควิด-19 ดังที่กล่าวมานี้ และเพื่อเป็นการเสนอพิจารณาการจัดซื้อวัคซีนฯยี่ห้อและจำนวนดังกล่าว โดยรายละเอียดราคา เงื่อนไขการจัดซื้อ การจัดส่ง และขั้นตอนการดำเนินการสำคัญอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องนั้น

ทางบริษัทฯ ขอความอนุคราะห์จากท่านเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้โปรดพิจารณาอนุญาตให้ทาง บริษัทฯได้เข้าพบท่าน หรือคณะทำงานที่ท่านได้มอบหมาย เพื่อที่จะหารือในรายละเอียดต่อไป โดยสามารถติดต่อได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 09 1747 9191 และ 06 2939 7414

 

ล่าสุด นายแพทย์ นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว ระบุว่า

เห็นหนังสือนี้ร่อนไปทั่วบนระบบออนไลน์โดยที่ คนที่หนังสือนี้ส่งถึงยังไม่ได้เห็นหนังสือตัวเป็นๆเลย อย่างไรก็ดีถึงจะมาพบก็คิดว่าคงไม่ได้พบเหมือนกัน เพราะจากที่พยายามช่วยหาวัคซีน”ตัวเลือก”มาเพิ่มเติมระยะหนึ่งนั้น มีบริษัทหรือกลุ่มคนมากมายที่อ้างว่าเป็นตัวแทนของวัคซีนโน้นวัคซีนนี้ มากกว่าสิบกลุ่ม ……..ขอเรียนให้คนที่เห็นหนังสือนี้เข้าใจกันตามนี้ครับ 1)กลุ่มหรือบริษัทแบบนี้ที่ว่าเป็นตัวแทนนั้นเป็นไปได้ยาก 2)การเป็นตัวแทนใครในการนำยาหรือวัคซีนจริงต้องได้รับ dossier(รายละเอียดรายการประกอบยาและการผลิต)จากบริษัทเจ้าของเพื่อมาใช้ขอใบอนุญาตจาก อย 3)บริษัทผู้ผลิตวัคซีนโควิดขณะนี้ จะติดต่อกับรัฐบาลหรือตัวแทนรัฐบาลก่อนเท่านั้น ……เป็นเหมือนกันทุกบริษัททั่วโลกเพราะเป็นการใช้ในภาวะฉุกเฉิน จะไม่ติดต่อกับเอกชนเป็นรายๆหรือติดต่อคุยด้วยก็จะไม่ให้ dossier เพื่อยื่นขอใบอนุญาต 4)รัฐบาลหรือหน่วยงานรัฐบาลเมื่อติดต่อแล้วจึงอาจมอบหมายให้บริษัทที่ทำโลจิสติกเรื่องการขนส่งและเก็บวัคซีนที่มีมาตรฐานเฉพาะเป็นผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนและทำการขนส่งแทนหน่วยงานรัฐได้ 5)บริษัทหรือกลุ่มตัวแทนใดที่ว่าเป็นตัวแทนหรือมีวัคซีนเป็นล้านๆโดสโดยไม่มี dossier ที่ต้นทางจัดให้ ไม่ใช่ตัวแทนที่สมบูรณ์ครับ…..คงไม่ได้พบผมเช่นกัน 

ถ้าติดตามและอ่านประกาศของราชวิทยาลัยฯในราชกิจจานุเบกษาที่อ้างถึงให้เกินแปดบันทัด แล้วอ่านข้อบังคับลูกที่ตามมาก็จะทราบว่า ยังไงราชวิทยาลัยฯก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่มีครับ 

ขอร้องอย่าถือโอกาสโจมตีกัน แค่นี้ประชาชนคนเจ็บก็ทุกข์แย่อยู่แล้ว  นิธิ 27 พค 64