เปิดกลยุทธ์ 4P ผลักดันธุรกิจเอสเอ็มอีไทยสไตล์ LINE

LINE-4P
สกุลรัตน์ ตันยงศิริ

“LINE” ผสานจุดแข็งด้านอีโคซิสเต็ม และฐานผู้ใช้กว่า 54 ล้านราย เข้ากับความร่วมมือของพาร์ตเนอร์รายต่าง ๆ ปั้นกลยุทธ์ “4P” ทำหน้าที่สะพานเชื่อมสร้างการเติบโตให้ SMEs ไทย

วันที่ 19 มีนาคม 2567 นางสาวสกุลรัตน์ ตันยงศิริ ผู้อำนวยการธุรกิจเอสเอ็มอี LINE ประเทศไทย กล่าวในงาน LINE Bootcamp 2024 ว่า ปัจจุบันธุรกิจได้ยกระดับเข้าสู่ยุคใหม่แห่งการมอบประสบการณ์ให้กับลูกค้า กิจการต่าง ๆ ไม่ได้แข่งขันกันด้วยปัจจัยการตลาด สินค้า ราคา โปรโมชั่น ช่องทางการขาย อย่างหนึ่งอย่างใดอีกต่อไป แต่เป็นการสร้างประสบการณ์การซื้อสินค้าของให้โดนใจลูกค้า เพราะลูกค้ายุคใหม่จะยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อ “ประสบการณ์ที่ดี”

“ทิศทางการดำเนินธุรกิจที่เกิดขึ้น ทำให้เอสเอ็มอีไทยต้องปรับตัว ซึ่ง LINE ผู้ให้บริการโซลูชั่นทางธุรกิจตระหนักถึงพฤติกรรมและเทรนด์ธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป จึงมีแผนในการผลักดันสนับสนุนเอสเอ็มอีไทยให้สามารถยกระดับการทำธุรกิจสู่เป้าหมายแห่งความยั่งยืนภายใต้กลยุทธ์ 4P”

โดยกลยุทธ์ 4P ของ LINE ที่ใช้ในการผลักดันการดำเนินธุรกิจของเอสเอ็มอีไทย ประกอบไปด้วย

PLATFORM

นอกจาก LINE จะเป็นแพลตฟอร์มด้านการสื่อสารที่มีฐานผู้ใช้งานในไทยกว่า 54 ล้านราย ยังมีการพัฒนาฟีเจอร์และเครื่องมือต่าง ๆ ภายใต้ LINE Commerce Solution ช่วยให้ SMEs ไทยสามารถสร้างธุรกิจบน LINE ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไม่ว่าจะเป็น LINE Official Account (LINE OA) ที่เป็นเสมือนหน้าร้านออนไลน์ แหล่งสร้างฐานลูกค้า, LINE Ads ช่วยค้นหาลูกค้าที่ใช่, LINE SHOPPING ช่วยบริหารร้านค้าให้ปิดการขายได้ง่ายขึ้น รวมถึงเครื่องมือเสริมอื่น ๆ เช่น MyCustomer | CRM ที่ช่วยยกระดับการสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าได้ดีขึ้นไปอีกขั้น

นางสาวสกุลรัตน์ กล่าวด้วยว่า LINE ยังมีจุดแข็งที่ช่วยขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจของเอสเอ็มอีได้อีก 3 อย่าง ได้แก่

1.รองรับทุกธุรกิจ ตอบโจทย์ทุกกลุ่มผู้บริโภค

ปัจจุบันมีเอสเอ็มอีและผู้ใช้งาน LINE OA รวมกว่า 6 ล้านบัญชี มีฟีเจอร์บรอดแคสต์ที่มีให้เลือกถึง 10 รูปแบบ ที่รองรับการใช้งานของทุกกลุ่มธุรกิจ มีความนิยมใช้งานเพิ่มขึ้นทุกปีเฉลี่ยปีละ 91% ตั้งแต่ปี 2564 ถึงปัจจุบัน โดยมีรูปแบบริชเมสเสจ รูปแบบข้อความ และรูปแบบริชวิดีโอเมสเสจ เป็นรูปแบบยอดนิยม 3 อันดับแรก

ในขณะเดียวกัน LINE Commerce Solution ก็สามารถตอบโจทย์ทุกกลุ่มผู้บริโภคด้วยฟีเจอร์ครองใจใน LINE OA อย่าง แชต 1:1 โดยข้อความแชตจากลูกค้าที่ส่งมาหาร้านค้าเพิ่มสูงขึ้น 11.8 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2562และจำนวนรวมของข้อความที่ร้านค้าได้รับผ่านแชตในปี 2566 สูงถึง 7,288 ล้านข้อความ

อีกทั้งการเชื่อมต่อ LINE OA กับ LINE SHOPPING ที่ปัจจุบันมีร้านค้าเข้าร่วมประมาณ 5.7 แสนราย ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวไทย สามารถเลือกแชตหรือช็อปได้ตามต้องการ ด้วยอัตราการปิดการขายสำเร็จของร้านค้าสูงถึง 97%

นอกจากนี้ เทคโนโลยีเสริมอื่น ๆ เช่น แชตบอต ที่สร้างผ่านเทคโนโลยี LINE Messaging API ยังช่วยสร้างประสบการณ์ในการตอบแชตที่รวดเร็ว ด้วยอัตราการเติบโตของการใช้งานจากปีที่แล้ว 20%

และการใช้เทคโนโลยี LIFF เชื่อมต่อกับ LINE OA ช่วยสร้างประสบการณ์การแสดงผลระบบต่าง ๆ ของร้านค้า เช่น ระบบสมาชิก ระบบการจองคิว ให้เป็นไปอย่างราบรื่น ด้วยอัตราการเติบโตของการใช้งานจากปีที่แล้ว 100%

 

2.ไม่ปิดกั้น สร้างประสบการณ์ที่ดี

ร้านค้าสามารถเชื่อมต่อ LINE OA ไปสู่ช่องทางหรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้อย่างอิสระ เช่น การสร้างปุ่มในฟีเจอร์ริชเมนู ใน LINE OA ลิงก์ไปยังโซเชียลมีเดีย ด้วยอัตราการเชื่อมต่อเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 27% ลิงก์ไปยังแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ 22% รวมถึงลิงก์ไปยัง LINE SHOPPING 17% นับเป็นการสร้างประสบการณ์ Personalized ที่ลูกค้าสามารถเลือกช่องทางการซื้อได้ตามต้องการ

รวมถึงมีการบรอดแคสต์ข้อความ ในช่วงเวลาสำคัญอย่าง Double Day โดยลิงก์ไปยังแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เพื่อกระตุ้นยอดขาย เห็นได้จากจำนวนการบรอดแคสต์ในช่วงเวลาดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นถึง 473% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ

3.มีที่เก็บฐานข้อมูลลูกค้า เสมือนขุมทรัพย์ในการเพิ่มกำไร

LINE OA และเครื่องมือเสริมอื่น ๆ ช่วยให้ร้านค้าสามารถเก็บฐานข้อมูลลูกค้า เพื่อศึกษาพัฒนาเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดต่อได้ ฟีเจอร์บัตรสะสมแต้มบน LINE OA ถือเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยเอสเอ็มอีดึงดูดลูกค้าใหม่ และมัดใจฐานลูกค้าประจำ เห็นได้จากความนิยมในการใช้งานที่เพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนร้านค้าเอสเอ็มอีที่มีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้น 23% และในส่วนลูกค้า ด้วยอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้น 38%

