เหตุใดชาวเมียนมา-ชาวไทย”สายมู”แห่เที่ยว”วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว”เพชรบูรณ์ ทะลัก

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว

เหตุใดชาวเมียนมา-ชาวไทย ”สายมู” แห่เที่ยว” วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว” เพชรบูรณ์ ทะลักช่วงวันหยุดยาวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

วันที่ 31 ธันวาคม 2566 “เพชรบูรณ์” หนึ่งในจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมหลายแห่ง ที่ช่วงวันหยุดยาวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ มีประชาชนทั้งชาวไทยและประเทศเพื่อนบ้านหลั่งไหลเข้าไปท่องเที่ยวจำนวนมาก เพื่อกราบไหว้พระและสิ่งศักดิ์สิทธ์เพื่อขอพร และถือเป็นจังหวัดที่มีอากาศหนาวเย็นท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม

เช่น อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ซึ่งได้รับรองเป็นมรดกโลกเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2566, อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (หนองแม่นา) เพชรบูรณ์, พระตำหนักเขาค้อ เพชรบูรณ์, แคนยอนน้ำหนาว เพชรบูรณ์

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว

โดยเฉพาะบริเวณวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ในพื้นที่อำเภอเขาค้อ หนึ่งในอันซีน ที่มีคลื่นสาธุชนทั้งชาวไทย-ชาวเมียนมาเดินทางมาทำบุญ

ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วถือเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม มีทิวทัศน์สวยงามรอบด้าน มองเห็นผาซ่อนแก้วและทิวเขาสลับซับซ้อน

มีศาลาปฏิบัติธรรมประดิษฐานพระพุทธรูปหยกงดงาม ภายในตกแต่งด้วยภาพวาดศิลปะสวยงามแปลกตา ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง ตำบลแคมป์สน ซึ่งเริ่มก่อสร้างในราวปลาย พ.ศ. 2547 ท่ามกลางธรรมชาติและบรรยากาศที่เงียบสงบ

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว

ภายในวัดมีอุโบสถ ”พระพุทธเจ้า 5 องค์” ที่มีองค์พระสีขาวนั่งลดหลั่นซ้อนกันลงมา และเจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้ว สิริราชย์ธรรมนฤมิต เจดีย์ที่มีการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยกระเบื้องหลากหลายสี เครื่องประดับ สร้อย กำไล ถ้วยชามเครื่องเบญจรงค์ เป็นต้น

นอกจากนี้ บนเขายังมีถ้ำซึ่งชาวบ้านทางแดงหลายคนได้เล่าขานสืบต่อกันมาว่า เคยเห็นลูกแก้วลอยเหนือฟากฟ้าและลับหายเข้าไปในถ้ำบนยอดผา ซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมา และต่างถือว่าเป็นสถานที่มงคล มีความศักดิ์สิทธิ์ และเรียกตาม ๆ กันว่า “ผาซ่อนแก้ว” เพื่อเป็นนิมิตมงคลแก่ชาวบ้านทางแดงและผู้มาปฏิบัติธรรม

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว