เปิดเงื่อนไขสิทธิบัตรทอง ใช้บริการด้านทันตกรรม คุ้มครอง-ไม่คุ้มครอง กรณีใดบ้าง
วันที่ 23 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทอง สิทธิ 30 บาท หรือสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จะได้รับสิทธิบริการด้านทันตกรรม โดยสามารถเข้ารับบริการที่สถานพยาบาลประจำตามสิทธิ และหากหน่วยบริการตามสิทธิเกินศักยภาพ จะส่งต่อไปยังสถานพยาบาลที่สามารถรักษาได้ตามขั้นตอน
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ทำฟัน สิทธิบัตรทอง “คุ้มครอง” อะไรบ้าง
สำหรับสิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรมจะคุ้มครองสิทธิ ดังต่อไปนี้
1. การถอนฟัน
2. การอุดฟัน เช่น อุดคอฟัน เป็นต้น
3. ขูดหินปูน
4. ฟันปลอมฐานพลาสติก ทั้งแบบซี่ถอดได้และแบบทั้งปากถอดได้
- ฟันปลอมแบบถอดได้มีอายุการใช้งาน 5 ปี หากผู้รับบริการได้รับความเห็นจากแพทย์ว่ามีความจำเป็นต้องซ่อมฟันปลอมก่อน 5 ปี ผู้รับบริการสามารถใช้สิทธิได้
5. รักษาโพรงประสาทฟันน้ำนม (รากฟันน้ำนม)
6. ใส่เพดานเทียมในเด็กปากแหว่งเพดานโหว่
7. ผ่าฟันคุด (ตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์)
8. เคลือบหลุมร่องฟัน (เด็กโตและวัยรุ่น อายุ 6-24 ปี)
9. การทาฟลูออไรด์วาร์นิช (เด็กอายุ 9 เดือน- 5 ขวบ)
10. การเคลือบฟลูออไรด์ (เด็กโตและวัยรุ่น อายุ 6-24 ปี)
- การเคลือบฟลูออไรด์แบบเข้มข้น ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคฟันผุ กลุ่มเสี่ยงได้แก่ ผู้ที่มีภาวะน้ำลายแห้งจากการรักษามะเร็งด้วยการฉายแสงบริเวณใบหน้าและลำคอ หรือจากการกินยารักษาโรค ทางระบบที่ส่งผลให้น้ำลายแห้งติดต่อกันเป็นเวลานาน รวมทั้งผู้ที่มีอาการเหงือกร่น รากฟันโผล่ ที่ยากต่อการทำความสะอาด
11. โรคปริทันต์อักเสบ สิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรมคุ้มครอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ในการรักษา
- โรคปริทันต์ คือ โรคที่มีการอักเสบของอวัยวะที่อยู่รอบ ๆ ตัวฟัน ได้แก่ เหงือก เอ็นยึดปริทันต์ เคลือบรากฟัน และกระดูกเบ้าฟัน ถ้าไม่ได้รับการรักษาอวัยวะต่าง ๆ เหล่านี้จะถูกทำลายไปอย่างช้า ๆ ทุกวันจนต้องสูญเสียฟันไปในที่สุด
12. การผ่าตัดใส่รากฟันเทียมสำหรับผู้ที่ไม่มีฟันทั้งปาก
ให้บริการผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่ไม่มีฟันทั้งปากและมีข้อบ่งชี้การใส่รากฟันเทียม ด้วยบริการใส่รากฟันเทียมและการบำรุงรักษา
บัตรทอง “ไม่คุ้มครอง” สิทธิทำฟัน อะไรบ้าง
1. การครอบฟันน้ำนม/ครอบฟันแท้ เป็นการรักษาไม่ใช่บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค
2. การรักษารากฟันแท้
สาเหตุที่สิทธิประโยชน์ สปสช. ยังไม่คุ้มครองเรื่อง การรักษารากฟันแท้ เนื่องจากเป็นข้อเสนอของคณะทำงานด้านสิทธิทางทันตกรรม โดยความเห็นชอบของทันตแพทยสภา ว่า ควรให้เฉพาะการรักษารากฟันน้ำนมก่อน เนื่องจากมีความสำคัญต่อสุขภาพมากกว่า
ซึ่งทางทันตแพทย์ให้ความเห็นทำนองนี้ และบอกว่า การรักษารากฟันในเด็กเป็นการป้องกัน ส่วนในผู้ใหญ่เป็นการรักษา และรักษารากฟันอย่างเดียวในผู้ใหญ่นั้นไม่เพียงพอ เพราะฟันจะเปราะ ต้องมีการทำครอบฟันด้วย ซึ่งการทำครอบฟันนี้เห็นกันว่า อาจดูก้ำกึ่งจัดเป็นการเสริมสวยก็ได้ แต่ถ้าไม่ทำครอบฟัน ในที่สุดไม่นานก็ต้องถอนแล้วใส่ฟันปลอมอยู่ดี
รวมทั้งมีปัญหากำลังคนด้วย เพราะอาจต้องใช้ทันตแพทย์เฉพาะทาง ดังนั้นจึงเห็นพ้องต้องกันว่า ถอนแล้วใสฟันเทียมน่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่า จึงเป็นที่มาของสิทธิการได้รับฟันเทียมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
การรักษารากฟัน เป็นการรักษาโดยการประสาทฟันในรากฟันออกแล้วทำความสะอาด จนถึงการอุดคลองรากฟัน จากนั้น จำเป็นต้องทำครอบฟันสวมทับอีกที
3. การเตรียมช่องปากเพื่อการจัดฟัน
- กรณีขออุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน ผ่าฟันคุด หากวัตถุประสงค์ต้องการทำเพื่อการจัดฟันถือว่าเกินความจำเป็น ไม่มีข้อบ่งชี้ของแพทย์เพื่อการรักษาถือว่าไม่คุ้มครอง
4. การเกลาฟันหรือเกลารากฟัน (Root Planing) ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ในการรักษา
การเกลาฟัน คือเป็นการรักษาสำหรับคนที่เป็นโรคเหงือกอักเสบหรือผู้ที่ไม่ได้รับการขูดหินปูนจากทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ หรือจากการสะสมของคราบแบคทีเรียจากอาหารที่ไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างถูกต้องพอเหมาะ ทำให้ปริมาณหินปูนที่เกาะบนเนื้อฟันค่อย ๆ ขยายตัวลงไปยังบริเวณรากฟันใต้เหงือก จนเหงือกไม่สามารถติดกับฟันโดยตรงเหมือนเดิม) ปกติแล้ว ร่องเหงือกจะมีความลึกที่ 1-3 มิลลิเมตร
หากเป็นร่องลึกกว่า 4 มิลลิเมตร ต้องได้รับการทำความสะอาดให้เนื้อฟันเรียบหรือการเกลารากฟันนั่นเอง โดยทันตแพทย์จะใช้เครื่องมือขจัดหินปูน/หินน้ำลายออก ผู้ที่เป็นโรคเหงือกอักเสบรุนแรง มักต้องเข้าพบทันตแพทย์บ่อยครั้งกว่าคนทั่วไป เพื่อดูแลและตรวจเช็กอาการของโรคอย่างสม่ำเสมอ