10 ปี “LINE” จากแอปแชต สู่ “ดิจิทัลแพลตฟอร์ม” เพื่อชีวิตและธุรกิจ

“ไลน์”ครบรอบ 10 ปี ย้อนรอยความสำเร็จ และการพัฒนาบริการจากแอปพลิเคชั่น “แชต” สู่การเป็น “ดิจิทัลแพลตฟอร์ม” ตอบโจทย์ชีวิต-ธุรกิจไทย เดินหน้าเสริมแกร่ง 3 แกนธุรกิจหลัก “OMO-ฟินเทค-อีคอมเมิร์ซ”พร้อมรักษาจิตวิญญาณสตาร์ตอัพ

วันที่ 23 มิถุนายน 2564 ในโอกาสครบรอบ 10 ปี “LINE” ดร.พิเชษฐ์ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE ประเทศไทย กล่าวว่าบริษัทยังคงมีเป้าหมายในการเป็นดิจิทัลแพลตฟอร์มที่ยกระดับชีวิตคนไทย ตั้งแต่ตื่นจนเข้านอน และในโอกาสครบรอบ 10 ปี ก็พร้อมที่จะเป็นแพลตฟอร์ม Chat Commerce ที่ผลักดันศักยภาพแบรนด์ และผู้ประกอบการไทยทุกระดับ ด้วยพลังของ LINE ECOSYSTEM เพื่อประสบการณ์การใช้งานแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์

• “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
• ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
• รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย

“ตลอดการเดินทาง 10 ปีของ LINE ได้เติบโตอย่างรวดเร็วจากแอปพลิเคชั่นสื่อสารสู่การเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถยกระดับชีวิตคนไทยในยุคดิจิทัล ด้วยฟีเจอร์ และบริการต่าง ๆ บนแอป ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนไทย ไม่ว่าจะเป็นแชต-ประชุมงาน-ช็อปปิ้ง-สั่งอาหาร-จ่ายเงิน-ดูซีรีส์ และอ่านข่าว เป็นต้น”

นอกจากการก้าวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผู้ใช้ยังเป็นแพลตฟอร์มเพื่อธุรกิจที่สามารถขับเคลื่อนแบรนด์ องค์กร และผู้ประกอบการไทยทุกระดับบนเส้นทาง Digital Transformation เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้ธุรกิจ

“เรารู้สึกดีเป็นอย่างยิ่งที่เป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตทางธุรกิจของผู้ประกอบการไทยในทุกวันนี้ ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จที่เกิดขึ้นมาจากความตั้งใจที่จะพัฒนาบริการทุกอย่างให้ตอบโจทย์ผู้ใช้ให้ได้มากที่สุด”

ความสำเร็จและการเติบโตดังกล่าวยังเป็นสิ่งตอกย้ำประสิทธิภาพของกลยุทธ์ Humanization & Localization ที่ LINE ใช้พัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อครองใจผู้ใช้ในเมืองไทยตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ทั้งในแง่ของการพัฒนาฟีเจอร์ และบริการรวมถึงการทำการตลาดที่ตอบโจทย์คนไทย เช่น การพัฒนา LINE MAN ที่มาปฏิวัติไลฟ์สไตล์การกินของคนไทยจนเติบโตและควบรวมธุรกิจกับ Wongnai, การพัฒนา MyShop โซลูชั่นที่มาเสริมแกร่ง Chat Commerce ให้ LINE Official Account รองรับการเปิดร้านค้าออนไลน์ได้รวดเร็ว

ขณะเดียวกันก็ได้ร่วมมือกับภาครัฐพัฒนา LINE Official Account เพื่อตอบโจทย์บริการที่หลากหลายเพื่อประชาชน โดยตลอดทศวรรษที่ผ่านมา LINE ได้สร้างความเป็นไปได้ในแง่ของการปลดล็อกข้อจำกัดทางอาชีพ ให้สามารถมีอาชีพใหม่ ๆ ประกอบธุรกิจได้บนแพลตฟอร์มอย่างไร้พรมแดนสำหรับคนรุ่นใหม่ ทั้ง Social Seller ขายของออนไลน์, แอดมินบริหารจัดการหน้าร้านออนไลน์, LINE STICKERS CREATOR ที่เปิดโอกาสสร้างรายได้ ผ่านการออกแบบ LINE STICKERS

ปัจจุบันมีมากกว่า 700,000 คน มีสติ๊กเกอร์วางจำหน่ายทั้งหมดรวมแล้วกว่า 3.6 ล้านชุด รวมถึงการขับเคลื่อนสร้างคนพันธุ์เทคฯหน้าใหม่ของเมืองไทยผ่านกิจกรรม Developer ที่จัดต่อเนื่อง ทั้ง LINE Developer Conference และ LINE HACK

ดร.พิเชษฐ์กล่าวต่อว่าบริษัทพร้อมเดินหน้าเพิ่มศักยภาพ “โครงสร้างพื้นฐาน” เพื่อให้สามารถยกระดับชีวิตผู้ใช้อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม โซลูชั่น และเครื่องมือเพื่อสนับสนุนผู้ใช้สร้างการเติบโตที่ยั่งยืน ขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจดิจิทัล ด้วยแนวทางการพัฒนาฟีเจอร์และบริการต่าง ๆ ในแนวดิ่ง พร้อมเสริมแกร่ง 3 แกนธุรกิจหลัก ได้แก่

1. OMO (Online Merges Offline) – สร้างความแข็งแกร่งให้กับประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ทั่วประเทศ เชื่อมต่อโลกออนไลน์เข้ากับออฟไลน์ให้เป็นหนึ่งเดียว
2. Fintech – ยกระดับ Financial Experience ของผู้ใช้งาน LINE อย่างไร้รอยต่อมากยิ่งขึ้น ให้ “แชต-โอน-ยืม-จ่าย” ได้บนแอป LINE จบครบในที่เดียว โดยไม่ต้องออกข้ามไปแอปพลิเคชั่นอื่น
3. e-Commerce – มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้าน Social Commerce ที่อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งที่แตกต่างด้วย ด้วย Chat Commerce

“แม้องค์กรจะเติบโตมากขึ้นไปตามกาลเวลา LINE เองก็จะยังคงไว้ซึ่งการเป็น Tech Company with Startup Mindset แนวคิดที่ยังทำให้พวกเราชาว LINE ยังสนุกสนาน ตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ ๆ ไม่กลัวที่จะผิดพลาดล้มเหลว แต่ก็ไม่หยุดที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ซึ่งเป็นดีเอ็นเอของเราให้พัฒนาบริการและฟีเจอร์ต่าง ๆ บนอีโคซิสเต็ม LINE เพื่อยกระดับชีวิตของผู้ใช้ในทุกมิติอยู่เสมอ” ดร.พิเชษฐ์ย้ำ