สำเร็จแล้ว! เล็งแยกเครือข่าย หลังอัปเกรด The Merge Ethereum

อัปเกรด The Merge เสร็จสิ้นช่วยลดการใช้พลังงานให้เครือข่ายบล็อกเชนอันดับสองของโลก ชุมชนนักขุดเล็งเก็บรักษาเครือข่ายเก่าชื่อ ETHW ซ้ำรอย Ethereum Classic?

วันที่ 15 กันยายน 2565 นายวิตาลิก บูตริน ผู้ร่วมก่อตั้งบล็อกเชนอีเธอเรียม (ETH) ได้ประกาศความสำเร็จบนทวิตเตอร์ส่วนตัว ถึงการอัปเกรด The Merge Ethereum ที่แล้วเสร็จช่วงเวลา 14.00 น. ที่อัตราความยากในการขุดถึงจุดสูงสุดหยุดที่ตัวเลข 58750000000000000000000 ทำให้เครื่องขุดอีเธอเรียมทุกตัวไม่สามารถคำนวนบนเครือข่ายได้อีกต่อไปซึ่งจะทำให้เกิดการควบรวม (Merge) เครือข่ายระหว่าง Beacon Chain และ Ethereum Mainnet

“เราทำเสร็จสิ้นแล้ว! นี่เป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่สำหรับระบบนิเวศของ Ethereum ทุกคนที่ช่วยกันทำให้การควบรวมเครือข่ายเกิดขึ้น วันนี้ควรรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง”

นอกจากนี้ยังได้อ้างว่า The Merge จะลดการใช้ไฟฟ้าทั่วโลกลง 0.2%

ย้อนรอย Ethereum

เดิมที Ethereum เป็นบล็อกเชนที่ใช้กำลังการคำนวนจากเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมกันเป็นบล็อกเชนเพื่อสุ่มตัวเลขยืนยันการทำธุรกรรมในลักษณะเดียวกับเครือข่าย Bitcoin คือการใช้งานฉันทามติ Proof of Work ต่อมามีการใช้งานEthereum อย่างกว้างขวางทั้งด้าน Defi, GameFi, NFT ตลอดจน Dapp ยุคใหม่ล้วนถูกสร้างขึ้นบนบล็อกเชน Ethereum ทำให้มีความจำเป็นต้องขยายขนาดการใช้งาน ซึ่งการขยายขนาดอีเธอเรียมจะมีการเปลี่ยนฉันทามติจาก Proof of Work (PoW) ไปสู่ Proof of Stake (PoS) โดยการอัปเกรด The merge เป็นลำดับแรก

จากนั้นจะมีการอัปเกรดระบบครั้งใหญ่อีกหลายครั้ง เพื่อพัฒนาตนเองให้เป็นบล็อกเชนที่สมบูรณ์แบบ หรือการแก้ปัญหาสามเส้าของบล็อกเชน หรือ Blockchain Trilemma นั่นคือปัญหาที่ว่าบล็อกเชนปัจจุบันยังไม่สามารถมี 1.ความปลอดภัย 3.การกระจายอำนาจ และ 3.สามารถขยายขนาดรองรับคนจำนวนมาก ทั้งสามเส้านี้ยังไม่สามารถทำได้พร้อมกัน ซึ่งการอัปเกรด The Merge หลายฝ่ายมองว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ 3 คือการขยายขนาด

ที่สำคัญ คือ การใช้ระบบฉันทามติ Proof of Stake จะทำให้เครือข่ายที่มีการใช้งานหนาแน่นที่สุดในโลกอย่างอีเธอเรียม ลดการใช้พลังงานของเครือข่ายถึง 99%

ชุมชน-นักขุด เล็งแยกใช้เครือข่าย

แม้การอัปเกรดนี้จะเป็นเหตุการณ์อัปเกรดที่หลายคนเฝ้ารอ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วยกับ The Merge นักขุดและนักพัฒนาบางส่วนได้เริ่มพูดถึงโทเคนและเหรียญ ETH ในบล็อกเชนเดิมก่อนการ Merge

เมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมามีการสร้างเว็บไซต์ ethereumpow.org โดยระบุในคำอธิบายว่า

“เหล่าผู้ก่อตั้งอีเธอเรียม (Ethereum Foundation) กำลังเปลี่ยนไปใช้ PoS fork ในขณะที่เราตัดสินใจที่จะอยู่กับ PoW Ethereum”

คาดการณ์ว่าการแยกตัวของเครือข่าย PoW Ethereum (ETHW) ที่ยังคงใช้กลไกฉันทามติแบบ Proof of Work จะเกิดขึ้นภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมงหลังการอัปเกรด The Merge โดยข้อมูลจากทวิตเตอร์ @EthereumPoW ชื่อบัญชีผู้ใช้ของทีมงานเครือข่าย ETHW ระบุว่า คาดว่าจะมีการประกาศเริ่มเปิดใช้งานเครือข่ายอย่างเป็นทางการล่วงหน้าเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น chainID ของเครือข่าย ETHW จะถูกเปลี่ยนไปเป็น 10001

พร้อมกับจะมีการเผยแพร่โค้ดฉบับสมบูรณ์ ไฟล์สำหรับปรับตั้งค่า แฟ้มข้อมูลฐานสอง รวมถึงชุดข้อมูลสำคัญอื่น ๆ อย่างเช่นข้อมูลของโหนดข้อมูลของระบบเรียกใช้งานโปรแกรมย่อยระยะไกล และข้อมูลของโปรแกรมสำรวจความเคลื่อนไหวบนบล็อกเชน

การประกาศแยกเครือข่ายลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นในปี 2015 ในเหตุการณ์ Ethereum Hack DAO ครั้งนั้น Ethereum Foundation ได้แยกเครือข่ายเพื่อกู้คืนเงินที่ถูกแฮ็กไปจากระบบ ทำให้นักพัฒนาบางส่วนไม่พอใจและยังยืนยันที่จะอยู่ในเครือข่ายเดิม ซึ่งใช้ชื่อว่า Ethereum Classic (ETC) จนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ หลังประกาศกำหนดการ The Merge นักขุดอีเธอเรียมบางส่วนได้ย้ายกำลังขุดไปซบ Ethereum Classic จนผลักดันราคา ETC โตกว่า 200%

อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าจับตามองต่อไปว่า การแยกเครือข่าย PoW Ethereum (ETHW) จะสามารถดำเนินตามรอยทางของ Ethereum Classic เพื่อรักษาวิธีคิดและอุดมการณ์ได้สำเร็จหรือไม่ เพราะตอนนี้ข้อมูลต่างๆ ทั้ง White Paper, Code, ChainID และสิ่งที่ผู้ติดตามควรรู้ต่างๆ ยังไม่ปรากฎขึ้นบนเว็บไซต์ Ethereum ให้แฟนๆ ได้ชื่นชม