สมรภูมิ 5G ร้อนฉ่า “เอไอเอส” เปิดเกมบุก เก็บทุกเซกเมนต์

สมรภูมิ 5G ร้อนฉ่า

เปิดเกมรุกชิงสมรภูมิ 5G อย่างร้อนแรง สำหรับเอไอเอสที่หมายมั่นปั้นมือจะขึ้นแท่น “รายแรก” ที่เปิดให้บริการ 5G

งานนี้เอไอเอสขอเปิดสนาม 5G กับตลาดคอนซูเมอร์ ด้วยการจับมือ “นาดาวบางกอก” นำศิลปินมาร่วมสร้างสรรค์ VR content เพื่อสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้แก่ตลาดคอนซูเมอร์ หวังสร้างกระแส พร้อมขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ แบบเนียน ๆ คู่กับการขยายตลาดลูกค้าองค์กรและอุตสาหกรรม

“สมชัย เลิศสุทธิวงค์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสมีแผนจะนำเทคโนโลยี 5G เจาะเข้าไปกลุ่มลูกค้าองค์กรและอุตสาหกรรมมากขึ้น ล่าสุดได้ขยายความร่วมมือกับสนามบินอู่ตะเภา (ปี 2563-2565) ซึ่งถือเป็นเฟสที่ 2 ในการนำระบบบริการที่ได้ศึกษาไว้จากการใช้เทคโนโลยี 5G มาใช้ในสนามบินอย่างต่อเนื่อง เช่น ระบบบริหารจัดการสภาพแวดล้อมรอบ ๆ สนามบิน ทั้งการบริหารจัดการไฟ น้ำในพื้นที่สาธารณะ ระบบ 5G surveillance ในการดูแลพื้นที่ทั้งในและนอกอาคารผู้โดยสาร เป็นต้น เพื่อสนับสนุนการเป็นสนามบินอู่ตะเภาเป็น smart airport หลังจากเฟสแรกได้ขยายเสาสัญญาณ 5G ครอบคลุมทั้งในและนอกอาคารบนพื้นที่ 20,000 ตร.ม.ของสนามบินอู่ตะเภา

“ผลจากความร่วมมือที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ (ปี 2561-2563) ได้ทดลองไปแล้วหลายโครงการ เช่น smart video analytics solution เสริมระบบบริหารจัดการอาคารผู้โดยสารด้วยเทคโนโลยีระบบวิเคราะห์และประมวลผลภาพวิดีโออัจฉริยะ ซึ่งประกอบด้วย ข้อมูลจากกล้องวงจรปิดทั่วอาคาร และโปรแกรมวิเคราะห์ประมวลผลภาพปัญญาประดิษฐ์ ประยุกต์ใช้เป็นระบบตรวจจับและรับรู้ใบหน้าบุคคลและสิ่งของ หรือแอปพลิเคชั่น Thailand Smart Airport ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร และหุ่นยนต์อัจฉริยะ robot for care ที่ช่วยคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิ ดูแลสุขอนามัยของนักท่องเที่ยว”

นอกจากนรี้ เอไอเอสจะเดินหน้าเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มองค์กรมากขึ้น เพราะถือเป็นฐานสำคัญของการให้บริการ 5G ด้วยการขยายความร่วมมือกับสนามบินนานาชาติ อู่ตะเภาแล้ว ยังรุกตลาดคอนซูเมอร์ด้วยเช่นกัน

Advertisment

“ปรัธนา ลีลพนัง” หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่าบริษัทได้ต่อยอดศักยภาพของเทคโนโลยี 5G เข้ากับเทคโนโลยี virtual reality (VR) ด้วยการจับมือกับ “นาดาวบางกอก” พัฒนาคอนเทนต์รูปแบบ VR content โดยนำศิลปินจาก “นาดาวบางกอก” มาสร้าง VR content ประเดิมด้วย 3 ศิลปิน ได้แก่ “บิวกิ้น-พีพี” กับคอนเทนต์ชุด #BilkinPP Closer Than Ever รวม 6 ตอน และ “สกาย วงศ์รวี” กับคอนเทนต์ชุด Touch of Sky รวม 3 ตอน

พร้อมเปิดกว้างให้แก่ผู้ผลิตคอนเทนต์ทั้งรายใหญ่และรายเล็กที่จะเข้าร่วมผลิต VR content ร่วมกับเอไอเอส เพื่อสร้างประสบการณ์การรับชมคอนเทนต์บนโลกเสมือนจริงอย่างเต็มประสิทธิภาพ หวังเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ขณะเดียวกันในอนาคตคาดว่าจะสามารถต่อยอดธุรกิจนี้ ด้วยการขายลิขสิทธิ์ VR content ไปต่างประเทศด้วย

“วัตถุประสงค์หลักของ 5G ช่วงเริ่มแรก คงโฟกัสที่กลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G เป็นหลักมากกว่า ขณะที่การสร้าง VR content ครั้งนี้ มีนัยสำคัญหลายอย่าง ทั้งการปลุกตลาด VR content ในไทย และสร้างสีสัน กระตุ้นตลาด 5G ในกลุ่มคอนซูเมอร์ให้คึกคักขึ้น เพราะผู้ใช้บริการ 5G กลุ่มหลัก ๆ ก็ยังจำกัดอยู่เฉพาะกรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่เท่านั้น”

เกมนี้เอไอเอสขอโชว์เหนือ ด้วยการรุกตลาดคอนซูเมอร์ ควบคู่กับการเจาะตลาดลูกค้าองค์กรไปพร้อม ๆ กัน

Advertisment