“ครูจอมทรัพย์” ยืนยันปฏิเสธข้อกล่าวหา ระบุต้องสอบปากคำต่อหน้าทนายเท่านั้น !

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิ์เดชไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.นครพนม เดินทางมาที่ชั้น 5 เพื่อมาร่วมประชุมแนวทางกับคณะชุดคลี่คลายคดีครูจอมทรัพย์ หลังนายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง หนึ่งในผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาแสดงหลักฐานเท็จ และอั้งยี่ซ่องโจร หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจับกุมตัวนายสุริยาได้ ขณะหลบหนีบริเวณตลาดแยกทางรถไฟแจ้งวัฒนะ ก่อนที่ รอง ผบ.ตร.จะรุดไปสอบปากคำเบื้องต้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง เมื่อกลางดึกของวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา

พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นนายสุริยาให้รายละเอียดเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และให้การว่าได้ว่าจ้างนายเสริฐ รูปสะอาด ในการขัยรถรับผิดแทนครูจอมทรัพย์จริงในครั้งแรกวงเงิน 2 แสนบาท เมื่อนายเสริฐฯ ไม่สามารถเดินต่อไปได้ เพราะพยานหลักฐานไม่เอื้ออำนวยที่จะปั้นนายเสริฐ จึงเปลี่ยนตัวเป็นนายสับ วาปี และตกลงจ่ายจะจ่ายเงินให้นายสับ 4 แสนบาท แต่ศาลไม่ประทับรับฟ้อง นายสับจึงไม่ได้เงินดังกล่าว ได้แต่เงิน 1.7 แสนบาทที่ให้นายสับนำไว้วางศาล เพื่อชดใช้ค่าความเสียหายให้กับญาตินายเหลือ พ่อบำรุง ผู้ตาย ในคดีที่ศาลพิพากษาที่ให้นายสับสมอ้างว่าเป็นผู้ขับขี่ชนนายเหลือถึงแก่ตาย และนำเงินจำนวนดังกล่าวไปวางที่ศาล เพื่อให้ศาลเห็นว่าตนเองขับรถชนคนตาย เพื่อเอาผลคดีดังกล่าวไปรื้อฟื้นคดีเป็นคดีใหม่

ต่อข้อถามครูอ๋องและครูจอมทรัพย์มีส่วนรู้เห็นในกระบวนการรับผิดแทนตั้งแต่ต้นหรือไม่ พล.ต.อ.วิระชัยฯ กล่าวว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจครูจอมทรัพย์ทราบ ส่วนการจับกุมนายสุริยาฯ ได้อย่างรวดเร็ว เมื่อจับกุมตัวได้จะทำให้การสืบสวนสอบสวนชัดเจน และเห็นเครือข่ายที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

เมื่อถามว่า นายสุริยาฯ ซึ่งสารภาพแล้ว ส่วนนางจอมทรัพย์สารภาพตรงกันหรือไม่ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ตนยังไม่ได้สอบนางจอมทรัพย์ หลังการประชุมเสร็จสิ้นแล้วจะได้สอบสวนนางจอมทรัพย์ต่อไป ต่อข้อถาม นางจอมทรัพย์กับนายนิรันดร์ อดีตสามีที่ออกหมายเรียก จะมีเชื่อมโยงหรือไม่ รายละเอียดอยู่ในสำนวนการสอบสวน ขอรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อนว่าจะมีใครเกี่ยวข้องบ้าง จะได้ขออนุมัติหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ต่อข้อถามจะมีข้าราชการในทีมกระทรวงยุติธรรมกระทำผิดด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.วิระชัยฯ ระบุว่า ในการสืบสวนสอบสวนครั้งนี้ หากเกี่ยวพันกับใคร ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นใคร การสอบสวนพาดพิงถึงใครก็จะมีการไม่ไว้หน้า พบว่าใครกระทำผิดจะต้องดำเนินคดี หากมีการละเว้นเจ้าหน้าที่จะเป็นผู้กระทำผิดเสียเอง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157

เมื่อถามว่าเรื่องฉ้อโกงประชาชาชนของขบวนการนี้จะดำเนินการอย่างไร พล.ต.อ.วิระชัยฯ กล่าวว่า ขอรวบรวมพยานหลักฐาน ทุกข้อหาที่เกี่ยวข้องถ้าครบองค์ประกอบจะดำเนินคดีทั้งหมด ถึงแม้ว่าเจ้าทุกข์มากล่าวหาไม่ได้ แต่อะไรที่เป็นอาญาแผ่นดินผู้กล่าวคือพนักงานสอบสวน ก็สามารถเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษได้

การจับกุมนายสุริยา หรือครูอ๋อง ได้ในพื้นที่กรุงเทพฯครั้งนี้ พ.ต.อ.เสฏวุฒิ รอดจันทร์ ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครพนม ในฐานะคณะทำงานหัวหน้าชุดสืบสวนจับกุม ตามแกะรอยจีพีเอสรถของครูอ๋อง จนทราบความเคลื่อนไหว และติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด สำหรับครูอ๋อง เพื่อนครูจอมทรัพย์ผู้ต้องหาคนสำคัญ เป็นอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.มุกดาหาร ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการออกมารับผิดแทนครูจอมทรัพย์

ทั้งนี้เมื่อเวลา 07.30 น. ร.ต.อ.(หญิง) จุฬารัตน์ อาจภิรมณ์ หนึ่งในคณะทำงานชุดสอบสวน ได้นำตัวนางจอมทรัพย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาเดียวกันกับครูอ๋อง ออกมาจากห้องขัง สภ.เมืองนครพนม ในมือถือหมอนขิดและผ้าห่มมาด้วย เพื่อนำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม แต่นางจอมทรัพย์ยังคงยืนกรานให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยคณะชุดสอบสวนระบุว่า ครูจอมทรัพย์อยากให้ปากคำกับพนักงานสอบสวบสวนอยู่ แต่ต้องรอทนายของนางจอมทรัพย์ ซึ่งยังตกลงยังไม่ได้ว่าจะให้ทนายคนใดใน 4-5 คนชัดเจนเสียก่อน

โดยนางจอมทรัพย์ระบุว่าอยากให้การกับพนักงานสอบสวนอยู่ แต่ทั้งนี้ต้องสอบปากคำต่อหน้าทนายเท่านั้น เพราะนางจอมทรัพย์เกรงว่าจะเป็นบทเรียนซ้ำรอยเดิม เมื่อครั้งเคยถูกดำเนินคดีและติดคุกมาแล้ว แต่คงไม่ใช้นายณรงค์ ไชยตา ที่มาร่วมรับฟังการสอบปากคำเบื้องต้นเป็นทนายส่วนตัว เพราะนายณรงค์เป็นแค่ทนายอาสา

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ส่วนการคุมตัวนายสุริยา หรือครูอ๋อง มีรายงานว่าชุดจับกุมจะได้นำตัวผู้ต้องหาคนสำคัญรายนี้ มาสอบปากคำเบื้องต้นที่ บก.ภ.จว. แต่เนื่องจากไม่ได้จองเที่ยวบินไว้ล่วงหน้า การเดินทางโดยรถยนต์มากับชุดจับกุมอาจล้าช้า ซึ่งคาดว่าจะเดินทางมาถึงในช่วงบ่ายวันนี้

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์