GET food เร่งสปีด 6 เดือน 6 เท่า ยังโตไม่พอ

food delivery กลายเป็นอีกตลาดที่แข่งขันกันดุเดือด น้องใหม่ในตลาดอย่าง “GET” ที่มีสตาร์ตอัพระดับยูนิคอร์นอย่าง “GO-JEK” หนุนหลัง ก็มีบริการ “GET FOOD” ซึ่ง “ภิญญา นิตยาเกษตรวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GET เปิดเผยว่า เปิดให้บริการ 6 เดือน มียอดเติบโต 168% กลายเป็นเรือธงในการทำรายได้ให้ GET

ด้วยจุดเด่นที่มั่นใจว่ามีร้านอาหารกว่า 2 หมื่นร้านครอบคลุมกรุงเทพฯ และนนทบุรีบางส่วน ค่าส่งถูก เริ่มต้นที่ 10 บาท และมีเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ที่เก็บจากทั้งยูสเซอร์ ไดเวอร์ และร้านอาหาร นำไปพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ อาทิ การกระจายงานให้ไดเวอร์ การเพิ่มแอปสำหรับไดเวอร์ให้สั่งอาหารที่ร้านได้ล่วงหน้า

ฝั่งลูกค้า ปัจจุบันมี 3 กลุ่ม คือ 1.”exploere” (58%) รู้ว่าต้องการกินอาหารแบบใด ร้านไหน นิยมเสิร์ชหาร้านด้วยตนเอง 2.”chillaxer” (18%) กลุ่มที่ไม่รู้ว่าจะเลือกอะไร ระบบจึงนำเสนอเมนูแนะนำแก่ลูกค้าโดยเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาของมื้อ และ 3.”routine lover” (16%) กลุ่มที่สั่งแต่ร้านเดิม ๆ ระบบจึงมีฟีเจอร์จำร้านอาหารที่เคยสั่งไว้แล้ว ช่วยให้สั่งอาหารได้เร็วขึ้น

ส่วน “เมนูยอดนิยม” คือ ก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง และส้มตำ

ล่าสุด มีฟีเจอร์ “multi order” ให้สั่งได้พร้อมกัน 4 ร้าน ฟีเจอร์ “Omakase” ซึ่งเป็นระบบ personalization เรียนรู้พฤติกรรมของลูกค้าและแนะนำเมนูที่ตรงกับความชื่นชอบของแต่ละบุคคล และ “my voucher” ระบบจัดเก็บคูปองให้ลูกค้าใช้งานได้โดยไม่ต้องค้นหา ตอบโจทย์ผู้ชอบ “โปรโมชั่น” ซึ่งทุกครั้งที่มีีโปรโมชั่น เพิ่มยอดสั่งซื้อได้ถึง 10 เท่า

และกำลังจะมีฟีเจอร์ที่หนุนให้ user engagement มากขึ้น เช่น แนะนำร้านระหว่างกลุ่มนักกิน รวมถึงการเพิ่มวิธีการบริการขนส่งใหม่ ๆ อย่าง “เดิน” หรืออาจจะเป็น “จักรยาน-สกูตเตอร์” ซึ่งจะมีค่าส่งที่ถูกลง จนถึงอาจจะ “ฟรี”

“ยังไม่มองว่าใครเป็นคู่แข่ง เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค แม้ 6 เดือนจะโต 6 เท่า แต่ถือว่าช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้านมาก”

ในจังหวะนี้ การทำให้ระยะเวลาการในการส่งอาหารถึงมือได้เร็วที่สุด และสร้างการรับรู้ในแบรนด์จึงเป็นเรื่องสำคัญ ล่าสุดเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนแรก “นนท์-ธนนท์” เพื่อเข้าถึงกลุ่ม mass