ธุรกิจดิจิทัลในมือ “พิชญ์” ช่องทีวีขึ้นเบอร์ 2 พร้อมลุย 5G

สัมภาษณ์

หายหน้าไปเป็นปี หลังทิ้งไลเซนส์คลื่น 900 MHz จน “เอไอเอส” ต้องมารับช่วงต่อด้วยราคาสูงลิ่ว 7.6 หมื่นล้านบาท ช่างบังเอิญที่ “กสทช.” กำลังเตรียมประมูลคลื่น 900 รอบใหม่ 20 ต.ค.นี้ โดยกำลังเปิดให้รับเอกสาร เป็นจังหวะเดียวกับ “กลุ่มโมโน” ธุรกิจสื่อและให้บริการข้อมูล ซึ่ง “พิชญ์ โพธารามิก” นั่งเก้าอี้ประธานกรรมการ บมจ.โมโน เทคโนโลยี แถลงทิศทางในอนาคต

สปอตไลต์จึงมาอยู่ที่เขาอีกครั้ง

มาฟังคำตอบทั้งหลายไปพร้อมกันใน “ประชาชาติธุรกิจ” ดังนี้

Q : ยังสนใจวงการโทรคมนาคม

เราก็ยังทำอยู่นะ ยังทำบรอดแบนด์อยู่ ก็แฮปปี้ดีอยู่แล้ว วงการนี้ผมคิดว่าก็ต้องลงทุนอีกเยอะ 5G เป็นจุดที่ทุกรายต้องลงทุนกันพอสมควร คงต้องรอดูว่าอีกรายที่ยังไม่ได้ไลเซนส์จะเอาอย่างไร

Q : จะเข้าประมูลคลื่นอีก

โหย ! ไม่เอาแล้ว ไม่ประมูล

Q : ทำไมถึงไม่เข้าอีก

3 ปีที่แล้ว เป็นจังหวะที่เราอยากได้คลื่น แต่โลกมันเปลี่ยนเร็ว ถ้าเราจะเป็นโอเปอเรเตอร์ก็ต้อง at good price แต่ถ้าราคาที่เห็น ต้องบอกว่าไม่เอื้อต่อโอเปอเรเตอร์รายใหม่ ถ้า กสทช.ออกกฎที่เปิดประมูลเฉพาะสำหรับรายใหม่ ก็เป็นอีกเรื่อง คือ ตั้งใจที่จะทำให้เกิดรายใหม่จริง ๆ เพราะยังไงเราก็สู้รายเก่าไม่ได้ ส่วน 5G จะเกิดแบบนั้นหรือไม่ก็ต้องดูอีกที ก็มีความเป็นไปได้

จริง ๆ 5G ยุคใหม่สำคัญ คือต้องการบรอดแบนด์ ต้องการไฟเบอร์ออปติก คนที่มีโครงข่ายไฟเบอร์ออปติกเยอะสุดก็ได้เปรียบสุด ซึ่งเรามี ผมบอกได้แค่นี้

Q : การลงทุนคอนเทนต์ของกลุ่ม

โตขึ้นไม่เกิน 20% ของทั้งหมดที่เราลงไปราว ๆ พันล้านต้น ๆ เรามีทั้งช่องทีวีดิจิทัลที่จะโตขึ้น และโมโนแม็กซ์ ที่ดูซีรีส์ดูหนังออนไลน์ คล้ายกับเน็ตฟลิกซ์ ซีรีส์อะไรที่อยู่บนช่องก็จะมาอยู่บน

โมโนแม็กซ์ด้วยก็เป็นอีกจุดที่เราจะก้าวขึ้นไปสู่เบอร์ 2 รวมถึงไม่ใช่แค่ทีวีอย่างเดียวแล้ว เพราะวิธีการเสพสื่อของผู้บริโภคเปลี่ยน

Q : รวม “ทีวี-ออนไลน์-มือถือ”

เป็นโทเทิล โซลูชั่น ตอนนี้กลายเป็นว่าเราปล่อยให้เงินโฆษณาไหลไปสู่ยูทูบ เฟซบุ๊ก กูเกิล คือเม็ดเงินไม่ได้น้อยลง แต่มันไปต่างประเทศมากขึ้น ปีที่แล้วหมื่นกว่าล้าน ปีนี้ดีไม่ดีจะ 2 หมื่นล้านบาท เราจึงสร้างโซลูชั่นที่มีออนไลน์ของเรา ซึ่ง MThai ตั้งแต่ถ้ำหลวงได้เครดิตมาก และยังมีสื่อออนไลน์อื่นอีก มีสตูดิโอ จัดอีเวนต์คอนเสิร์ต จัดกีฬาได้ด้วย จะบันเดิลให้เกิดแวลูมากขึ้น

