Moshi Moshi โชว์ฟอร์มแกร่ง ครึ่งแรกปี’66 กำไรสุทธิ 168.62 ล้านบาท

Moshi

Moshi Moshi โชว์ฟอร์มแกร่ง ครึ่งแรกปี 2566 กวาดรายได้ 1,161.03 ล้านบาท กำไรสุทธิ 168.62 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าขยายสาขาเต็มสูบ มั่นใจสิ้นปี 2566 เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ตามเป้า

วันที่ 15 สิงหาคม 2566 นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บริษัท) หรือ MOSHI ผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/256(เมษายนมิถุนายน) บริษัทมีรายได้รวม 595.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 429.32 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิทำได้ 82.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 58.71 ล้านบาท

ทั้งนี้ การเติบโตดังกล่าวเป็นผลจากยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ในงวดครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้น 30.92% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศ รวมถึงบริษัทได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ สินค้าที่พัฒนาร่วมกับศิลปินนักวาดการ์ตูนคนไทย และการเพิ่มหมวดสินค้าใหม่ เช่น หมวด Pet accessory ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

รวมทั้งการขยายสาขา โดยบริษัทเปิดสาขาใหม่ของร้านค้าปลีกแบรนด์ Moshi Moshi ในช่วงครึ่งปีแรกทั้งสิ้น 7 สาขา และร้านค้าส่ง The OK Station 1 สาขา ส่งผลให้บริษัทมีสาขารวมทั้งหมด 114 สาขา (ณ สิ้นไตรมาส 2/2566) โดยแบ่งเป็นค้าปลีก 110 สาขา และค้าส่ง 4 สาขา ครอบคลุม 45 จังหวัด

นอกจากนี้ยังมี Seasonal ใหญ่ ๆ อย่าง Back to School ที่กลับมาครึกครื้นอีกครั้งหลังทุกโรงเรียนเปิดเรียนตามปกติแล้ว ยิ่งส่งผลให้ยอดขายสาขาเดิมเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรกของปี 2566 (มกราคม-มิถุนายน) บริษัทมีรายได้รวม 1,161.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 793.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิทำได้ 168.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 87.61 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีรายได้จากธุรกิจค้าปลีก 955.60 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 82.7% รายได้ธุรกิจค้าส่ง 192.26 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 16.7% และช่องทางการจัดจำหน่ายอื่น ๆ 7.11 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 0.6%

Moshi

อย่างไรก็ตาม สัดส่วนรายได้ของธุรกิจค้าส่งที่เพิ่มขึ้น มาจากยอดการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว โดยมักเลือกซื้อของฝากกลับไปยังประเทศตนเอง โดยเฉพาะสาขาค้าส่งประตูน้ำ และ Platinum ประกอบกับมีการขยายพื้นที่สาขาสำเพ็งในปี 2565 และการเพิ่มสาขา The OK Station ที่เป็นธุรกิจค้าส่งในไตรมาส 2/2566 ยิ่งทำให้ยอดขายเติบโตได้มาก นอกจากนี้ ยอดขายจากช่องทางออนไลน์ยังเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ

โดยในช่วงไตรมาส 2/2566 บริษัทได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายออนไลน์อีก 1 ช่องทางได้แก่ TikTok Shop จากเดิมที่จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ เพียง 2 ช่องทาง คือ Shopee และ Lazada และสำหรับผลการดำเนินการในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทคาดว่าจะเติบโตมากกว่าในครึ่งปีแรก ซึ่งจะทำให้รายได้ในปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ตามเป้าหมายที่วางไว้

“อย่างไรก็ตาม เรายังติดตามปัจจัยเสี่ยงทางด้านการเมืองอย่างใกล้ชิด เพราะอาจส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมได้รับผลกระทบในครึ่งปีหลัง ซึ่งจะประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่องและปรับเป้าหมายตามความเหมาะสมต่อไป” นายสง่ากล่าว