“มนิตย์” นายกฯใหม่ชู 6 ข้อแก้เที่ยวเหนือซบ

มนิตย์ สีฆสัมบันน์

“มนิตย์ สีฆสัมบันน์” ขึ้นแท่นนายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ 17 จังหวัดคนใหม่ โชว์วิสัยทัศน์ 6 ด้านหลักกระตุ้นธุรกิจท่องเที่ยว 17 จังหวัดภาคเหนือ เน้นดึงคนไทยเที่ยวไทยชูรายได้สู่ชุมชน หลังยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติหดหาย เน้นท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ-ท่องเที่ยวเชิงศรัทธา-เชิงเกษตร-อนุรักษ์ พร้อมปัดฝุ่นดึงงานมหกรรมท่องเที่ยวที่ประสบความสำเร็จ “ทราเวลโชว์ภาคเหนือ” และ “อินเตอร์เนชั่นแนลทราเวลโชว์” กลับมาจัดอีกครั้ง

นายมนิตย์ สีฆสัมบันน์ เจ้าของแพไม้สัก ภูฟ้าไทย จ.พิษณุโลก นายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ พิษณุโลก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ในฐานะนายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ 17 จังหวัดคนใหม่ว่า สำหรับแนวทางในการพัฒนาการท่องเที่ยวใน 17 จังหวัดภาคเหนือจะเน้นพัฒนาใน 6 ด้านหลัก ประกอบด้วย 1.ส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวไทย 2.กระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง โดยเน้นการท่องเที่ยวสู่ชุมชน 3.ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 4.ท่องเที่ยวศรัทธา ไหว้พระ ชมวัด 5.ท่องเที่ยวเชิงเกษตร และ 6.การท่องเที่ยวอนุรักษ์

นอกจากนี้มีแนวคิดจะร่วมกับหน่วยงานการท่องเที่ยว 17 จังหวัดภาคเหนือรื้อฟื้นการจัดงานมหกรรมท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่เคยประสบความสำเร็จในอดีตมาดำเนินการใหม่อีกครั้ง เช่น การจัดงานทราเวลโชว์ภาคเหนือที่ จ.พิษณุโลก ซึ่งมีการเชิญผู้ประกอบการจากหลายจังหวัดมาเข้าร่วมกันจัดงาน ขณะเดียวกันจะยกระดับการจัดงานขึ้นไปเป็นงานอินเตอร์เนชั่นแนลทราเวลโชว์ มีการดึงผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากหลายประเทศ เช่น จีน สปป.ลาว เวียดนาม เมียนมา มาเข้าร่วมการจัดงานที่ จ.เชียงใหม่ หรือ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีวัฒนธรรมโดดเด่น สามารถเชื่อมโยงต่อยอดการท่องเที่ยวได้

สำหรับแนวทางในการพัฒนาการท่องเที่ยวใน 17 จังหวัดภาคเหนือ แต่ละด้านจะเน้นกลุ่มเป้าหมายแตกต่างกันไป ได้แก่ 1.ส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวไทย หลังจากนักท่องเที่ยวต่างชาติหดหาย ค่าเงินบาทแข็งค่า จึงต้องส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวไทยตามนโยบายของรัฐบาล โดยให้ตัวแทนการท่องเที่ยวจาก 17 จังหวัดภาคเหนือ มานั่งพูดคุยโปรโมตแหล่งท่องเที่ยว ทำการท่องเที่ยวเชื่อมโยงจังหวัดต่าง ๆ ทำให้ภาพการท่องเที่ยวชัดเจน คงต้องของบจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแต่ละจังหวัด

2.กระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง โดยเน้นการท่องเที่ยวสู่ชุมชน ให้ชุมชนทำการท่องเที่ยวกันเอง เพื่อสร้างจุดขาย สถานที่ท่องเที่ยวดี อาหารอร่อย มีความปลอดภัยสูง การเดินทางสะดวกสบาย และนักท่องเที่ยวสามารถนำค่าใช้จ่ายไปลดหย่อนภาษีได้

Advertisment

3.ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ แพทย์แผนไทย มีวิทยาลัยสาธารณสุขสิรินธรเป็นจุดศึกษาและบริการด้านการแพทย์แผนไทย เน้นผักปลอดสารพิษ อาหารสะอาด ปลอดภัย คลีนฟู้ดกู๊ดเทสต์ เพื่อลดคนป่วยจากการรับประทานอาหาร ทำทุกจังหวัด

4.ท่องเที่ยวศรัทธา ไหว้พระ ชมวัด การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ประเพณีวัฒนธรรม จะมีการจัดเส้นทางท่องเที่ยวเมืองประวัติศาสตร์ ชมเมืองเก่า เชื่อมโยง จ.พระนครศรีอยุธยา กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก ซึ่งพิษณุโลกมีพระพุทธชินราช พระราชวังจันทน์ สถานที่พระบรมราชสมภพสมเด็จพระนเรศวร

5.ท่องเที่ยวเชิงเกษตร จัดคลีนทัวริซึ่ม โดยเฉพาะพื้นที่ ต.บ่อภาค อ.ชาติตระการ ทำการเกษตรยั่งยืนปลอดสารสารพิษ 100% โครงการสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า โครงการธนาคารอาหารในชุมชน ปลูกผักปลอดสารพิษ อโวคาโด ฟักทองญี่ปุ่น ปลูกองุ่น เงาะ ทุเรียน เลี้ยงหมูหลุม เป็นการทำให้ชาวเขาเผ่าม้งดำเนินการเปลี่ยนวิถีชีวิตให้ดีขึ้น กลายมาเป็นจุดขายการท่องเที่ยว

6.การท่องเที่ยวอนุรักษ์ จัดการขยะในแหล่งท่องเที่ยว ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ทำขยะให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยประสาน ดร.สมไทย วงษ์เจริญ พัฒนาโรงงานขยะรีไซเคิลให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว สะอาด เป็นสากล พัฒนาบุคลากรการท่องเที่ยว มีการพัฒนาผู้ประกอบการให้ใช้ไอทีมากขึ้นในการทำตลาด หาวิทยากรมาแนะนำผู้ประกอบธุรกิจ ให้ตระหนักทิศทางเคลื่อนไหวการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

Advertisment

นอกจากนี้ที่บ้านน้ำจวง ต.บ่อภาค ยังส่งเสริมให้มีการทำนาขั้นบันได โดยในวันที่ 19-20 ตุลาคม 2562 นี้ จะมีการจัดงานกินข้าวใหม่ซาปาเมืองไทย@บ้านน้ำจวง ชมนาขั้นบันได กระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งในวันที่ 19 ตุลาคม นายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือพร้อมคณะกรรมการ ผู้ติดตาม มาไหว้พระพุทธชินราช ชมพระราชวังจันทน์ ทำพิธีสถาปนา มอบโล่ เกียรติบัตรให้คนทำงานท่องเที่ยวก่อนเดินทางไปบ้านน้ำจวง ต.บ่อภาค ชมนาขั้นบันได การแสดงเด็กชาวเขา กินข้าวใหม่ม้ง ชมแหล่งท่องเที่ยว น้ำตกตาดปลากั้ง คาดว่าจะมีคณะกรรมการท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยวเดินทางมา 150-200 คน