ชวนใช้ Software เพิ่มประสิทธิภาพชีวิตรับปีใหม่

คอลัมน์ Pawoot.com
Pawoot.com
ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ

เริ่มต้นปีใหม่เราควรถือเป็นโอกาสที่จะเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ ด้วย ปีใหม่นี้ผมอยากแนะนำซอฟต์แวร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ชีวิตคุณได้ใหม่อีกครั้ง

1.Google Map แชร์ตำแหน่งเราให้ใครก็ได้ทั่วโลกเข้าไปในไลน์ หรือในแชตก็ได้ คนรับจะทราบว่าเราอยู่จุดไหนบนแผนที่ได้เลย การแชร์ตำแหน่งขณะเดินทางวิธีการง่าย ๆ

คือจะมีตัวเลขบอกว่าอีกกี่นาทีจะถึงปลายทาง กดที่จุดนั้นจะมีเมนู มีข้อความขึ้นมาว่า share trip progress คือแบ่งปันตำแหน่งว่าเราอยู่ตรงจุดใด ให้ก๊อบปี้ลิงก์นั้นแล้วแชร์ได้เลย

อีกแบบคือ ติดตามคนที่ต้องการทราบตำแหน่งเขา ใน Google Map จะมี location sharing หรือการแบ่งปันตำแหน่ง วิธีการคือบน Google Map ด้านบนจะมีรูปภาพของเราเมื่อกดเข้าไปจะเจอเมนู location sharing มีให้เลือกว่าจะแชร์ตำแหน่งของเรากี่ชั่วโมง

หรือแชร์ไปเรื่อย ๆ ถ้าก๊อบปี้ลิงก์มาแล้วแชร์ให้ใคร เขาจะเห็นตำแหน่งเราตลอดเวลาบนGoogle Map หากต้องการรู้ตำแหน่งของคนอื่นต้องให้เขาแชร์ตำแหน่งมาให้เรา เจ้าของแอ็กเคานต์เป็นคนอนุญาตให้เปิดเผยเพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล

ความสามารถของ Google Map เรื่องนี้มีประโยชน์โดยเฉพาะในช่วงโควิด ดูตำแหน่งย้อนหลังได้ว่าคนนั้นเดินทางไปไหนบ้าง โดยกดตรงรูปภาพของเราจะมีเมนู your timeline หากมีการกดบันทึกตำแหน่งไว้

หรือ location history มันจะเก็บข้อมูลไว้ตลอดเวลา ดูย้อนหลังได้ว่าอยู่ที่ไหนมาบ้าง ผมใช้ Google Map มาเป็นสิบปี ดูย้อนหลังข้อมูลตัวเองได้ทั้งหมด แต่อย่าเพิ่งตกใจไป ข้อมูลย้อนหลังเหล่านี้ลบได้เช่นเดียวกัน

2.โปรแกรม note ทุกวันนี้ผมไม่จดโน้ตใส่กระดาษหรือสมุด ไม่พกปากกามานานแล้ว ย้ายมาจดโน้ตในโปรแกรมมือถือ จุดเด่นคือโปรแกรมจดโน้ตในมือถือมีอยู่หลายแอปมาก ข้อดี คือใช้ได้ทั้งบนมือถือ

แท็บเลต และคอมพิวเตอร์ เราสามารถจดบนอุปกรณ์ตัวไหนก็ได้ ตรงไหนก็ได้ เพราะโน้ตจะอัพโหลดขึ้นไปบนคลาวด์ทำให้เข้าถึงโน้ตได้ตลอดเวลา

บางครั้งที่ไม่มีอุปกรณ์อะไรเลย ไม่มีมือถือหรือคอมพิวเตอร์แค่หาอินเทอร์เน็ตคาเฟ่เข้าเว็บไซต์โปรแกรมโน้ตก็เข้าถึงโน้ตได้ตลอดเวลา ผมจดโน้ตบนออนไลน์มาเป็นสิบปี มี 5-6 พันกว่าโน้ต ค้นหาโน้ตเก่า ๆ ได้

เวลาไปประชุม บางครั้งไม่จด แต่ใช้วิธีอัดเสียงไว้ หรือหากมีการเขียนบนไวต์บอร์ดก็เพียงถ่ายรูปไวต์บอร์ดแล้วเซฟไว้ในโน้ตด้วย ผมเก็บข้อมูลทุกอย่าง ไอเดียต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

