ใช้เน็ตทะลุ 10 ชั่วโมงต่อวัน Baby Boomer ยังสุ่มเสี่ยง

สำรวจติดต่อกันเป็นปีที่ 7 แล้วสำหรับ “พฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2562 ที่สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิสก์ (สพธอ.) เป็นแม่งาน ปี 2562 พบว่า คนไทยใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ยวันละ 10 ชั่วโมง 22 นาที เพิ่มขึ้น 17 นาที จากปีก่อน โดย 91.2% ยังใช้เวลากับ social media เป็นกิจกรรมยอดฮิต 7 ปีซ้อน

แต่ที่น่าสนใจคือ “การชำระเงินค่าสินค้าและบริการทางออนไลน์” เป็นกิจกรรมที่มีการเติบโตถึง 11.4% ทำให้การใช้งานรวมขยับมาอยู่ที่ 60.6% กลายเป็นปีแรกที่ติด top 5 ของกิจกรรมยอดฮิต ซึ่ง สพธอ. ระบุว่า สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของ online payment services ที่เพิ่มขึ้น

ส่วนกิจกรรมที่เติบโตสูงสุดคือ “การสั่งอาหารออนไลน์” โตขึ้น 15.1% ขยับสัดส่วนรวมมาอยู่ที่ 26.5% ตามมาด้วยการรับส่งพัสดุ/เอกสารผ่านทางออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น 11% การดูหนังฟังเพลงออนไลน์เพิ่ม 10.5% และการใช้บริการเรียกรถโดยสารออนไลน์เพิ่ม 9.3%

ขณะที่ “การชำระค่าสินค้าและบริการ” ใช้บริการเพิ่ม 11.4% และการรับ-ส่งสินค้า/พัสดุ/เอกสารทางออนไลน์เพิ่มขึ้น 11.0%

ด้านการซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่มีการใช้งานถึง 57% ในปีนี้ พบว่า ช่องทางที่ถูกใจนักช็อปมากที่สุดคืออีมาร์เก็ตเพลส ได้แก่ Shopee 75.6% Lazada 65.5% ส่วน Facebook Fanpage 47.5% และ Line 38.9% ส่วนช่องทางที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์นิยมใช้ขายของมากที่สุด คือ Facebook Fanpage 64.0% Shopee 43.1% และ Line 39.5% โดย สพธอ. ได้วิเคราะห์ว่า การที่เฟซบุ๊กเป็นช่องทางยอดนิยมในการ “ขาย” เพราะเข้าถึงผู้บริโภคได้จำนวนมากสามารถโฆษณาแบบ “เจาะกลุ่ม” ได้ดี แต่ในฟากของ “ผู้ซื้อ” นั้น การใช้แพลตฟอร์มอีมาร์เก็ตเพลซอย่าง Shopee เป็นที่นิยมด้วยโปรโมชั่นที่มีต่อเนื่อง ทั้งยังสามารถเปรียบเทียบราคา เทียบคะแนนรีวิวร้านค้า รวมถึงมีนโยบายคืนสินค้าในกรณีต่าง ๆ ทำให้ผู้บริโภคสะดวกและมั่นใจที่จะซื้อ

Advertisment

ในด้านความรู้ความเข้าใจเรื่องดิจิทัลไอดี พบว่า กิจกรรมการพิสูจน์และยืนยันตัวตนที่คนส่วนใหญ่รู้จักและเคยทำมาก่อนกว่า 91.6% คือ การกรอกรหัส OTP รองลงมาคือ การสมัครใช้บริการออนไลน์ของเอกชน โดยให้ข้อมูลส่วนบุคคล 85.9% การเข้าใช้บริการออนไลน์ของภาคเอกชนด้วยรหัสผ่านที่ตั้งขึ้นมา 82.1%

และเมื่อเจาะลึกลงไปถึงพฤติกรรมในแต่ละกลุ่มวัยพบว่า กลุ่ม baby boomer (55-73 ปี) มีการใช้งานเกี่ยวกับการสร้างบัญชีเพื่อใช้งานบริการออนไลน์ของภาคเอกชนน้อย ทั้งยังควรให้ความรู้เกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการตั้งรหัสผ่านที่มีความปลอดภัยสูง การให้ความสำคัญกับการใช้รหัสผ่านแบบครั้งเดียว (รหัส OTP) เพื่อยืนยันการชำระค่าสินค้าและบริการออนไลน์ รวมถึงการกรอกข้อมูลส่วนตัวเพื่อสมัครใช้บริการอีเพย์เมนต์ต่าง ๆ