“ฉัตรชัย” กำชับ เดินหน้าปราบโกงเงินทอนวัด ด้าน“สุวพันธุ์” หวังใช้พลิกวิกฤตนี้ เร่งปฏิรูปทั้งวงการ

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับนโยบายสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวถึงการเดินหน้าเอาผิดอดีต ผอ.พศ.กรณีทุจริตเงินทอนวัดพนัญเชิงกว่า 20 ล้านว่า ก่อนหน้านี้ได้คุยกับนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าเรื่องนี้ละเอียดอ่อนและสังคมให้ความสนใจ หากจะทำอะไรให้ดูอย่างรอบคอบที่สุด และช่วงเวลานี้มีเรื่องที่เกี่ยวกับพศ.อย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นจะทำอะไรให้หารือกับตนก่อน ส่วน พ.ต.อ.พงศ์พร พราหมเสน่ห์ ผอ.พศ. ได้พบและพูดคุยกันแล้ว โดยขอให้เร่งรัดการทำงานในช่วงเวลานี้ และพยายามสร้างความเข้าใจในการแก้ปัญหาให้ประชาชน ทุกอย่างต้องทำควบคู่กันไป

ด้าน นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดำเนินการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับวงการพระพุทธศาสนา ในปี 2561 ว่า การดำเนินเกี่ยวกับคดีความจะยังคงมีต่อไป ไม่หายไปกับสายลม โดยยึดหลักความถูกต้อง อะไรถูกว่าไปตามถูก อะไรผิดว่าไปตามผิด ดำเนินการไปตามพยานหลักฐานข้อมูลที่ปรากฎ หากพบคนทำผิดเป็นข้าราชการต้องถูกลงโทษทางวินัยและอาญา ทั้งนี้ ทั้งคณะสงฆ์ สำนักงาน พศ. และรัฐบาลต้องการให้พระพุทธศาสนาเป็นที่ศรัทธาและที่พึ่งทางใจแก่ประชาชน และคณะสงฆ์จะได้มีกำลังใจช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนาและสอนหลักธรรมเพื่อให้สังคมดีขึ้น สิ่งเหล่านี้ทำให้จำเป็นต้องทำงานร่วมกับคณะสงฆ์ เพื่อช่วยดำเนินการในเรื่องเหล่านี้ ส่วนเรื่องที่เกี่ยวกับการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ต้องร่วมกันทำให้ถูก

ผู้สื่อข่าวถามว่าประชาชนเสื่อมศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาจากกรณีทุจริตเงินทอนวัด รัฐบาลจะให้นโยบาย พศ.หรือทางคณะสงฆ์เพื่อช่วยฟื้นศรัทธาอย่างไร นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า อย่ามองว่าประชาชนเสื่อมศรัทธามากหรือน้อย แต่ทุกวิกฤตยังเป็นโอกาสได้ ขึ้นอยู่กับว่าจะทำให้วิกฤตเหล่านั้นมาเป็นโอกาสได้อย่างไร เรื่องทุจริตเงินอุดหนุนวัดก็เช่นกัน แม้จะเป็นวิกฤตของคณะสงฆ์และ พศ. แต่ยังสามารถนำเรื่องนี้มาเป็นโอกาสในการปฏิรูประบบงานของ พศ.และการทำงานของคณะสงฆ์ และเคยนำเรื่องนี้ไปคุยกับผู้บริหาร พศ.ว่า ต้องมาช่วยกันปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของ พศ.ให้ดีขึ้น ทั้งนี้ ยังไม่สามารถบอกได้ว่าการปรับปรุงจะเห็นผลได้เมื่อใด เพราะงานพระพุทธศาสนาเป็นนามธรรมที่เกี่ยวกับจิตใจ ความเชื่อและความรู้สึกของคน สิ่งที่จะวัดได้คือทำให้ประชาชนเพิ่มความศรัทธาต่อคณะสงฆ์และกิจการพระพุทธศาสนา และเชื่อมั่นต่อหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง

 

ที่มา  มติชนออนไลน์

Advertisment