ผมก็สามารถนำข้อมูลที่จดในโน้ต เสียง หรือภาพถ่าย แชร์ให้ทีมงานไปทำงานต่อได้เลย โปรแกรมที่ใช้อยู่ชื่อ Evernote ใช้มาเป็นสิบปีแล้ว

Google เองก็มีโปรแกรมชื่อ Google Keep เป็นโปรแกรมจดโน้ตที่ใช้ฟรี หากใช้ Apple ก็มีโปรแกรมโน้ตเหมือนกันใน iPhone, iPad เชื่อมกับ iCloud บนเครื่อง Mac แต่ปัญหาของ Apple คือต้องใช้อุปกรณ์ค่าย Apple เท่านั้น

ฝั่ง Microsoft เองก็มีชื่อโปรแกรม Microsoft OneNote ผมจึงต้องพยายามหาโปรแกรมที่ทำงานข้ามแพลตฟอร์มได้ และเลิกจดโน้ตใส่กระดาษ เพราะเสี่ยงข้อมูลหายได้ง่าย การจดใส่โปรแกรมในมือถือเก็บข้อความ วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ เบอร์โทร.เพื่อน เลขบัญชีธนาคาร ฯลฯ ไว้ในโน้ตได้หมด ข้อดีคือข้อมูลอยู่กับเราตลอดเวลา ขอแค่มีอินเทอร์เน็ต

3.โปรแกรมบริหารการเงินส่วนตัว เช่น แอปพลิเคชั่น MoneyWiz เป็นโปรแกรมที่มีจุดเด่น คือเชื่อมต่อกับธนาคารไทยได้ ฉะนั้นเมื่อลงแอปนี้แล้วเรากดเชื่อมแอปธนาคารไทยได้เลยเมื่อล็อกอินอินเทอร์เน็ตแบงกิ้งแล้ว

แอปจะดึงข้อมูล statement ของทุกวันเข้ามาเก็บไว้โดยอัตโนมัติ ทั้งยังเชื่อมบัตรเครดิตของธนาคารได้ทุกธนาคาร แม้แต่ข้อมูลไลน์แมน หรืออื่น ๆ ก็ดึงได้ เดี๋ยวนี้ระบบธนาคารมี OTP เพื่อความปลอดภัยจึงไม่ค่อยน่ากลัวอย่างที่คิด

เมื่อแอปดึงข้อมูลธุรกรรมต่าง ๆ มาอยู่ที่เดียว มีการแบ่งหมวดหมู่ เช่น ร้านอาหาร ซื้อแอป เติมเกม ฯลฯ จะตั้งบัดเจตหรือโควตาได้ว่าเดือนหนึ่งจะใช้เท่าไหร่ เมื่อใช้เกินที่ตั้งไว้ แอปจะเตือนว่าใช้เกินแล้ว ที่สำคัญหากมีพอร์ตหุ้นหรืออื่น ๆ ก็แอดเข้าไปได้ มันจะไปดึงราคาหุ้น ณ วันนั้นมาให้แบบเรียลไทม์

คุณควบคุม wealth หรือความมั่งคั่งของคุณได้ คือ 1.เงินสด จะรู้ว่ามีเท่าไหร่ หนี้ในบัตรเครดิตเป็นอย่างไรในแต่ละวัน 2.เรื่องหุ้น กองทุน 3.ที่สุดยอดมากคือต่อเข้ากับคริปโทได้ด้วย ดูภาพรวมทั้งหมดจะเห็นว่าเดือนนี้มีรายได้เท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายกี่บาท มีกำไรหรือขาดทุนจะบอกได้ทั้งพอร์ตเลย

MoneyWiz เป็นแอป freemium แต่ส่วนตัวผมใช้แบบจ่ายเงิน เพราะใช้เป็นเครื่องมือบริหารการเงินในชีวิต เพราะเห็นว่าเดือนหนึ่ง ๆ ใช้อะไรไปบ้าง มีรีพอร์ตให้ดูข้อมูลธุรกรรมการเงินในที่เดียวกัน เวิร์กมากครับ

ส่วนตัวอื่น ๆ จะเป็นระบบการทำงานบนคลาวด์ มีมือถือเครื่องเดียวก็ทำงานได้ หรือไม่มีก็ทำได้เพราะอยู่บนคลาวด์ แค่มีอินเทอร์เน็ตก็ทำงานได้ ส่วนเรื่องความปลอดภัย โปรแกรมหลายตัวจะใส่รหัสไว้ทั้งแบบ OTP

และ 2FA (two-factor authentication) เพื่อความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณใช้ชีวิตง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ต้องใช้ครับถึงจะรู้