ลุ้น SEZ มุกดาหารรอบ 3 รุกผนึก “สะหวัน-เซโน” เชื่อมจีน

“มุกดาหาร” หนึ่งในจังหวัดที่รัฐบาลวางเป้าหมายเป็นที่ตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน (SEZ) แต่ในการเปิดประมูล 2 ครั้งที่ผ่านมาไม่สามารถหาเอกชนมาลงทุนได้ โดยครั้งที่ 1 ไม่มีผู้ยื่นซองประมูล และครั้งที่ 2 ไม่มีผู้ยื่นซองเข้าหลักเกณฑ์ของภาครัฐ ดังนั้น จังหวัดมุกดาหาร โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดร่วมกับหอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด และสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัด และชมรมธนาคารจังหวัดมุกดาหารได้รับมอบหมายจากกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน 2 ประกอบด้วย จ.สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร หรือเรียกว่า “กลุ่มสนุก” ให้จัดงาน “3 เขตเศรษฐกิจพิเศษ 3 ประเทศเชื่อมตลาดการค้าโลก” เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อประชาสัมพันธ์ศักยภาพและส่งเสริมให้มีการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวมากขึ้น ก่อนการเปิดประมูล SEZ รอบที่ 3

เล็งเปิด SEZ รอบ 3 ปลายปี

นายไพฑูรย์ รักษ์ประเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ทางกรมธนารักษ์ในฐานะเจ้าของพื้นที่กำลังอยู่ในช่วงประมวลรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน ก่อนการเปิดยื่นซองประมูลครั้งที่ 3 เพราะหากเปิดประมูลไป แต่ไม่มีผู้ยื่นซองน่าจะส่งผลกระทบ และหลังจากจัดรับฟังความคิดเห็น และนำไปประมวลความคิดเห็นจากภาคเอกชนแล้ว จะเปิดการยื่นซองประมูลครั้งที่ 3 ภายในปีนี้

งานสัมมนาครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงสัญญาณที่ดีจากนักลงทุนต่างชาติ เพราะจะทำการปรับแผนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษให้มีวงรอบการเชื่อมโยงไปถึง “เขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน-เซโน” ในเขตสะหวันนะเขต สปป.ลาว สำหรับประเทศไทยเชื่อมโยงไปจนถึงเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยที่ผ่านมามีความเชื่อมโยงทางการค้าอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ยกระดับอย่างชัดเจน เช่น การส่งสินค้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จาก EEC ไปยังสะหวัน-เซโน จากนั้นส่งกลับมาเพื่อส่งออกผ่านท่าเรือแหลมฉบัง เป็นต้น งานนี้เป็นการแสดงศักยภาพของ จ.มุกดาหาร และ จ.นครพนมซึ่งอยู่ติดกัน ว่าสามารถเชื่อมโยงกับประเทศข้างเคียงทั้ง สปป.ลาว และเวียดนามได้

ปัจจุบัน จ.มุกดาหารมีมาตรการสนับสนุน SEZ ผ่านการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน โดยพยายามเร่งรัดระบบขนส่งผ่านทางถนน รถไฟ รวมถึงศึกษาการจัดทำสนามบินมุกดาหาร ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้อนุมัติงบประมาณ 6 ล้านบาทให้แล้ว คาดว่ากลางปี 2562 จะแล้วเสร็จ ส่วนถนนจากอุบลราชธานี-มุกดาหารได้ขยายช่องจราจรเป็น 4-6 เลนเรียบร้อยแล้ว มีเพียงเส้นทางจากมุกดาหารเข้า อ.ธาตุพนมอีก 30 กิโลเมตรที่ยังไม่ได้ก่อสร้าง หากแล้วเสร็จทั้งหมดจะทำให้ถนนจากอุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร มุกดาหาร ไปถึงนครพนม เป็นถนนเส้นใหญ่ คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2562 ส่วนถนนกาฬสินธุ์ เชื่อมโยงเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออก-ตะวันตก (EWEC) อยู่ระหว่างรอพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปีงบประมาณ 2562 ขณะที่ระบบรางประกาศลงทุนแล้ว จะเริ่มต้นปี 2562 ตามแผนคาดว่าแล้วเสร็จปี 2566

ทั้งนี้ จุดที่จะทำให้ 3 เขตเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 3 ประเทศเชื่อมการค้ากันได้อย่างสมบูรณ์ ต้องอาศัย SEZ สะหวัน-เซโนเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจ เพราะมีความก้าวหน้ามากที่สุด โดย SEZ มุกดาหารเน้นไปด้านโลจิสติกส์และภาคบริการ ซึ่งจะทำให้มุกดาหารกลายเป็นจุดเชื่อมต่อในลักษณะฮับกระจายสินค้า เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงสินค้าไปสู่จีน เวียดนาม และการขนส่งทางทะเลผ่านทางแหลมฉบังได้

“ศักยภาพของมุกดาหารปัจจุบัน ประกอบด้วย การมีรถขนส่งสินค้าในจังหวัดเกือบ 10,000 คัน มีสถาบันอาชีวะ 8-9 แห่งสนับสนุนด้านแรงงานมีฝีมือ รวมไปถึงการจัดเตรียมภาคบริการสำหรับรองรับการท่องเที่ยว และการเดินทางเข้ามาพักผ่อนของนักธุรกิจจากสะหวัน-เซโนอีกด้วย ดังนั้นในการทำเขต SEZ มุกดาหารและสะหวัน-เซโนต้องทำแบบคู่ขนานเป็นเนื้อเดียวกัน ส่งเสริมซึ่งกันและกัน ยิ่งระบบผ่านแดนของมุกดาหารทันสมัยขึ้นเท่าใด ยิ่งทำให้การเชื่อมเขตเศรษฐกิจเจริญขึ้นเท่านั้น” นายไพฑูรย์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ภายในงานมีกิจกรรมการเจรจาธุรกิจการค้า โดยเชิญผู้ประกอบการมาแสดงสินค้า เพื่อสร้างโอกาสในการขยายตลาด ลงทุน ได้แก่ กลุ่มข้าวฮางงอกหนองบัวสร้าง, ร้านคนคราม จ.มุกดาหาร, กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงไก่งวง, กลุ่มเกษตรแปลงใหญ่สับปะรด GI และลิ้นจี่ GI จ.นครพนม, กลุ่มครามมิ่งมุกบ้านนายาง, กลุ่มทอผ้าฝ้ายดงมะแหน่ง จ.มุกดาหาร รวมถึงการออกบูทของเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดหนองคาย และเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดตาก