ยางเมืองคอนเมิน ประชุมเครือข่ายยางใต้ ชี้ปัญหาไม่ใช่ราคา แค่รัฐไม่จริงใจแก้เงื่อน

เมื่อวันที่ 1 กันยายน นายทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางและปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย(คยปท.) กล่าวถึงกรณีเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี สงขลา พัทลุง กระบี่ และตรัง มีการนัดหมายประชุมกันในพื้นที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อประกาศเจตนารมณ์ พร้อมกำหนดแนวทาง โดยมีจุดยืนและข้อเรียกร้องเดินหน้าให้รัฐบาลแก้ปัญหาราคายางพารานั้นว่า ยังไม่ทราบผลการประชุมในวันนี้ เข้าใจว่าน่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางของกลุ่มนายทุน พวกตนคงไม่เข้าไปร่วมกิจกรรม เพราะไม่มีเวลา วันนี้ คยปท.ทั่วประเทศไม่มีใครมายุ่งวุ่นวายกับการเรียกร้องในเรื่องต่างๆ อีกแล้ว ไม่ใช่ไม่เดือดร้อน การต่อสู้ยังมีอยู่ แต่มันจบลงในขั้นตอนของการเรียกร้อง

“ที่ผ่านมานโยบายของรัฐไม่ตอบโจทย์สร้างความเข้มแข็งให้กับชาวสวนยางได้ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ราคายาง แต่อยู่ที่การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบและอย่างยั่งยืนมากกว่า วันนี้ชาวสวนยางนครศรีธรรมราชหันมาปรับเปลี่ยนปลูกพืชตามศาสตร์พระราชา ในพื้นที่สวนยาง 1-6 ไร่ ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง คาดว่าในปี 2565 ชาวสวนยางกว่า 50%จะปรับเปลี่ยนวิธีคิด และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน เราจะหยุดการเรียกร้อง แต่จะหันมาแก้ปัญหาด้วยตัวเองก่อน”นายทศพล กล่าวและว่า พวกเรารู้ทันทุกอย่าง รู้แม้กระทั่งนายทุนนั่งคุยกับผู้ใหญ่ในกระทรวงฯ วางแผนคิดทำอะไรกัน ให้ชาวสวนยางโค่นยาง ปลูกผลไม้ ปลูกปาล์ม ปลูกทุเรียนทดแทน โดยการสงเคราะห์ให้เงินทดแทน

ประธาน คยปท.กล่าวด้วยว่า ท้ายที่สุดเหลือเฉพาะสวนยางนายทุน อีก 4-5 ปีข้างหน้าราคายางจะสูงกว่า 100 บาท และก็เป็นจริงอย่างแน่นอน พื้นที่ปลูกยางน้อย ราคาย่อมสูง แต่ตอนนั้นก็จะเหลือแต่พื้นที่สวนยางของนายทุนเท่านั้น ส่วนเกษตรกรชาวสวนยางไปปลูกพืชอย่างอื่นแล้ว แต่คิดเพียงเท่านั้นก็เห็นตัวอย่างความจริงใจของรัฐบาลแล้ว จึงเห็นว่าพวกเราจะไม่ออกมาเคลื่อนไหวแต่อย่างใด ว่าจะแก้ปัญหาปากท้องของพวกเราให้ยืนอยู่ได้ และสวนยางใครที่มีอยู่อย่าโค่นหมด ให้คงเหลือไว้ส่วนหนึ่ง เพราะยางพาราคือกระดูกสันหลังของชาวสวนยาง

ด้านนายเรืองยศ เพ็งสกุล ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนคนกรีดยางถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ยังมีความเชื่อว่าราคาน้ำยางอยู่ระหว่าง 35-50 บาท/กก.ตั้งแต่เปิดกรีดแล้ว เกษตรกรชาวสวนยางหมดความหวังกับรัฐบาลชุดนี้แล้ว แต่ที่ไม่ทำอะไรก็ต้องอดทนเพื่อคนส่วนใหญ่ รอวันเลือกตั้งคิดว่าไม่เกินปีหน้านี้แน่ รัฐบาลชุดนี้มีทางเดือนร้อนอยู่ ถ้าหากปล่อยให้ราคายางต่ำกว่า 3 โล 100 กับเลื่อนการเลือกตั้งเกินปีหน้า ม.44ก็เอาไม่อยู่ ราคายางตกเกษตรกรยังทำใจอยู่ แต่หากต่ำกว่า 3 โล 100 เมื่อใด คงทำใจไม่ได้ ส่วนการดำเนินกิจการของกลุ่มเกษตรกรขาดทุนต่อเนื่องสะสมมาตั้งแต่ปีที่แล้ว จากต้นทุนการผลิต การช่วยเหลือของ กยท. ลำพัง กยท.เองยังเอาตัวไม่รอดเลย ตอนนี้ทำได้เพียงช่วยเหลือตัวเองไปก่อนแล้วกัน ส่วนใครจะเรียกร้องอะไรกลุ่มเราไม่ขอยุ่งเกี่ยว พวกเราไม่มีเอี่ยวในผลประโยชน์

 

ที่มา มติชนออนไลน์