ศบค. เปิด10 ประเทศเข้าไทย พบ “รัสเซีย-อังกฤษ” ติดโควิดมากสุด

ต่างชาติ นักท่องเที่ยว
Photo by Mladen ANTONOV / AFP

ศบค. เผยเปิดประเทศ 15 วัน ต่างชาติเดินทางเข้าไทยเกือบ 5.5 หมื่นคน พบติดเชื้อโควิด 65 คน ระบุ 10 ประเทศต้นทางพบรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อมากสุด 12 คน รองลงมาเป็นอังกฤษ 10 คน ส่วน “ไนจีเรีย” เข้ามาแค่ 30 คน ติดเชื้อ 2 คน มีอัตราการติดเชื้อสูงสุด ขณะที่สหรัฐฯ ยังเดินทางเข้ามามากที่สุด 8,430 คน

วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 รายงานสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศว่า ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 มีผู้ป่วยรายใหม่ 5,957 ราย หายป่วยแล้ว 1,891,026 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,001,837 ราย และเสียชีวิตสะสม 20,049 ราย

ส่วนข้อมูลสะสมตั้งแต่ปี 2563 มีผู้หายป่วยแล้ว 1,918,452 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,030,700 ราย และเสียชีวิตสะสม 20,143 ราย

วันนี้มีผู้ป่วยกำลังรักษาตัว 92,105 คน อยู่ใน รพ. 43,115 คน รพ.สนามและอื่น ๆ 48,990 คน ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 1,775 คน ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 411 คน ซึ่งเป็นตัวเลขลดลง

สำหรับผู้มารับการฉีดวัคซีน ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 มีผู้รับการฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 จำนวน 114,573 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 258,814 ราย เข็มที่ 3 จำนวน 25,834 ราย และระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 15 พฤศจิกายน 2564 มีผู้รับวัคซีนสะสมทั้งหมด จำนวน 85,412,126 โดส

  • จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 45,488,767 ราย
  • จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 37,114,546 ราย
  • จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 2,808,813 ราย

ทางด้านสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก ข้อมูล ณ วันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.00 น. มียอดผู้ติดเชื้อรวม 254,547,432 ราย อาการรุนแรง 77,608 ราย รักษาหายแล้ว 230,138,451 ราย และเสียชีวิต 5,121,625 ราย

อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด

  • 1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 48,072,898 ราย
  • 2. อินเดีย จำนวน 34,447,536 ราย
  • 3. บราซิล จำนวน 21,960,766 ราย
  • 4. สหราชอาณาจักร จำนวน 9,600,369 ราย
  • 5. รัสเซีย จำนวน 9,109,094 ราย

ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 24 ของโลก จากจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,030,700 ราย

10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดในวันนี้ อันดับ 1 ยังเป็นกรุงเทพมหาคร (กทม.) จำนวน 854 ราย รองลงมาเป็นสงขลา 458 ราย เชียงใหม่ 349 ราย ปัตตานี 323 ราย นครศรีธรรมราช 260 ราย นราธิวาส 205 ราย สุราษฎร์ธานี 189 ราย สมุทรปราการ 165 ราย ชลบุรี 162 ราย และตรัง 162 ราย

ขณะที่เมื่อเทียบจำนวนผู้ติดเชื้อในภาพรวมของประเทศวันนี้ พบว่า 67 จังหวัด มีผู้ติดเชื้อจำนวน 3,519 ราย สัดส่วนอยู่ที่ 60 % โดยตัวเลขในภาพรวมลดลง จังหวัดชายแดนใต้อยู่ที่ 1,135 ราย คิดเป็นสัดส่วน 19% ค่อนข้างทรงตัว กทม.และปริมณฑล มีจำนวน 1,229 ราย คิดเป็นสัดส่วน 21% ทรงตัวเช่นกัน

ส่วนตัวเลขผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ณ ท่าอากาศยาน ตั้งแต่วันที่ 1-15 พ.ย. ยอดสะสมอยู่ที่ 54,939 คน พบผู้ติดเชื้อดควิดสะสม 65 คน คิดเป็น 0.12 % โดยติดจากการเข้ามาแบบ Test & Go หรือแบบไม่กักตัว 31 คน จากคนที่เดินทางเข้ามา 39,930 คน คิดเป็น 0.08 %

และ 10 ประเทศต้นทางที่มีผู้เข้ามากที่สุด อันดับ 1 ยังเป็นสหรัฐอเมริกา จำนวน 8,430 คน เยอรมนี 6,242 คน สหราชอาณาจักร 2,875 คน ญี่ปุ่น 2,717 คน รัสเซีย 2,266 คน ฝรั่งเศส 2,104 คน เกาหลีใต้ 1,901 คน สวิตเซอร์แลนด์ 1,646 คน อิสราเอล 1,545 คน และสวีเดน 1,472 คน

นอกจากนี้ ศบค.ยังรายงานอัตราการติดเชื้อของผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรทางอากาศ จำแนกตามประเทศต้นทาง 10 อันดับ ตั้งแต่ 1-15 พ.ย. 2564 พบว่า อันดับ 1 คือประเทศไนจีเรีย จำนวนผู้เดินทางเข้ามา 30 ราย พบติดเชื้อ 2 ราย คิดเป็นอัตราการติดเชื้อ 6.67%

รองลงมาเป็นประเทศศรีลังกา เดินทางเข้ามา 79 ราย ติดเชื้อ 1 คน คิดเป็นอัตราการติดเชื้อ 1.27% 3.  ซาอุดิอาระเบีย เดินทางเข้ามา 171 คน พบผู้ติดเชื้อ 2 คน คิดเป็นอัตราการติดเชื้อ 1.17% ส่วนอันดับ 4 มาจากตุรกี 112 คน พบผู้ติดเชื้อ 1 คน อันดับ 5 รัสเซีย เดินทางเข้ามาจำนวน 2,266 คน ติดเชื้อ 12 คน อัตราการติดเชื้ออยู่ที่ 0.53%

ส่วนประเทศอื่นมี อันดับ 6. สหรัฐอาหรับเอมิเรรตส์ (UAE) เดินทางเข้ามา 1,392 คน พบติดเชื้อ 5 คน คิดเป็นอัตราส่วน 0.66% อันดับ 7. สหราชอาณาจักร เดินทางเข้ามาจำนวน 2,875 คน พบติดเชื้อ 10 คน อัตราการติดเชื้ออยู่ที่ 0.35% (ดูตามตาราง)

Test & Go พบเชื้อ 4 ราย แซนด์บอกซ์ 1 ราย

การรายงานการติดเชื้อของผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 11 ราย พบจากรูปแบบ Test & Go จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย ประเทศเนเธอแลนด์ 1 ราย ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ เดินทางเข้า จ.สมุทรปราการ จากสหรัฐอเมริกา 2 ราย ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการทุกราย เดินทางเข้า จ.ชลบุรี 1 ราย และ จ.ภูเก็ต 1 ราย จากฝรั่งเศส 1 ราย ผลพบเชื้อไม่มีอาการ เดินทางเข้า กทม. และรูปแบบแซนด์บอกซ์ 1 ราย เดินทางมาจากสหราชอาณาจักร ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ เดินทางเข้า ภูเก็ตแซนด์บอกซ์

ข้อมูลผู้เสียชีวิตประจำวัน 62 ราย แบ่งเป็น เพศชาย 34 ราย เพศหญิง 28 ราย เป็นชาวไทย 61 ราย เมียนมา 1 ราย มีค่ากลางของอายุอยู่ที่ 68 ปี (ตั้งแต่ 27-92 ปี) ผู้ที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป 47 ราย คิดเป็น 76% อายุน้อยกว่า 60 ปี มีโรคเรื้อรัง 12 ราย คิดเป็น 19% และไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 3 ราย คิดเป็น 5%

ผู้เสียชีวิตทั้งหมด พบใน กรุงเทพมหานคร มากสุด 6 ราย สมุทรปราการ 3 ราย ขอนแก่น 3 ราย นครราชสีมา 2 ราย มหาสารคาม 1 ราย เชียงใหม่ 4 ราย เชียงราย 1 ราย เพชรบูรณ์ 2 ราย พิจิตร 2 ราย กำแพงเพชร 1 ราย

แถบภาคใต้ จากสุราษฎร์ธานี 3 ราย นครศรีธรรมราช 1 ราย ภูเก็ต 1 ราย สงขลา 5 ราย ปัตตานี 3 ราย สตูล 1 ราย ยะลา 4 ราย นราธิวาส 1 ราย ตรัง 1 ราย

สุพรรณบุรี 2 ราย ฉะเชิงเทรา 1 ราย ราชบุรี 6 ราย กาญจนบุรี 2 ราย ระยอง 2 ราย จันทบุรี 1 ราย ตราด 1 ราย ปราจีนบุรี 1 ราย และสระแก้ว 1 ราย