ปิดทองหลังพระ สร้าง “เกษตรปลอดภัย” เพิ่มรายได้ 14 ล้านขยายแบรนด์ข้าว “ภูธารา”

นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่าโครงการ “เกษตรปลอดภัย” สร้างกลุ่มเกษตรกรในเครือข่ายได้แล้ว 15 กลุ่มในภาคอีสานตอนบน ครอบคลุมอุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำพู เลยและบึงกาฬ มุ่งผลิตอาหารปลอดภัยได้อย่างกว้างขวาง เฉพาะพื้นที่ต้นแบบปิดทองหลังพระฯ บ้านโคกล่าม-แสงอร่าม ได้รณรงค์ให้เกษตรกรหันมาผลิตข้าวและปลูกผักปลอดภัยเพื่อป้อนตลาดที่มีความต้องการสูง

นางหม่วย ดอนศรีโคตร ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนภูธารา กล่าวว่า บ้านโคกล่าม-แสงอร่าม จ.อุดรธานี พื้นที่ต้นแบบของโครงการปิดทองหลังพระ ที่เข้ามาพัฒนาต่อยอดอ่างเก็บน้ำห้วยคล้ายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทำให้สามารถทำการเกษตรได้ทั้งปี มีวิสาหกิจกลุ่มโรงสีข้าวร่วมกันผลิตข้าวปลอดภัยเพื่อจำหน่ายในตลาดนัดเกษตรปลอดภัย ทำให้กลุ่มส่งข้าวจำหน่ายในโรงพยาบาล 20 แห่ง ตลอดจนหน่วยทหาร คาดว่าปีหน้าจะมีรายได้ไม่น้อยกว่า 14 ล้านบาท และรายได้จากผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “ภูธารา” อีกกว่า 6 ล้านบาท

มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ยังได้เข้ามาให้ความรู้ทางการตลาดและพัฒนาแบรนด์ของข้าวในชื่อ “ภูธารา” ตามสภาพทางภูมิศาสตร์ที่ประกอบด้วยภูเขาและลำธาร และผลความสำเร็จของข้าว “ภูธารา” ทำให้วิสาหกิจชุมชนมีแนวคิดที่จะพัฒนาผลผลิตทางการเกษตรอื่นภายใต้แบรนด์ที่มีอยู่ อาทิ การแปรรูป ผักและผลไม้อื่นๆ เพื่อสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน โดยเชื่อมโยงความรู้ด้านการแปรรูปและออกแบบบรรจุภัณฑ์

ในขณะเดียวกันจังหวัดจะขยายตลาดสู่ผู้บริโภคให้ได้อาหารปลอดภัย โดยจะเพิ่มการจัดตลาดเกษตรปลอดภัย จาก “ตลาดร่มเขียว” ที่มีอยู่ในขณะนี้ ด้วยการร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าชั้นนำเปิดตลาดจริงใจ เป็นทางเลือกเพิ่มเติม

ปัจจุบันจังหวัดอุดรธานีได้จับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการเอกชนกับกลุ่มเกษตรกร ส่งผลให้มีการทำความตกลงการค้ากัน ของผู้ประกอบการค้าปลีกและโรงแรมรวมสิบแห่ง เพื่อรับซื้อสินค้าเกษตรปลอดภัยจากกลุ่มเกษตรกร