“MoCheck-NetCare” แอปพลิเคชั่นน้องใหม่จาก “กสทช.”

แม้จะเป็นองค์กรรัฐที่ทำหน้าที่กำกับดูแลกิจการด้านการสื่อสารโทรคมนาคม และวิทยุ-โทรทัศน์ แต่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ “กสทช.” เป็นอีกหน่วยงานที่เปิดตัวแอปพลิเคชั่นให้ประชาชน และผู้ประกอบการโทรคมนาคม ได้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ แอป 2 แชะ, 2 แชะอัตลักษณ์, กันกวน, 3 ชั้น ล่าสุดเพิ่งเปิดตัว 2 น้องใหม่อย่าง MoCheck และ NetCare

“ก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร” รองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการโทรคมนาคม เปิดเผยว่า สาเหตุที่องค์กรกำกับอย่าง กสทช.ต้องมีการพัฒนาแอปพลิเคชั่นออกมาให้ประชาชนได้ใช้งานเพื่อสร้างเครื่องมือในการกำกับดูแลให้กับ กสทช. และเป็นการเพิ่มอำนาจในการกำกับดูแลการใช้บริการโทรคมนาคมของตัวเองให้กับประชาชนด้วย

“อย่างแอปพลิเคชั่น 2 แชะ และ 2 แชะอัตลักษณ์ เป็นเครื่องมือช่วยในการลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทั้งในแง่ของการอำนวยความสะดวกและการสร้างความมั่นใจในการลงทะเบียนซิมของประชาชน เมื่อมีการลงทะเบียนซิมยืนยันตัวบุคคลผู้ใช้งานแล้ว กสทช.เปิดตัวแอปพลิเคชั่น 3 ชั้นออกมาเพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ว่า มีใครแอบอ้างชื่อของตัวเองไปลงทะเบียนใช้งานซิมการ์ดหรือไม่ และในการใช้งานหากมีปัญหาการโทรศัพท์เข้ามาขายของ ขายประกัน กระทบความเป็นส่วนตัว ก็จะมีแอปพลิเคชั่นกันกวน ซึ่งมีฟังก์ชั่นให้ปิดกั้นเลขหมายไม่พึงประสงค์และรายงานเลขหมายที่สร้างปัญหามายัง กสทช.เพื่อให้ตรวจสอบและแจ้งให้โอเปอเรเตอร์ปิดกั้นได้”

สำหรับ 2 แอปพลิเคชั่นใหม่คือ MoCheck และ NetCare จะเข้าไปช่วยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเพิ่มขึ้นอีกขั้น โดย MoCheck จะทำให้ประชาชนตรวจสอบได้ว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นใด หรือรุ่นที่สนใจจะซื้อผ่านการตรวจรับรองมาตรฐานจากสำนักงาน กสทช.แล้วหรือยัง ไม่ให้เกิดปัญหาจากการใช้งานเครื่องที่ไม่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพที่อาจก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้งาน อาทิ แบตเตอรี่ระเบิด ขณะที่ NetCare จะช่วยผู้ปกครองสร้างกติกาในการใช้งานโมบายอินเทอร์เน็ตของบุตรหลานในรูปแบบของจำนวนชั่วโมง เวลาการใช้งาน และเนื้อหาที่เข้าถึงได้หรือไม่ได้ เพื่อคืนเด็กจากโลกออนไลน์สู่พ่อแม่ ซึ่งในต่างประเทศก็มีบริการประเภทนี้อยู่ เนื่องจากมีงานวิจัยระบุถึงผลจากการติดโทรศัพท์มือถือของเด็กที่จะทำให้มีพัฒนาการถดถอย อาจสมาธิสั้นและก้าวร้าวได้ จึงได้พัฒนา NetCare ร่วมกับแพทย์จาก 3 โรงพยาบาล ได้แก่ ศิริราช รามาธิบดี และ จุฬาลงกรณ์

