โฆษกรัฐบาลยัน มาตรการดึงต่างชาติเข้าไทย ชดเชยรายได้ท่องเที่ยว

โฆษกนายกฯ ชี้ มาตรการดึงต่างชาติศักภาพสูง ช่วยเสริมพัฒนาประเทศ
ภาพจาก pixabay

โฆษกนายกรัฐมนตรียืนยัน มาตรการดึงดูดต่างชาติศักยภาพสูงเข้ามาทำงานหรืออาศัยในประเทศ ทดแทนจำนวนนักท่องเที่ยวได้ พร้อมทั้งเสริมศักยภาพในการพัฒนาประเทศ วอนทุกฝ่ายเปิดใจกว้าง

วันที่ 20 กันยายน 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศ ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบนั้น การมีผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก เข้ามาทำงานหรือพักอาศัยทดแทนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่หายไปของไทย บรรเทาผลกระทบจากรายได้ภาคการท่องเที่ยวลดลง

ขณะเดียวกันยังจูงใจให้ผู้เชี่ยวชาญ/ผู้มีทักษะสูงด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เข้ามาเสริมศักยภาพในการพัฒนาประเทศ เชื่อมต่อเทคโนโลยี ถ่ายทอดองค์ความรู้ใหม่ ยกระดับทักษะและสมรรถภาพ และเพิ่มโอกาสการจ้างงานให้กับแรงงานภายในประเทศ ทั้งนี้ มีการกำหนด กลุ่มเป้าหมาย 4 กลุ่มที่ชัดเจน ได้แก่ กลุ่มประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง, กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ, กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย และกลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ

ซึ่งแต่ละกลุ่มมีเงื่อนไขที่ต้องเป็นประโยชน์ต่อการลงทุนและการพัฒนาประเทศไทย อาทิ ลงทุนขั้นต่ำในพันธบัตรรัฐบาลไทยตั้งแต่ 250,000-500,000 ดอลลาร์สหรัฐ มีหลักฐานการลงทุนในประเทศไทย มีรายได้ขั้นต่ำ 80,000 ดอลลาร์ หรือเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า 2 แนวทางในการดำเนินมาตรการ ทั้งการกำหนดให้มีวีซ่าประเภทพิเศษและการแก้ไขกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องนั้น มุ่งขจัดอุปสรรคที่เป็นปัญหาของนักลงทุนต่างประเทศที่จะเข้ามาลงทุนในไทย ซึ่งมาตรการต่าง ๆ ยังถูกกำหนดให้ประเมินผลสัมฤทธิ์ทุก ๆ 5 ปี โดยสามารถยกเลิกหรือปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์และเหมาะสมกับการส่งเสริมการลงทุนจากทั่วโลกได้

ในส่วนการเช่าหรือซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทย ยังคงยึดหลักการตามมาตรการทื่มีอยู่เดิม ไม่ได้เป็นไปตามที่บางกลุ่มพยายามบิดเบือนข้อมูลมาโจมตีรัฐบาล

โลกยุคหลังโควิด-19 จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและทิศทางการพัฒนาทั่วโลก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการดึงดูดคนที่มีศักยภาพสูง นอกจากจะช่วยชดเชยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศและการสูญเสียรายได้จากภาคการท่องเที่ยว ยังกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมก้าวหน้าในประเทศ

โดยคาดการณ์ว่า ภายใน 5 ปี หากเพิ่มกลุ่มเศรษฐกิจสูง/ผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ เข้ามาทำงานหรืออาศัยในไทยได้ 1 ล้านคน จะสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการใช้จ่ายภายในประเทศได้ 1 ล้านล้านบาท จากการลงทุนในประเทศ 8 แสนล้านบาท รัฐบาลจะมีรายได้จากภาษีเพิ่มขึ้น 2.7 แสนล้านบาท จากการเก็บภาษีรายได้ส่วนบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเกี่ยวกับการลงทุน

จึงขอทุกฝ่ายเปิดใจให้กว้าง ศึกษามาตรการอย่างลึกซึ้ง พิจารณาประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยในอนาคต พร้อมยืนยันว่า การดำเนินการทุกมาตรการของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีมุ่งส่งเสริมการเติบโตเศรษฐกิจไทย หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย เพราะไม่ต้องการให้ไทยสูญเสียโอกาสในการพัฒนาและพลิกโฉมประเทศ