เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ออกเอกสารข่าวชี้แจงกรณี หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ได้กล่าวถึงการคัดเลือกข้าราชการเพื่อเสนอแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ
ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่าผู้บริหารกรมสอบสวนคดีพิเศษไม่คำนึงถึงความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในสาขางานแต่ละด้าน คัดเลือกคนไม่มีผลงานที่ชัดเจน
โดยเอกสารระบุว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษขอชี้แจงว่า ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.๒๕๔๗ ได้กำหนดให้ตำแหน่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เป็นตำแหน่งที่เป็นสหวิชาชีพ กล่าวคือไม่จำกัดวุฒิการศึกษาว่าต้องเป็นกฎหมายเพียงอย่างเดียว แต่ประกอบด้วยวุฒิการศึกษาหรือความรู้ความสามารถที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินคดีพิเศษ โดยในการดำเนินคดีพิเศษจะมีการแต่งตั้งเป็นคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ประกอบด้วยผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องที่สืบสวนสอบสวน
ทั้งนี้ เพื่อให้การสืบสวนและสอบสวนคดีพิเศษซึ่งเป็นคดีสำคัญที่มีผลกระทบต่อประเทศในด้านต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นการสั่งสมความเชี่ยวชาญตามความถนัดของแต่ละบุคคล สำหรับตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษของกรมสอบสวนคดีพิเศษก็มีความสอดคล้องกับหลักการดังกล่าว ซึ่งสำนักงาน ก.พ.ได้กำหนดให้มีผู้เชี่ยวชาญหลายด้าน หลายสาขา ทั้งการสืบสวนสอบสวน กฎหมายเกี่ยวกับการสอบสวน การปฏิบัติการ ทางยุทธวิธี เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่สนับสนุนการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษให้มีประสิทธิภาพทั้งสิ้น และในการคัดเลือกผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ ก็ดำเนินการตามหนังสือ สำนักงาน ก.พ.ที่ นร ๑๐๐๖/ว ๗ ลงวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๒ และที่ นร ๐๗๐๘.๔/ว ๑๖ ลงวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๓๘ ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์กลางที่สำนักงาน ก.พ.กำหนด โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษมีการประกาศคุณสมบัติและเกณฑ์การให้คะแนนที่ชัดเจนเป็นการล่วงหน้า มีการคัดเลือกในรูปแบบคณะกรรมการ ประกอบด้วยอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นประธานกรรมการ และมีรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษทุกท่าน เป็นคณะกรรมการ
มีคณะกรรมการพิจารณาผลงานที่สำนักงาน ก.พ. แต่งตั้ง และเมื่อผลงานผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ
ที่สำนักงาน ก.พ.ตั้งขึ้นแล้ว จึงจะเสนอปลัดกระทรวงยุติธรรมลงนามแต่งตั้ง มิใช่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นผู้แต่งตั้ง ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติเช่นเดียวกันกับหน่วยงานในสังกัดข้าราชการพลเรือนทั่วไป ในห้วงเวลาที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษมีการประกาศรับสมัครข้าราชการเข้ารับการคัดเลือกให้เข้ารับประเมินผลงานเพื่อเลื่อนตำแหน่งและแต่งให้ดำรงตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ จำนวน ๘ ตำแหน่ง ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษมีความโปร่งใสในการดำเนินการ กระบวนการคัดเลือกเป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้น และผู้มีส่วนได้เสียในการคัดเลือกสามารถขอตรวจดูคะแนนผลการประเมินได้ตามกฎหมาย
จึงชี้แจงมาเพื่อทราบ
ที่มา : มติชนออนไลน์