“อัมพวา” บูมเที่ยววิถีชุมชน คนกรุงแห่ผุดบ้านหลังที่ 2

ท่องเที่ยวเมืองปลาทูยังฮิต ททท.โหมโปรโมตเมืองสายน้ำสามเวลา เผยรายได้พุ่ง 3.6 พันล้าน ชูจุดขายท่องเที่ยววิถีชุมชน ตลาดน้ำ ตลาดร่มหุบ ชาวจีน-ตะวันออกกลางเริ่มรู้จัก ตั้งเป้าปี”61 รายได้ทะยาน 19% ขณะที่คนกรุงเทพฯแห่จับจองที่ดินริมน้ำผุดบ้านหลังที่สอง

นางอินทิรา วุฒิสมบูรณ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพรวมการท่องเที่ยว จ.สมุทรสงคราม ถือว่าค่อนข้างดี ปี 2560 มีนักท่องเที่ยว 2.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มีนักท่องเที่ยว 2.6 ล้านคน คิดเป็น 9.8% เช่นเดียวกับรายได้ด้านการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจากปี 2559 อยู่ที่ 3,093 ล้านบาท เป็น 3,617 ล้านบาทในปีนี้ คิดเป็น 16.9%

สำหรับ จ.สมุทรสงคราม โดดเด่นเรื่องการท่องเที่ยววิถีชุมชน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่มุ่งเน้นการท่องเที่ยวชุมชนในปี 2561 โดยมีชุมชนที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards) หรือรางวัลกินรี จาก ททท. 2 แห่ง ได้แก่ ชุมชนบ้านบางพลับ อ.บางคนที และชุมชนบ้านริมคลองโฮมสเตย์ อ.เมือง นอกจากนี้ยังมีชุมชนที่มีศักยภาพ เช่น ชุมชนบ้านสารภี รวมถึงวัดที่มีชื่อเสียงและอยู่ริมแม่น้ำกว่า 110 วัด เช่น วัดบางกะพ้อม วัดเพชรสมุทรวรวิหาร อีกทั้งตลาดน้ำอัมพวา และตลาดร่มหุบ ก็ยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลัก

“นักท่องเที่ยวคนไทยมีสัดส่วนหลักล้านคน ทั้งกลุ่มครอบครัว ผู้สูงอายุ นักเรียน นักศึกษา สำหรับชาวต่างชาติมีหลักแสนคน ได้แก่ จีน รองลงมา เกาหลี ญี่ปุ่น รัสเซีย และอังกฤษ ค่าใช้จ่ายต่อหัวอยู่ที่ 1,500 บาท โดยปี 2558 ผู้ว่าฯสมุทรสงคราม ได้เซ็นเอ็มโอยูกับมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ทำให้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวจำนวนมาก โดยเฉพาะปัจจุบันมีกลุ่ม FIT เพิ่มมากขึ้น ซึ่งนิยมท่องเที่ยวตลาดร่มหุบ และค่ายบางกุ้ง ส่วนกลุ่มตะวันออกกลางก็เพิ่มมากขึ้น หลังจากเริ่มทำตลาดตั้งแต่ปี 2559”

ขณะเดียวกัน ปีนี้ ททท.ได้ต่อยอดเมืองต้องห้าม…พลาด เพราะสมุทรสงครามเป็น 1 ใน 12 เมืองต้องห้าม…พลาด ซึ่งมีการเปลี่ยนชื่อเป็นเที่ยวเมืองสายน้ำ วิถีไทยเก๋ไก๋อย่างยั่งยืน กิจกรรมหลัก ๆ คือ ยามเช้าตักบาตร พายเรือ กลางวันล่องเรือไหว้พระ ล่องเรือนวด ส่วนกลางคืนนั่งเรือชมหิ่งห้อย จับกลุ่มผู้สูงอายุ เน้นเรื่องโลคอล เอ็กซ์พีเรียนซ์ เช่น ที่ชุมชนบ้านบางพลับ ปั่นจักยานชมสวนส้มโอ และสาธิตทำผลไม้กลับชาติ ที่ชุมชนบ้านสารภี บ้านริมคลอง ทำขนมไทย สาธิตทำน้ำตาลมะพร้าว เป็นต้น ซึ่งจะประสานโรงเรียนต่าง ๆ ให้เข้ามาทำกิจกรรมเพิ่มขึ้น