“เสน่ห์ สายวงศ์” รักษาการผู้อำนวยการ สำนักมาตรฐานและเทคโนโลยีโทรคมนาคม สำนักงาน กสทช. กล่าวเสริมว่า ก่อนที่จะแอปพลิเคชั่น MoCheck จะมีเพียงระบบค้นหาจากเว็บไซต์ของสำนักงาน กสทช. และไม่ได้มีข้อมูลละเอียดมาก แต่ MoCheck จะเป็นระบบค้นหาอัจฉริยะที่ค้นได้ทั้งจากภาษาไทยและอังกฤษ จากยี่ห้อ รุ่น โรงงานผู้ผลิต ชื่อผู้ประกอบการ ประเภทหรือชนิดของเครื่อง หมายเลขรับรองมาตรฐาน และหมายเลข NBTC ID ซึ่งเมื่อค้นเจอข้อมูลจะแสดงทั้งโลโก้ รุ่น หมายเลขรับรอง ชื่อผู้ยื่นขอรับรอง ผู้ผลิตผู้นำเข้า เลขหมายโทรศัพท์และที่อยู่ติดต่อ อีเมล์ ภาพถ่าย ข้อมูลรายละเอียดทางเทคนิค ภาพสำเนาใบรับรอง เป็นต้น

Advertisment

“ผู้บริโภคมีสิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองด้วยการเปิดเผยข้อมูลว่า เครื่องแต่ละรุ่นที่ถูกระบุมีหน้าตาอย่างไร ผู้ประกอบการรายใดเป็นผู้นำเข้า ผู้ผลิต เป็นผู้รับผิดชอบเมื่อเกิดปัญหาจากการใช้งาน ซึ่งจะทำให้เข้าถึงความปลอดภัยในการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้มากขึ้น ไม่ใช่เหมือนเมื่อก่อนที่แบตเตอรี่มือถือระเบิดแล้วไม่รู้จะให้ใครมารับผิดชอบ”

นอกจากอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคแล้ว ยังรวมไปถึงกลุ่มผู้ผลิตนำเข้าสินค้า และหน่วยงานกำกับดูแลอื่น ๆที่เกี่ยวข้อง อาทิ ศุลกากร ที่สามารถตรวจสอบได้ว่า เครื่องที่นำเข้ามานี้ได้รับการตรวจสอบคุณภาพและรับรองมาตรฐานครบกระบวนการที่จะนำเข้ามาขายในประเทศได้แล้วหรือไม่

ปัจจุบัน MoCheck สามารถดาวน์โหลดใช้งานแล้วสำหรับผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ส่วน iOS กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล คาดว่าจะใช้เวลาอีกราว 2 เดือน ซึ่งตั้งเป้าว่าสิ้นปีนี้น่าจะมียอดดาวน์โหลดไปใช้งานหลักหมื่นครั้ง

ขณะที่ NetCare ยังอยู่ในช่วงของการทดสอบ version beta ร่วมกับแพทย์ โดยพยายามจะเปิดเวอร์ชั่นทางการให้ทันก่อนเทศกาลสงกรานต์นี้ ซึ่งหลักการทำงานของ NetCare คือ เครื่องหลักของผู้ปกครองจะต้องลงทะเบียนเพื่อยืนยันตัวตนด้วยหมายเลขโทรศัพท์และเลขบัตรประจำตัวประชาชนกับโอเปอเรเตอร์เพื่อให้เชื่อมต่อกับเครื่องของบุตรหลานได้ด้วยการเปิดสแกนคิวอาร์โค้ดในแอปพลิเคชั่น ซึ่งจะทำให้มีการกำหนดการใช้งานของเครื่องบุตรหลานได้

Advertisment

รองเลขาธิการ กสทช.ระบุว่า ในการพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่ผ่านมาใช้งบประมาณไม่มาก อย่าง”2 แชะ” ใช้ราว 3 ล้านบาท “2 แชะอัตลักษณ์” 5 ล้านบาท “กันกวน” และ “3 ชั้น” ใช้ใกล้เคียงกันราว 6 ล้านบาท MoCheck 1.8 ล้านบาท และ NetCare ใช้ราว 4.5 ล้านบาท สำหรับแผนการพัฒนาแอปพลิเคชั่นใหม่ ๆ คงต้องใช้เวลาอีกระยะเพราะทุกครั้งต้องประสานขอความร่วมมือกับโอเปอเรเตอร์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รับความร่วมมือ