ดิจิทัลดิสรัปต์ เป็นสิ่งที่องค์กรทั่วโลกต้องรับมือ เมื่อเร็ว ๆ นี้ SAP ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและญี่ปุ่น เปิดเวที “Powering Customer Success in SEA” ณ ประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อแลกเปลี่ยนกลยุทธ์การใช้เทคโนโลยีขององค์กรชั้นนำในอาเซียน
“เคลาส์ แอนเดอร์เซ่น” ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการของเอสเอพี เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า ในการประชุมอาเซียนที่ผ่านมาประเมินว่า อาเซียนจะเป็นกลุ่มเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกภายในปี 2573 รองจากสหรัฐ จีน และสหภาพยุโรป ทั้งงานวิจัยจาก Bain & Company ยังระบุว่า เศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียนมีศักยภาพในการเพิ่ม GDP ได้ถึง 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2568 แต่ประเด็น “บุคลากร” ยังเป็นที่กังวลในเวทีเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม ว่าจะมีความสามารถและความเชี่ยวชาญที่ไม่เพียงพอในยุคนี้ โดยเฉพาะ SMEs ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอาเซียน และเพิ่งเริ่มปรับใช้เทคโนโลยี
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
ขณะที่องค์กรธุรกิจควรลงทุนใน 3 ส่วนเพื่อก้าวสู่ intelligent enterprise คือ 1.ใช้ “อินเทลลิเจนต์ซอฟต์แวร์” ที่ช่วยบริหารองค์กรแบบครบวงจร เช่น การขาย การเงิน จัดการซัพพลายเชน จัดการลูกค้า บริหารงานบุคลากร 2.สร้าง “ดิจิทัลแพลตฟอร์ม” สำหรับเก็บและจัดการข้อมูลขององค์กร 3.เสริมศักยภาพด้วย “อินเทลลิเจนต์เทคโนโลยี” เช่น บล็อกเชน ไอโอที แมชีนเลิร์นนิ่ง
ถอดบทเรียนรายใหญ่
ด้าน “มิรา ฟิตเทรีย โซจิปโต”ผู้อำนวยการด้านการบริหารงานบุคคล เทคโนโลยี และการจัดการด้านกลยุทธ์ บริษัท บอดี้ช็อป อินโดนีเซีย กล่าวว่า ได้นำโซลูชั่น SAP SuccessFactors มาปรับกระบวนการทำงานของบุคคลให้เป็นดิจิทัล ที่ต้องคิดวิเคราะห์ข้อมูลได้ อ่านรายงานการเงิน เข้าใจโมเดลธุรกิจ และเทรนนิ่งเทคโนโลยีใหม่ รองรับการเติบโตของบริษัทที่มีกว่า 2 หลักทุกปี จาก 142 ร้านค้าใน 20 เมืองของอินโดนีเซีย และการขยายช่องทางอีคอมเมิร์ซ ที่ปัจจุบันสร้างรายได้กว่า 20% ของรายได้ทั้งหมด และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 50% ใน 3-5 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการทรานส์ฟอร์มบุคลากร
“คาร์ลอส ซานโทส” ประธานบริหารฝ่ายสารสนเทศ บริษัท เจจี ซัมมิท กล่าวว่า สิ่งสำคัญในการทรานส์ฟอร์มคือ การสนับสนุนจากผู้นำองค์กรที่มีวิสัยทัศน์ สร้างระบบนิเวศขององค์กรขึ้นมาใหม่ หาผู้ให้บริการโซลูชั่นที่เชื่อถือได้เข้ามาเป็นพาร์ตเนอร์
ขณะที่ “เนสเตอร์ เมนโดเนส” ประธานบริหารฝ่ายการเงิน บริษัท ทันด่วย ดิสทิลเลอร์ อิงก์ (Tanduay Distillers, Inc.) ผู้ผลิตสุราชั้นนำของประเทศฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า แม้บริษัทจะมีมาร์เก็ตแชร์ในตลาดรัมกว่า 95% แต่พบว่า สภาพภูมิประเทศที่เป็นเกาะของฟิลิปปินส์ ยังเป็นปัญหาในเรื่องการบริหารคลังสินค้าและการจัดซื้อ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา จึงได้เริ่มนำเทคโนโลยี SAP S/4HANA มาช่วยปรับโครงสร้างพื้นฐานขององค์กร ทั้งการจัดการคลังสินค้า เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่สต๊อก วางแผนการผลิตแต่ละโรงงาน สร้างฐานข้อมูลสำหรับซัพพลายเออร์และวัสดุ ทำให้กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง การขายและจัดจำหน่ายเป็นมาตรฐาน และมีข้อมูลแบบเรียลไทม์ มองเห็นภาพรวมของสต๊อกทุก ๆ สาขา ที่สำคัญคือการจัดการด้านการเงินขององค์กร
ลดต้นทุนได้กว่า 50%
ด้าน “ริซซ่า มานีโกเอียล่า” ประธานบริหารฝ่ายการเงิน บริษัท โกลบ เทเลคอม บริษัทผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมในฟิลิปปินส์ ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 65 ล้านคน กล่าวว่า ด้วยธุรกิจและตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงได้นำเทคโนโลยีมาปรับกระบวนการทางการเงินให้เป็นดิจิทัล ทั้งการเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ การประมวลผลร่วมกันกับคู่ค้า ตั้งแต่ขั้นตอนการจัดซื้อจนถึงการชำระเงิน และสนับสนุนสภาพแวดล้อมในองค์กรให้คล่องตัวมากขึ้น โดยตั้งเป้าว่าภายในปี 2563 ต้องการเป็นดิจิทัลบิสซิเนส ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติมากขึ้น ใช้ทั้งแมชีนเลิร์นนิ่งและโรบอต เพื่อให้ได้ผลลัพธ์แบบเรียลไทม์
“อิคูโอะ ฮายาชิ” ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายระบบสารสนเทศแผนกวางแผน บริษัท Mitsui & Co. ASIA PACIFIC กล่าวว่า ด้วยการขยายธุรกิจในเอเชียอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีสำนักงานในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกถึง 28 แห่งใน 15 ประเทศ จำเป็นต้องเปลี่ยนรูปแบบการบริหารค่าใช้จ่ายในองค์กรโดยเฉพาะค่าเดินทาง รวมถึงกระบวนการต่าง ๆ ที่ยังใช้เอกสารกระดาษเป็นหลัก จึงเริ่มนำระบบคลาวด์มาใช้ช่วยลดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายได้ถึง 50%
“เดวิด ตัน” ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ บริษัท คราวด์ฟาร์มเอ็กซ์ (CrowdFarmX)สตาร์ตอัพจากสิงคโปร์ที่ใช้แพลตฟอร์มบล็อกเชนเพื่อเชื่อมโยงเกษตรกรในอาเซียนกับตลาดโลก กล่าวว่า ปัจจุบัน 80% ของแหล่งอาหารทั่วโลกมาจากเกษตรกรรายย่อย ซึ่งมีมูลค่าถึง 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่เกษตรกรกลับมีเงินรายได้ต่ำ จึงได้นำบล็อกเชนมาใช้ทำ “smart contract” เชื่อมโยงเกษตรกรกับผู้ค้าปลีกโดยตรง เพื่อให้ขายได้ราคาดีขึ้น นอกจากนี้ เกษตรกรยังสามารถใช้ประโยชน์จากการตลาดของแบรนด์และแหล่งเงินทุน
