ไลฟ์สไตล์ของคนไทย ใกล้เป็นออนไลน์ 100%

คอลัมน์ Pawoot.com
คอลัมน์ Pawoot.com
ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ

มีการจัดอันดับความร่ำรวยของเศรษฐีจีน พบว่ามีรายได้เพิ่มขึ้นจาก 5 ปีที่ผ่านมารวมกัน ซึ่งมหาเศรษฐีจีนหน้าใหม่วันนี้เพิ่มขึ้นติดต่อกันมา 2 ปีแล้ว นอกจากจีนจะมีคนที่ร่ำรวยรวดเร็วแล้ว ผมอยากให้ดูที่มาของความร่ำรวย

ถ้าอยากรู้วิธีการที่ง่ายที่สุด คือ ให้ไปดูตามเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของจีน ต้องบอกว่าผมดูและซื้อสินค้าของจีนบ่อย ยังตกใจเพราะเทคโนโลยีของจีนมาเร็วมาก เราอาจเคยเห็นคลิปวิดีโอหุ่นยนต์ทรงตัวไม่ล้ม เดินได้ ตีลังกาได้แต่ตอนนี้มีแบบหุ่นยนต์สุนัขมีแขนขาเดินได้ และยังเดินตรวจการณ์เหมือนยาม เดินตรวจสอบ มีกล้องคอยสอดส่องอีกด้วย

ล่าสุดผมเจอว่ามีขายใน AliExpress และเป็นของก๊อปจากจีน นั่นแสดงว่าจีนมีเทคโนโลยีนี้แล้ว หรือบางอย่างผมดูใน Kickstarter ซึ่งเป็นเว็บไซต์รวบรวมไอเดียและเป็น crowdfunding ปรากฏว่าแป๊บเดียวไอเดียต่าง ๆ คนจีนก๊อปมาเร็วมาก ไม่ใช่เร็วอย่างเดียวแต่นำไปต่อยอดได้อีกด้วย

สินค้าใหม่ ๆ ที่มาจากประเทศจีนจะล้ำหน้ามาก ล้ำแบบราคาจับต้องได้และใกล้ชิดกับชีวิตเรา โดยเฉพาะคนเอเชียด้วยกันเอง เช่น เครื่องซักผ้าแบบเสียบปลั๊กเครื่องเล็กที่เหมาะสำหรับคนที่อยู่คอนโดฯ

ลองคิดดูว่าในอนาคตข้างหน้าจีนจะกลายเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีขนาดไหน เพราะเขามีความพร้อมทั้งการผลิตและนวัตกรรม ยิ่ง Alibaba ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซยังลุกมาเปิดค้าปลีกออฟไลน์ ถือหุ้นใหญ่ใน Sun Art ไฮเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่ที่สุดในจีน ผมว่าอารมณ์เดียวกับ Amazon ที่กระโดดไปลงทุนในซูเปอร์มาร์เก็ตเบอร์หนึ่งของอเมริกาเหมือนกัน และพยายามทำO2O เชื่อมโยงออนไลน์และออฟไลน์เข้าหากันนั่นคือ หากเป็นสมาชิก Amazon ก็ได้รับส่วนลดได้เหมือน ๆ กัน

เมื่อเก็บลูกค้าทั้งในออนไลน์และออฟไลน์ได้ หมายถึงลูกค้าไม่ไปไหนโดนล็อกตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ จึงไม่น่าแปลกใจว่าเมื่อเขาใหญ่มากสุดในออนไลน์ออฟไลน์จึงเป็นตลาดที่ต้องกระโดดเข้าไปเพื่อจับลูกค้าให้ได้มากที่สุด

ตอนนี้อีคอมเมิร์ซไทยในอนาคตจึงไม่น่าแปลกใจ เพราะเหมือนกับมีโรดแมปให้เดินตามทางเดียวกับยักษ์ใหญ่อย่างอเมซอนหรือจีน ก็เดาไม่ยากว่าจะทำอย่างไรต่อ

แม้แต่ตอนนี้ธนาคารพาณิชย์ของไทยเอง ได้เข้ามาอยู่ในแวดวงอีคอมเมิร์ซแล้ว ต้องบอกว่ามีเยอะเสียด้วย
ที่มาแล้ว คือ LINE BK ใช้ LINE ในการเปิดบัญชีต่าง ๆ ผมลองแล้วแต่ผมว่ามันไม่เหมาะกับผม

แต่พวก LINE BK หรือวอลเลตอื่น ๆ อาจเหมาะกับคนอีกกลุ่มหนึ่ง อย่างเด็กรุ่นใหม่ ๆ จะมีไลฟ์สไตล์ใกล้ชิดกับพวกวอลเลตนี้มากขึ้น เราที่เป็นคนรุ่นก่อนหน้านี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับวอลเลตมากสักเท่าไหร่ ฉะนั้น อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่บรรดาแบงก์ทั้งหลายกำลังทำขึ้นมานั้น บรรดาผู้ใหญ่หลายคนอาจไม่อินหรือไม่เข้าใจเพราะมันถูกออกแบบมาให้เด็กรุ่นใหม่ใช้จริง ๆ มากกว่า

วันนี้แบงก์ต่าง ๆ เริ่มมีบริการของ e-Banking แบบแท้จริง เช่น กรุงศรีมีบริการที่เรียกว่า KEPT เป็น e-Banking เต็มรูปแบบ TMB มีบริการที่เรียกว่า TOMORROW ส่วน Kbank เปิด LINE BK และกำลังจะเปิดอีกบริการ ซึ่งครั้งก่อนได้เปิดตัวไปแล้วแต่ให้ใช้เฉพาะพนักงาน Kbank ใช้

ฉะนั้น สิ่งที่เห็นได้ชัด คือ ทุกแบงก์กำลังขยับตัวออกมาเป็นอีกบริการหนึ่งแบบออนไลน์ 100% ไม่ต้องอาศัยหน้าร้านหรือสาขา แบงก์กำลังขยับตัวอย่างรุนแรงเพื่อพยายามเข้าไปสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนที่เปลี่ยนไปเหมือนกันในแง่ของเทคโนโลยีเรื่องการเงิน จากที่เราเคยต้องไปธนาคารตอนนี้เกือบทุกร้านค้าใหญ่ ๆ ต่างมี QR code แล้ว

ยิ่งร้านอาหารที่เป็นฟาสต์ฟู้ดทั้งหมดแทบจะมีเครื่องจ่ายด้วย QR code กันหมด คนรุ่นก่อนอาจไม่ค่อยใช้ แต่เด็กรุ่นใหม่ ๆ เขาโตมากับสิ่งเหล่านี้ เขาจึงเป็นคนที่ใช้ อย่างที่บอกทุกครั้งครับว่า ธุรกิจต้องปรับเปลี่ยน เมื่อทุกอย่างรอบตัวปรับกันหมดแล้ว ธนาคารยังปรับแล้ว

ที่สำคัญกฎหมายต่าง ๆ ของประเทศไทยที่ออกมาก็ปรับเปลี่ยนไปมากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการยืนยันตัวตน ระบบลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ กฎหมายต่าง ๆ วิ่งไล่เรื่องพวกนี้อยู่ อยากบอกว่าบางอย่างจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
ฉะนั้น หากคุณยังทำธุรกิจเหมือนเดิมอยู่ บอกได้เลยครับว่าอันตรายจริง ๆ