“ผลิตภัณฑ์ไข่เค็ม” ถือเป็นหนึ่งในสินค้าที่หาซื้อง่าย และมีวางขายในท้องตลาดทั่วไป ดังนั้น การหยิบไข่เค็มขึ้นมาทำตลาดจึงต้องสร้างจุดเด่น และความแตกต่าง
“แหม่ม” สิริกมล พงศ์พัว แห่งบ้านไร่ห่มรัก จังหวัดกาญจนบุรี หนึ่งในผู้ที่ผ่านการอบรมในโครงการ “พลังชุมชน” เสริมความรู้คู่คุณธรรม สนับสนุนโดยเอสซีจี ได้นำความรู้ที่ได้รับจากการเข้าร่วมอบรมไปประยุกต์ใช้ทั้งในเรื่องการทำธุรกิจและวิถีชีวิต
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
โดยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ชุมชนธรรมดา ออกมาเป็น “ไข่เค็มอัญมณี” พอกด้วยสมุนไพร 4 สี ให้โดดเด่นสะดุดตา
โดยคุณแหม่มเล่าว่า ก่อนเผชิญกับโควิด-19 ได้รวมกลุ่มกับคนในชุมชนกว่า 20 คน ทำศูนย์สร้างอาชีพขายไข่เป็นหลัก มีกล้วยฉาบและหมูทอดเป็นสินค้าเสริม มียอดขายมาจากการออกร้านตามงานต่าง ๆ เป็นหลัก
แต่หลังจากสถานการณ์การติดเชื้อที่รุนแรงขึ้น ทำให้ไม่สามารถไปออกร้านขายสินค้าได้ตามปกติ ส่งผลกระทบต่อยอดขายค่อนข้างรุนแรง จึงปรับเปลี่ยนมาขายผ่านช่องทางออนไลน์
ซึ่งไม่เคยทำมาก่อน และไม่มีความรู้เรื่องการตลาดออนไลน์ คิดเพียงว่า “เมื่อล้ม เราต้องเปลี่ยน”
“เรามานั่งคิดว่า ช่วงที่คนต้องกักตัวอยู่บ้าน ยังไงคนต้องหาของกินติดบ้านไว้ และเป็นของที่เก็บไว้กินได้นาน ๆ ตอนนั้นคิดว่าทุกบ้านมักจะมีไข่เค็มติดบ้าน แต่ทำยังไงจะให้ไข่เค็มของเราโดดเด่นไม่เหมือนที่มีขายในท้องตลาดทั่วไป อันนี้ถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องตีให้แตก”
จึงนำความรู้จากการอบรมในโครงการพลังชุมชนของเอสซีจี นำมาประยุกต์ใช้สร้างความแตกต่างให้ชวนซื้อด้วย 3 จุดขายสำคัญ ได้แก่ 1.ไข่เค็มอัญมณีพอกสมุนไพรได้ประโยชน์
โดยไข่เค็มสีเหลืองพอกด้วยขมิ้น เปรียบเหมือน “ทองคำ” สีเขียวจากใบเตย เปรียบเหมือน “มรกต” สีแดงจากฝาง เปรียบเหมือน “ทับทิม” และสีม่วงจากกระเจี๊ยบ เปรียบเหมือน “พลอย”
2.เป็นไข่เค็มโซเดียมต่ำสำหรับคนรักสุขภาพ จากการใช้เกลือโพแทสเซียมที่มีความเค็มประมาณ 50% ของเกลือปกติ นำมาผสมกับเกลือไอโอดีนความเค็ม 75% ของเกลือปกติ ทำให้มีโซเดียมต่ำ และไม่เค็มมาก
และ 3.อร่อยโดนใจกับไข่แดงยางมะตูม ซึ่งเคล็ด (ไม่) ลับ สูตรสร้างความอร่อยของไข่เค็มอัญมณี พอกด้วยสมุนไพร เพื่อเพิ่มความนุ่มให้ไข่ขาว ใช้เวลาประมาณ 10-15 วัน หากพอกนานจะยิ่งเค็ม
หากต้องการให้เป็นยางมะตูมใช้เวลา 9 วัน เป็นช่วงเวลาที่กำลังเหมาะ ซึ่งสมุนไพรที่พอกไม่ได้ซึมซับเข้าไปมาก แต่ช่วยเพิ่มคุณค่าทางจิตใจมากกว่า แต่ถ้านำไข่มาดอง หรือทำต้มยำ 5 วัน จะได้กลิ่นชัดเจนกว่า
รวมถึงการนำไข่ขาวเค็มไปทำเป็นเกลือโปรตีน โดยนำไข่ขาวไปตีฟู อบลมร้อนให้แห้งเป็นเกล็ด ๆ แล้วนำไปปั่นจนกลายเป็นเกล็ดผงผสมสมุนไพรสำหรับโรยข้าว
นอกจากสีสะดุดตาแล้ว ยังมีกลิ่นหอมของสมุนไพร ด้วยการใช้เทคนิคต้มไข่ให้เป็นยางมะตูมเพิ่มความหนุบหนับเวลากินไม่ซ้ำแบบใคร ปรุงความอร่อยแบบโซเดียมต่ำ เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพ เสิร์ฟมาในชะลอมของขวัญสวยงาม
“เราต้องปรับตัวเพื่อฝ่าวิกฤตไปให้ได้ พยายามหาจุดขายที่แตกต่าง ทำการตลาดมากขึ้น ขายผ่านออนไลน์ ผลตอบรับหลังการปรับตัว ปรากฏว่ายอดขายดีขึ้นมีรายได้เพิ่มถึง 4 เท่า
จากที่เคยขายไข่เค็มธรรมดามากสุดเพียง 500 ฟองแต่ไข่เค็มอัญมณียางมะตูมขายได้อย่างต่ำเดือนละเกือบ 2,000 ฟอง ทำให้เกิดความฮึกเหิมเดินหน้าต่อไปอีก มองเห็นช่องทางว่าเราปรับตัวได้ เห็นถึงลู่ทางในอนาคต รู้ว่าเราทำได้และเห็นเป้าหมายชัดเจนขึ้น”
ใครสนใจติดต่อมาได้ที่เฟซบุ๊ก “บ้านไร่ห่มรัก” ยังมีผลิตภัณฑ์อีกหลากหลายรอให้ช็อปเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม รับรองว่าไข่เค็มอัญมณีทุกเม็ดต้องถึงมือลูกค้าอย่างดี ไม่บุบสลาย
โดยจัดใส่บรรจุภัณฑ์อย่างนุ่มนวลและแน่นหนา รับประกันไข่เค็มอัญมณีทุกฟองถึงมือลูกค้าในสภาพสมบูรณ์”
อย่างไรก็ตาม คุณแหม่มกล่าวทิ้งท้ายว่า “คนเราอย่ายอมแพ้กับชีวิตง่าย ๆมันจะต้องมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เสมอ ชีวิตคนเราล้มได้ก็ลุกได้ ที่สำคัญคือใจต้องคิดสู้ ทุกปัญหาที่เกิดขึ้นมันแก้ได้ หนทางมีให้เราเดินได้เสมอ ทุกคนทำได้
แต่ต้องดึงศักยภาพออกมา เราต้องเชื่อมั่นว่าสินค้าของเราดี การนำหลักเศรษฐกิจพอเพียง อยู่อย่างพอมีพอกิน จะช่วยให้อยู่รอดได้แม้ต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19”
