ช่วงของเดลต้า ผู้ที่รักษาในรพ. เสียชีวิต 15.1% ส่วนช่วงโอมิครอน ลดเหลือ 4.9% ไปในทางเดียวกับผู้เสียชีวิตต่อผู้ติดเชื้อที่ลดจาก 1% เป็น 0.1% ในปัจจุบัน เนื่องจากการฉีดวัคซีน-การรักษาที่ดีขึ้น
วันที่ 20 กันยายน 2565 นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ความรุนแรงของโควิด-19 ลดลง โดยอ้างอิงข้อมูลจากทั้งสหรัฐและไทย เพื่อเปรียบเทียบระหว่างสายพันธุ์เดลต้า กับสายพันธุ์โอมิครอน
- จีนแบน 3 บริษัทสหรัฐ ห้ามทำการค้า ห้ามผู้บริหารเข้าประเทศ
- วิธีลงทะเบียนแอป ทางรัฐ ยืนยันตัวตน รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- เปิด 20 อันดับโรงพยาบาลดีที่สุดในไทย ปี 2567
โดยระบุว่า นับตั้งแต่มีการระบาดของโรคในประเทศจีน ในตอนแรกความรุนแรงของโรค โอกาสที่จะลงปอดและมีปอดบวมเป็นจำนวนมาก และทำให้สูญเสียชีวิต 3 ถึง 5% ต่อมาก็เห็นได้ชัดเจนบ้างในการระบาดแต่ละระลอก (wave) ความรุนแรงของโรคมีแนวโน้มลดลงมาโดยตลอด
ข้อมูลของศูนย์ควบคุมป้องกันโรค สหรัฐอเมริกาที่เผยแพร่ออกมา จะเห็นว่าอัตราการเสียชีวิตของ covid 19 ในผู้ป่วยที่นอนโรงพยาบาล ในช่วงของเดลต้า ร้อยละ 15.1 อัตราการเสียชีวิตลดลงอย่างมาก ในช่วงโอมิครอน เหลือร้อยละ 4.9 ในจำนวนผู้ที่ต้องรับการรักษาที่โรงพยาบาล
เช่นเดียวกับในประเทศไทย อัตราการเสียชีวิตต่อจำนวนผู้ติดเชื้อ ในปีแรกประมาณ 1% หรือกว่าเล็กน้อย หลังจากนั้นก็เริ่มลดลง และมาในช่วงโอมิครอน อัตราการเสียชีวิตต่อจำนวนผู้ติดเชื้อน้อยลงมาก ๆ น่าจะน้อยกว่า 0.1% อย่างที่เห็นทุกวันนี้ จำนวนผู้ป่วยที่นอนโรงพยาบาลก็น้อยกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก จำนวนผู้ที่ติดเชื้อมากกว่าที่นอนโรงพยาบาล น่าจะมากกว่าเป็น 10 เท่า
การที่ความรุนแรงลดลง และอัตราการเสียชีวิตน้อยลง มีผลมาจากการได้รับวัคซีนไปเป็นจำนวนมาก การวินิจฉัยและการรักษาแต่เริ่มแรกทำได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ประกอบกับการมียารักษาที่ดีขึ้น และมีจำนวนมากที่เคยติดเชื้อมาแล้ว