สั่งปิด 70 แห่ง! โรงแรมอ่าวนาง-เกาะพีพี

ว่าที่ร้อยตรีอภินันท์ เผือกผ่อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ในฐานะหัวหน้าชุด คณะทำงานฝ่ายปฏิบัติการพิเศษจัดระเบียบการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษจัดระเบียบการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่และพลตรีเกรียงไกร ศรีรักษ์ ผู้บัญชาการกองบัญชาการช่วยรบที่ 4 เสนาธิการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยภาค 4 พลตำรวจตรี บุญทวี โตรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ออกการปฏิบัติงานการจัดระเบียบจังหวัดกระบี่ ตามนโยบายของ รัฐบาล แม่ทัพภาคที่ 4 และพ.ต.ท.ม.ล.กิตติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในพื้นที่ 6 ประเด็น

ประกอบด้วย ปัญหาเกี่ยวกับที่ดินทำกิน ที่สาธารณประโยชน์ ปัญหาเกี่ยวกับทรัพยากรป่าไม้ ปัญหาเกี่ยวกับผู้ประกอบการรถโดยสาร รถแท็กซี่ การจัดระเบียบการท่องเที่ยวแนวชายหาด ปัญหาเกี่ยวกับความมั่นคงและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และปัญหาอื่น ๆ เพื่อให้มีการขับเคลื่อนตามนโยบายดังกล่าวต่อเนื่อง จังหวัดกระบี่จึงมีการจัดเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ 3 ฝ่าย พลเรือน ตำรวจ ทหาร จำนวน 3 ชุด ลงพื้นที่ปฏิบัติการบูรณาการร่วมกัน ดังนี้ ชุดปฏิบัติการด้านการจัดระเบียบท่าอากาศยานจังหวัดกระบี่ ชุดจัดระเบียบจอดรถพื้นที่อ่าวนาง ชายหาด หาบเร่แผงลอย ชุดจัดระเบียบโฮสเทล ร้านอาหาร กิจการดำน้ำ และกิจการที่เข้าข่ายลักษณะนอมินี

จากการลงพื้นที่บริเวณชายหาดอ่าวนางและเกาะพีพี อำเภอเมืองกระบี่ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม – 11 มิถุนายน 2561 พบผู้ประกอบการโรงแรมความผิดฐานประกอบกิจการโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต (โฮสเทล) แจ้งความดำเนินคดีแล้ว จำนวน 70 ราย แยกเป็นที่หาดอ่าวนางจำนวน 50 ราย และที่เกาะพีพี จำนวน 20 ราย ส่วนใหญ่มีความผิดใช้อาคารผิดประเภท ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และสั่งการให้ อบต.อ่าวนางมีคำสั่งระงับการใช้อาคารแล้ว 35 ราย แจ้งความดำเนินคดีแล้ว 13 ราย ที่เหลืออยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน

นอกจากนี้ อบต.อ่าวนางได้แจ้งความดำเนินคดีกับร้านบานานาบาร์ ฐานความผิดไม่รื้อถอนอาคารตามคำสั่งกรณีต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต และยังพบว่าผู้ประกอบการโรงแรมยังความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ไม่แจ้งผู้เข้าพักโรงแรมกับตรวจคนเข้าเมืองอีกจำนวน 52 ราย

สำหรับการตรวจสอบเรือนำเที่ยวพบความผิด พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย 27 คดี และยังมีความผิดฐานประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต 1 ราย และดำเนินคดีฐานขายทัวร์โดยไม่ได้รับอนุญาต 1 ราย ดำเนินคดีกับร้านกิจการดำน้ำ จำนวน 9 ราย ความผิดฐานประกอบกิจการไม่ตรงตามที่ได้รับอนุญาต เข้าข่ายในลักษณะนอมีนี มีการจดทะเบียนซ้ำซ้อนและรับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต ตลอดจนไม่แจ้งการทำประกัน

ฉะนั้นชุดปฏิบัติการพิเศษจัดระเบียบการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ จะลงพื้นที่ดำเนินการกับผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่อีกหลายแห่ง เช่น เกาะลันตา และบริเวณหาดคลองม่วง หาดทับแขก อำเภอเมืองจังหวัดกระบี่ คาดว่ายังมีผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่กระทำผิดอยู่เป็นจำนวนมาก