ล่าสุด LINE ได้ต่อยอด และพัฒนาโซลูชั่นเพิ่มเติม อย่าง MyCustomer I CRM ระบบสมาชิกออนไลน์ พร้อมใช้งานได้ทันที ช่วยให้ร้านค้าเอสเอ็มอีสามารถบริหาร จัดการข้อมูลสมาชิก จัดสรรการแจกพอยท์ได้ง่าย ๆ โดยไม่จำกัดทั้งจำนวนสมาชิก จำนวนสาขา และจำนวนพนักงานที่ใช้ ยกระดับเอสเอ็มอีไทยในการรักษาฐานลูกค้าไปอีกขั้น

LINE-4P-Platform

PARTNER

LINE มีแผนพัฒนาเครือข่ายพันธมิตรให้หลากหลายยิ่งขึ้น ทั้งในส่วนภาครัฐและเอกชน เช่น สสว. กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ไปรษณีย์ไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นต้น เพื่อร่วมสนับสนุนเอสเอ็มอีไทยในหลากหลายด้าน ทั้งในเรื่องขององค์ความรู้ เพื่อพัฒนาศักยภาพ ความสามารถ และขยายโอกาสทางการตลาดให้กับเอสเอ็มอีไทย

นอกจากนี้ LINE ยังร่วมมือกับเหล่า LINE Certified Coach ทีมผู้เชี่ยวชาญการใช้งาน LINE เพื่อธุรกิจ ในการส่งมอบความรู้ ให้คำปรึกษาแก่ SME ไทยในการทำธุรกิจบนแพลตฟอร์ม LINE ได้อย่างเต็มศักยภาพ

PROGRAM

LINE เตรียมพัฒนาคอนเทนต์ และกิจกรรมส่งเสริมความรู้ ทั้งด้านการตลาดและด้านเทคโนโลยี เพื่อให้เอสเอ็มอีไทย สามารถทำการตลาดยุคใหม่ได้อย่างเต็มศักยภาพ เช่น รายการโค้ชชวนคุย คลาสรูม BOOTCAMP ที่ครอบคลุมทั้งความรู้ในระดับเบื้องต้นและเชิงลึก เป็นต้น

พร้อมพัฒนาช่องทางการเผยแพร่คอนเทนต์ และกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร เพื่อกระจายความรู้สู่ผู้ประกอบธุรกิจเอสเอ็มอีทั่วไทย ให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย สะดวกและครอบคลุม

PRIVILEGE

LINE มอบสิทธิพิเศษผ่านโครงการ LINE Family Club คลับความสุขของคนทำธุรกิจ ซึ่งเป็นแหล่งรวมสิทธิประโยชน์ที่ LINE ร่วมกับพันธมิตร เพื่อช่วยเพิ่มความรู้ เพิ่มกำไร และเพิ่มความสุขให้ธุรกิจเอสเอ็มอีไทย

ล่าสุด LINE ได้เปิดโอกาสให้ธุรกิจที่ใช้ LINE Ads เข้ามาเป็นสมาชิกของ LINE Family Club ได้ รวมไปถึงการประกาศเปิดตัวโครงการ SME Success Story สำหรับเอสเอ็มอีทั่วไทยที่เป็นสมาชิก LINE Family Club ในการส่งเรื่องราวการทำธุรกิจ การสร้างแบรนด์ที่น่าสนใจ เพื่อก้าวสู่การเป็นเอสเอ็มอีตัวอย่าง

นอกจากนี้ LINE ยังมีการจัดงาน LINE Bootcamp อย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อเติมความรู้ด้านการทำธุรกิจให้กับเอสเอ็มอีไทย โดยในปีนี้จัดขึ้นวันที่ 19 มี.ค. 2567 ณ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ซึ่งภายในงานมีเซสชั่นของวิทยากรจาก LINE และแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในการใช้โซลูชั่นต่าง ๆ มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ อีกทั้งยังมีพื้นที่รับคำปรึกษาจาก LINE Certified Coach อย่างใกล้ชิด

ภาพบรรยากาศงาน LINE Bootcamp 2024