ปีที่แล้วโมโนอาจจะยังไม่โตมาก เราถึงปรับวิธี ซึ่งถ้าเดินไปตามแนวทางนี้เชื่อว่าปีหน้ารายได้จะโตอย่างน้อย 20-30% และปีนี้ทั้งกรุ๊ปก็น่าจะ 2.8-2.9 พันล้านบาท จริง ๆ ตั้งไว้ที่ 3 พันล้านบาท แต่ก็คงไม่ถึงเพราะช่วงบอลโลก เอเชียนเกมส์ที่รายได้เทไปที่บางช่อง

Q : ตั้งเป้าเป็นเบอร์ 1

ทำธุรกิจก็ต้องการเป็นที่ 1 ในตลาด แต่จะได้หรือเปล่าก็อีกเรื่อง ตอนนี้เรตติ้งเฉลี่ยช่องเบอร์ 1 อยู่ที่ 2 เฉพาะทีวีแอร์นะ รายต่อมาอยู่ที่ 1.5 ตอนนี้เราอยู่ที่ 1.1-1.2 ก็ไล่มาเยอะ และโตขึ้นเรื่อยๆ 2-3 ปีนี้ก็น่าจะเริ่มเห็น ค่าโฆษณาเราก็อยู่ที่ราว 4 หมื่นบาท/นาที ก็ทยอยขึ้นตามเรตติ้งที่เพิ่ม ไพรมไทม์ก็อยู่ที่ 1.5-2 แสนนะ ก็สูงไม่แพ้ช่องอื่น

Q : จะไล่บี้ช่อง 3 ปีหน้า

ก็หวังว่านะ ตอนนี้บางวันเราก็ชนะเขานะ แต่ยังไม่สม่ำเสมอ ก็ต้องทำการตลาดไปเรื่อย ๆ อย่าลืมว่าช่อง 3 กับช่อง 7 เขาอยู่เป็น 20-30 ปี เรายังแค่ปีที่ 5 ก็ต้องใช้เวลานิดหนึ่ง

รายได้ปีหน้าก็โตจากโฆษณาที่เรตติ้งเพิ่มขึ้น แล้วยังมีธุรกิจใหม่ ๆ อย่างโมโนแม็กซ์ที่ยังโตได้อีกเยอะ โฮมช็อปปิ้งก็มีแนวโน้มรายได้จะดี บางส่วนก็ดึงที่เป็นพาร์ตเนอร์ อย่างของที่ระลึก MARVEL

Q : จุดแข็ง

หนังดีซีรีส์ดัง ทุกคนจะจำช่องได้เพราะตรงนี้ ก็จะยิ่งเน้น และก็มีดีลพิเศษกับหลายค่าย ดึงหนังจากโรงมาลงจอภายใน 12 เดือน จากปกติต้องรอ 18 เดือน ก็จะทำให้หนังในช่องสดใหม่ขึ้น ลิขสิทธิ์ที่ซื้อก็ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มและเอ็กซ์คลูซีฟกันช่องอื่นด้วย

Q : บรอดแคสต์ยังทำกำไรในยุคนี้

ยังทำกำไรให้กับทั้งกรุ๊ปอยู่ และโตขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งงบฯลงทุนเราไม่ลด เพราะทุกอย่างต้องพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ

Q : ไลเซนส์แพงคืนทุนแล้ว

ยังครับ คิดว่ายังไม่มีใครคืนทุนหรอก อาจจะปี-2 ปี คีย์สำคัญ คือ เรามีหลายช่องทาง และเราจะไปในอาเซียนด้วย ตอนนี้ใช้ 20% ของงบฯทั้งหมดก็ใช้ผลิตคอนเทนต์ของตัวเอง ทั้งที่เป็นหนังในค่ายทีโมเม้นต์ และก็มีซีรีส์ด้วย เพราะในระยะยาวเอาไปขายประเทศอื่นได้

อย่างหนัง The Pool ก็ขายทางจีนแล้ว พวกนี้มูลค่าหลักหลายแสนเหรียญ เราขยายไปส่งออกคอนเทนต์มากขึ้น ในอาเซียนขายดีมาก และจะดึงซีรีส์เกาหลีของ SBS แนวแอ็กชั่นมารีเมกเป็นเวอร์ชั่นไทยด้วย และอาจจะมีหนังไตรภาคฟอร์มใหญ่ ขยายตลาดไปทั้งเอเชีย ปีหน้าน่าจะชัดเจนขึ้น

Q : สเต็ปธุรกิจคล้ายกับกลุ่มทรู

ไม่รู้ใครทำก่อนใคร ผมน่าจะทำก่อนนะ แต่ผมว่าเป็นทิศทางปกติ พอไปออนไลน์ ก็ต้องหันไปทางด้านนี้หมดแหละ

Q : อยากขอซัพพอร์ตจากภาครัฐ

ก็ไม่ได้ขออะไรนะ ทางรัฐเป็นผู้กำกับดูแล เราก็ทำตามกฎกติกาอยู่แล้ว การแข่งขันก็เป็นเรื่องปกติ เราก็ต้องหาทางอยู่แล้ว

Q : คิดผิดไหมที่ประมูลทีวีดิจิทัล

ไม่เลย ผมคิดว่ามันโอเคนะ