“เอ็มเคสุกี้” ร่วมทุนญี่ปุ่นทุ่ม 1.5 พันล้านลุยธุรกิจฟู้ดโลจิสติกส์

เอ็มเคสุกี้แตกธุรกิจใหม่ จับมือ “เซนโค” ยักษ์ขนส่งจากญี่ปุ่น ทุ่มงบฯ 1,500 ล้านบาท ผุดบริษัทใหม่ “เอ็ม-เซนโค” ลุยธุรกิจโลจิสติกส์-ขนส่งอาหารแช่เย็นครบวงจร 24 ชั่วโมง หวังชิงตำแหน่งเจ้าตลาด

นายสมชาย หาญจิตต์เกษม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปัจจุบันกระแสอีคอมเมิร์ซมาแรงในกลุ่มผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงทุกวัน เริ่มเห็นได้จากการใช้บริการสั่งสินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซมากขึ้น ทำให้บริษัทต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมในตลาด ประกอบกับภาพรวมตลาดธุรกิจอาหารและธุรกิจการขนส่งสินค้าโลจิสติกส์ขยายตัวต่อเนื่อง เนื่องจากผู้ประกอบการร้านอาหารเพิ่มขึ้น เป็นผลจากการขยายสาขาของห้างสรรพสินค้า และร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ ด้วยมูลค่าหลักแสนล้านบาท

ทั้งนี้ คาดว่าในอนาคตกลุ่มธุรกิจร้านอาหารและโลจิสติกส์จะมีแนวโน้มเติบโตขึ้น เอ็มเคจึงมองเห็นโอกาสต่อยอดธุรกิจเพื่อขยายการเติบโต โดยร่วมลงทุนกับบริษัท เซนโค กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ยักษ์ใหญ่ด้านโลจิสติกส์จากประเทศญี่ปุ่น ที่มีความสามารถในการจัดหาวัตถุดิบ และมีฐานลูกค้ากลุ่มอาหาร, เครื่องดื่ม มีพาร์ตเนอร์หลากหลายบริษัททั้งในไทยและต่างประเทศ ร่วมกันก่อตั้งบริษัทเอ็ม-เซนโค โลจิสติกส์

โดยมีหุ้นส่วนฝ่ายละ 49.75% มีทุนจดทะเบียน 1,300 ล้านบาท เพื่อขนส่งวัตถุดิบอาหารแช่เย็นและอาหารแช่แข็ง โดยแยกแผนกโลจิสติกส์ของ “เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป” ที่เดิมมีการขนส่งจากครัวกลางในประเทศไทย มารวมกับบริษัทใหม่ทั้งหมด เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าภาคธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม และธุรกิจค้าปลีก เช่น ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต และมินิมาร์ต

ขณะเดียวกัน “เอ็มเค” ได้ทุ่มงบฯลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาท แบ่งงบฯลงทุนออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่หนึ่ง ใช้งบฯลงทุน 1,300 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างคลังสินค้าและระบบขนส่ง ส่วนที่สอง ใช้งบฯลงทุน 200 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างคลังสินค้า คาดว่าการก่อสร้างทั้งหมดเสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้ โดยมีสถานที่ตั้งอยู่ย่านถนนบางนา-ตราด รองรับบริการด้านโลจิสติกส์ ด้านการให้บริการคลังสินค้า, การขนส่ง, บริการนำเข้า-ส่งออกสินค้า และการซื้อขายสินค้า โดยให้บริการขนส่งสินค้าแบบเย็นในประเทศเป็นหลัก และต่อไปในอนาคตคาดว่าจะขยายไปประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ เวียดนาม เมียนมา กัมพูชา ลาว อย่างแน่นอน

นอกจากนี้เมื่อคลังสินค้าและระบบขนส่งพร้อมให้บริการในเดือนสิงหาคม จะเพิ่มจำนวนรถบรรทุก 200 คัน จากเดิมที่มีรถบรรทุกจำนวน 140 คัน รวมรถบรรทุกทั้งหมด 340 คัน เพื่อสะดวกต่อการขนส่งในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งขณะนี้มีธุรกิจของเอ็มเคและธุรกิจใกล้เคียง อย่างเช่น กลุ่มฟู้ดและฟังก์ชั่นนอลฟู้ด ที่สามารถขนส่งไปในทิศทางเดียวกันได้ จะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายเช่นกัน ระหว่างนี้อยู่ในช่วงการหาลูกค้าในการให้บริการขนส่งอาหารแช่เย็น และอาหารแช่แข็งต่อไป

เป้าหมายในปี 2562 หลังการร่วมทุนในธุรกิจ “เอ็ม-เซนโค” คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้มากกว่า 800 ล้านบาท และในอีก 3 ปีข้างหน้าจะผลักดันรายได้เติบโตกว่า 1,800 ล้านบาทต่อปีอย่างแน่นอน