สระแก้วคุมเข้ม แถลงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 2 ราย เผยได้รับเชื้อจากปอยเปต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (23 มีนาคม.2563) ณ ห้องประชุมสิรินธร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว นายวิทยา มากปาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย นพ.สุภโชค เวชภัณฑ์เภสัช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว นพ.ราเชษฎ เชิงพนม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอรัญประเทศ ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดสระแก้ว

นายวิทยา มากปาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสระแก้ว ขอแจ้งโรคสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ว่าขณะนี้ (23 มีค.63) จังหวัดสระแก้วมีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) สะสมทั้งหมด 70 ราย ในจำนวนนี้ผลไม่พบเชื้อ 58 ราย ซึ่งแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านและได้ติดตามกักไว้สังเกตอาการ 14 วัน วันนี้มีรายงานพบผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 จำนวน 2 ราย เป็นเพศชาย อายุ 29 ปี ภูมิลำเนาจังหวัดสมุทรปราการ และเพศหญิง อายุ 27 ปี ภูมิลำเนาจังหวัดสระแก้ว ทั้งนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ได้รับรายงานแจ้งผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 ชลบุรี ว่ามีผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 2 ราย มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยที่กระทรวงสาธารณสุขแถลงไปก่อนหน้านั้น ปัจจุบันยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล อาการไม่รุนแรง

นพ.สุภโชค เวชภัณฑ์เภสัช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า สำหรับผู้ป่วย รายที่ 1 มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดศีรษะ ถ่ายเหลว และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอรัญประเทศ ผลตรวจพบเชื้อโควิด-19 จากการสอบสวนโรคมีความสัมพันธ์กับนักท่องเที่ยวที่ไปใช้บริการที่สถานบันเทิงในปอยเปต ผู้ป่วย รายที่ 2 ไม่มีอาการ แต่มีประวัติเสี่ยงสูงคือสัมผัสกับผู้ป่วยที่ยืนยันโรค จึงได้เข้ารับการตรวจยืนยันที่โรงพยาบาลอรัญประเทศ ผลตรวจพบเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ได้ดำเนินการเฝ้าระวังและติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยทั้งคู่จำนวน 6 ราย ผลตรวจไม่พบเชื้อ และติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูง (High Risk)อีก 6 ราย ซึ่งไม่มีอาการป่วยและได้เข้ารับการกักตัว 14 วัน นอกจากนี้ยังมีผู้สัมผัสที่เกี่ยวกับผู้สัมผัสกลุ่มนี้อีก 6 ราย อยู่ระหว่างเก็บสิ่งส่งตรวจและรอยืนยันผล ทั้งนี้ได้มีการสื่อสารความเสี่ยงและทำความเข้าใจกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับผู้ป่วย เพื่อลดความตื่นตระหนกในเรื่องช่องทางการติดโรค ลักษณะการแพร่กระจายของโรค และการป้องกันตนเองสำหรับประชาชนทั่วไป ขอให้สร้างสุขอนามัย ยึดหลัก “ลด เลี่ยง ดูแล” คือ ลดความเสี่ยง ด้วยการล้างมือด้วยน้ำ และสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ให้บ่อยขึ้น หากรู้สึกไม่สบาย ไอ จาม ให้สวมหน้ากากอนามัย เลี่ยง การเดินทางไปในพื้นที่มีการระบาดและพื้นที่มีคนหนาแน่นเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้า ดูแล สุขภาพตนเองและสังคม ด้วยการกินร้อน ช้อนกลางส่วนบุคคล ทำตนเองให้แข็งแรง และกักตัว 14 วัน เมื่อเดินทางกลับจากพื้นที่ที่มีการระบาด

นพ.ราเชษฎ เชิงพนม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอรัญประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงพยาบาลอรัญประเทศได้ดูแลผู้ป่วยยืนยัน 2 ราย รอยืนยันอีก 6 ราย โดยแบ่งเป็นห้องแยกโรคเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด จำนวน 10 ห้อง มีมาตรการดูแลต่างๆ เช่น งดเยี่ยมผู้ป่วย ได้จัดทีมแพทย์อายุรกรรมคอยดูแลรวมทั้งมีที่ปรึกษาเป็นแพทย์จากโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว กรณีที่ผู้ป่วยมีอาการหนัก เบื้องต้นผู้ป่วยทั้ง 2 ราย อายุ 27-29 ปี มีอาการป่วยธรรมดาไข้ ไอ มีน้ำมูก ไม่มีอาการปอดอักเสบ บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลได้ให้การดูแลรักษาเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น. ที่จังหวัดสระแก้ว ได้มีแรงงานชาวกัมพูชาประมาณ 500 คน ที่ทำงานอยู่ในเขตอุสาหกรรมต่างๆของประเทศไทยเดินทางมาที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก เพื่อต้องการเดินทางข้ามชายแดนกลับไปฝั่งประเทศกัมพูชา เนื่องจากโรงงานสั่งปิดโรงงาน แต่ไม่สามารถข้ามชายแดนได้ เนื่องจากนายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วสั่งปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ต่อมานายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย พ.อ.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ รองผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผบ.ชค.กรม.ทพ.12 พ.ต.อ.อาทิตย์ ยาแก้ว ผกก.ตม.สระแก้ว นายออน อุ่นทวีทรัพย์ นายด่านศุลกากรอรัญประเทศ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางลงพื้นที่พบแรงงานชาวกัมพูชาประมาณ 500 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่ทำงานอยู่ตามเขตอุสาหกรรมต่างๆของไทย หลังเกิดวิกฤตเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ทางเจ้าของโรงงานได้สั่งปิดโรงงาน แรงงานกัมพูชาจึงไม่มีงานทำและไม่มีที่อยู่อาศัย จึงได้ชักชวนกันเดินทางกลับประเทศกัมพูชา แต่ไม่สามารถข้ามชายแดนได้เนื่องจากจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึกปิด ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วและเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้พิจารณาแล้วว่า แรงงานทั้งหมดมีความจำเป็นต้องเดินทางกลับประเทศกัมพูชาจริง จึงได้อนุญาตให้เดินทางกลับฝั่งประเทศกัมพูชาตั้งแต่เวลา 12.00 น.จนถึงเวลา 22.00 น. ส่วนคนไทยที่ตกค้างในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชาก็เช่นกัน สามารถเดินทางกลับเข้ามาในฝั่งประเทศไทยได้เช่นกัน ทั้งนี้การเดินทางกลับประเทศของแรงงานกัมพูชาและคนไทยจะต้องผ่านขั้นตอนการคัดกรองอย่างเข้มงวด และสามารถเดินทางข้ามชายแดนได้เฉพาะในวันนี้เท่านั้น

พ.อ.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ รองผู้บัญชาการกองกำลัง กล่าวว่า ได้ประสานกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กรณีคนไทยที่ทำงานในกรุงเทพฯและปริมณฑลที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ได้สั่งการให้ขนส่งจังหวัดสระแก้วทำประวัติทุกคนว่าอยู่ที่ใดให้รายงานให้ศูนย์ควบคุมโรคจังหวัดสระแก้วจากนั้นจะแจ้งให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านติดตามความเป็นอยู่และเฝ้าระวังรายงานให้ศูนย์ควบคุมโรคทราบจนกว่าจะครบ 14 วัน ส่วนปัญหาเฉพาะหน้าให้เจ้าหน้าที่บันทึกเสียงเป็นภาษากัมพูชาและภาษาไทยประกาศเสียงตามสายให้ทราบว่าทางเราได้อนุโลมเพียงวันเดียวเท่านั้น