Advertisment

รวมถึงยังมีโครงการท่องเที่ยววันธรรมดาน่าเที่ยว เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการให้มีรายได้ในวันธรรมดา โดยผู้ประกอบการที่สมัครมาเข้าร่วมโครงการ จะมีโปรโมชั่นต่าง ๆ เช่น ลดราคา 50% หรือซื้อ 2 ห้อง แถม 1 ห้อง ซึ่ง ททท.จะช่วยนำข้อมูลขึ้นเว็บไซต์วันธรรมดาน่าเที่ยวให้ด้วย สำหรับผู้เข้าพักจะมีคูปองชิงโชคลุ้นของรางวัล โดยปี 2560 มีผู้ประกอบการเข้าร่วม 12 ราย และเริ่มโครงการในปี 2561 ต่อไป ซึ่งขณะนี้จะมีการประชาสัมพันธ์ไปตามองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพื่อทำยุทธศาสตร์นำเที่ยวในวันธรรมดา

ขณะเดียวกันก็มีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ เช่น ฟาร์มม้าอัมพวา เน้นกลุ่มนักเรียนและครอบครัว คาดว่าจะเปิดช่วงกลางปี 2561 ซึ่งขณะนี้ซอฟต์โอเพนนิ่งแล้ว ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวเดิมปรับปรุงให้ดีขึ้น ได้แก่ ตลาดร่มหุบ มีการจัดมุมถ่ายภาพ ปรับภูมิทัศน์ตรงสถานีจอดใหม่ และ ททท.ได้โฆษณาเมืองสายน้ำสามเวลาบนรถไฟ ซึ่งอนาคตพยายามนำภาพแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดใส่ไปในขบวนรถไฟด้วย หรือตลาดน้ำท่าคา ซึ่งเป็นตลาดน้ำตอนเช้า ได้รับงบฯมาจากบริษัท ประชารัฐรักสามัคคี สมุทรสงคราม (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด มาปรับปรุงที่นั่ง ปรับภูมิทัศน์ และตลาดน้ำบางน้อย

“ปี 2561 ตั้งเป้ามีนักท่องเที่ยวเพิ่ม 10% และรายได้เพิ่ม 19% ซึ่งสมุทรสงครามเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวชุมชน หรือท่องเที่ยววิสาหกิจชุมชนต่าง ๆ ดึงให้คนเข้ามาทำกิจกรรมซีเอสอาร์ โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นบริษัททัวร์ อปท. และกลุ่มสัมมนา”

ด้านนายพัชโรดม อุนสุวรรณ ประธานชมรมท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรสงคราม เปิดเผยว่า การลงทุนโรงแรมส่วนใหญ่เป็นทุนท้องถิ่น 80-90% และทุนข้างนอก 10-20% โดยเป็นโรงแรมที่รองรับนักท่องเที่ยวได้ 100 คน มีประมาณ 30 แห่ง ส่วนที่เหลือยังคงเป็นโรงแรมขนาดเล็กและโฮมสเตย์ ขนาด 4-20 ห้อง มีเป็นร้อยแห่ง ซึ่งปี 2560 มีโรงแรมที่เปิดใหม่ 2 แห่ง ขนาด 40-50 ห้อง เปิดแล้ว 1 แห่ง และอีกแห่งน่าจะก่อสร้างไปแล้ว 90% ตั้งอยู่เขต อ.เมือง และบางคนที

Advertisment

“ในช่วง 4-5 ที่ผ่านมา มีคนกรุงเทพฯเข้ามาซื้อบ้านและที่ดินใน จ.สมุทรสงคราม จำนวนมาก เป็นลักษณะบ้านหลังที่สองไว้พักผ่อนวันเสาร์-อาทิตย์ ส่วนใหญ่นิยมบ้านริมคลองหรือแม่น้ำ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่สีเขียวค่อนข้างสมบูรณ์ และอยู่ใกล้กรุงเทพฯ เพียง 60 กม. เดินทางเพียงชั่วโมงเศษ ๆ และมีอาหารอุดมสมบูรณ์ แต่ปีนี้ค่อนข้างจะชะลอตัว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ แต่ก็ยังมีคนกรุงเทพฯเข้ามาถามตลอดว่า มีที่ดินริมน้ำบ้างไหม” นายพัชโรดมกล่าว