BECระดมคอนเสิร์ตนอก/ชูวาไรตี้ตรึงคนดู

ตลาดคอนเสิร์ต โชว์บิซคึกคัก ผู้จัดรายใหม่ดาหน้าลงสมรภูมิเพียบ ขณะที่พื้นที่จัดงานขนาดใหญ่ยังสวนทางกับการเติบโต ด้านบีอีซเทโรฯ เปิดไลน์อัพใหม่ไม่ยั้ง ครึ่งปีหลังมีไม่ต่ำกว่า 9 งาน ทั้งคอนเสิร์ตไทยและเทศ และโชว์กายกรรม กวางเจา หวังเจาะกลุ่มครอบครัว พร้อมเพิ่มความหลากหลายให้แก่โชว์ หวังเก็บคนดูทุกกลุ่ม

นายรักษิต รักการดี ผู้อำนวยการฝ่ายคอนเสิร์ตและอีเวนต์ บริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ”ว่า ภาพรวมของธุรกิจการจัดคอนเสิร์ต โชว์บิซคึกคักขึ้นต่อเนื่อง โดยต้นปีที่ผ่านมาในแง่ของจำนวนงานและผู้จัดหน้าใหม่ก็เพิ่มมากขึ้น ปัจจัยหลักมาจากธุรกิจเพลงที่ถูกดิจิทัลดิสรัปชั่น(Digital Disruption) ทำให้สัดส่วนการขายซีดี ดีวีดี ซึ่งเป็นรายได้หลักของธุรกิจนี้หายไป ขณะที่การหารายได้จากช่องทางดิจิทัล เช่น ยูทูบ JOOX เป็นต้น ก็ยังไม่ได้สูง ดังนั้นการจัดโชว์บิซ คอนเสิร์ต จึงกลายเป็นช่องทางเดียวที่ยังสามารถสร้างรายได้ให้แก่ธุรกิจเพลงและศิลปินได้อยู่ในขณะนี้ ทำให้จำนวนงานจึงเพิ่มขึ้น

“ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมารายได้จากธุรกิจเพลงตกลง เพราะยอดขายดีวีดี ซีดี ที่เป็นช่องทางหลักหายไป ส่วนรายได้จากยอดดาว์นโหลดก็ไม่พอ ทำให้ค่ายเพลงและศิลปินหันมาจัดคอนเสิร์ตมากขึ้น เพราะถือเป็นช่องทางที่ยังสามารถสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำได้อยู่ และทำให้มีผู้จัดรายใหม่กระโดดเข้ามาในธุรกิจนี้มากขึ้น ทั้งจัดคอนเสิร์ตต่างประเทศและคอนเสิร์ตไทย ทำให้โดยรวมแล้วธุรกิจนี้คึกคักขึ้น”

ขณะเดียวกันแม้ธุรกิจคอนเสิร์ตโดยรวมจะโตขึ้น แต่ นายรักษิต กล่าวว่า เรื่องของพื้นที่การจัดงานยังเป็นข้อจำกัดของธุรกิจนี้ เพราะพื้นที่ที่สามารถรองรับการจัดคอนเสิร์ต หรือ อีเวนต์ใหญ่ ๆ ยังมีไม่มาก เนื่องจาการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ต้องพิจารณาถึงมาตรฐาน คุณภาพเสียง ความปลอดภัย ซึ่งพื้นที่ที่สามารถจุคนได้จำนวนมากก็มีน้อย โดยหลัก ๆ ก็มีแค่ “อารีน่า เมืองทองธานี” ที่สามารถจุได้ระดับ 10,000 คน ซึ่งตอนนี้พื้นที่ดังกล่าวก็ถูกบริษัทอื่น ๆ มาใช้พื้นที่สำหรับการจัดประชุม การจัดสัมมนาด้วยเช่นกัน ทำให้พื้นที่สำหรับผู้จัดคอนเสิร์ตก็ลดลงไปอีกและไม่สอดรับกับธุรกิจที่ขยายตัวขึ้นในส่วนทิศทางธุรกิจหลัก ๆ ของ บีอีซี-เทโรฯ ก็ยังเดินหน้าจัดอีเวนต์ คอนเสิร์ตที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้ชม โดยครึ่งปีแรกที่ผ่านมาก็จัดไปแล้วหลายโชว์ เช่น ดิสนีย์ ออน ไอซ์ (Disney On Ice) นินจา เมซ เดอะ บิ๊ก แอดเวนเจอร์ เป็นต้น ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีจากผู้ชม

“บีอีซีเองก็มีคอนเสิร์ตไทยเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็มีโชว์ที่หลากหลายขึ้น โดยเฉพาะโชว์ที่เจาะกลุ่มครอบครัว เพราะถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อที่ดี โดยครึ่งปีหลังนี้จะ “บริคไลฟ์ บิวท์ ฟอร์ เลโก้ แฟน” มี กายกรรม กวางเจา ตอน เดชคัมภีร์เทวดา ส่วนคอนเสิร์ตต่างประเทศก็ยังมีเข้ามาต่อเนื่องตามเวิล์ดทัวร์ของแต่ละศิลปิน”

สำหรับครึ่งปีหลังนี้ คาดว่าจะมีงานอีกไม่ต่ำกว่า 9 งาน เช่น เซลีน ดิออน ไลฟ์ 2018 อิน แบงค็อก (CELINE DION LIVE 2018 IN BANGKOK) ไมค์ ชิโนดะ ออฟ ลินคิน พาร์ค โพสท์ ทรามาติก ทัวร์ (MIKE SHINODA OF LINKIN PARK POST TRAUMATIC TOUR) “แซม สมิธ : เดอะ ธริล ออฟ อิท ออล ทัวร์” (SAM SMITH : The Thrill Of It All Tour) เป็นต้น

และมีคอนเสิร์ตไทยที่ได้เปิดขายบัตรไปแล้ว 2 คอนเสิร์ต คือ สครับ 18+ โตแล้วทำอะไรก็ได้ และ B5 NOW 15 รวมถึงยังมีการแสดงกายกรรมกวางเจา ที่จะเข้ามาเสริมซึ่งจะเริ่มแสดงในเดือนตุลาคมนี้ด้วย

“ที่ผ่านมาภาพจำของบีอีซี คือ ผู้จัดคอนเสิร์ตต่างประเทศ แต่ช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็มีโชว์ที่หลากหลายขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มแฟมิลี่อีเวนต์ ทำให้ฐานผู้ชมของบริษัทกว้างขึ้น นอกจากนี้เตรียมทำคอนเทนต์ใหม่ ๆ เข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งเตรียมไว้หมดแล้วเพียงการเลือกอีเวนต์เข้ามาก็ต้องรอให้ตลาดและผู้ชมไทยพร้อมด้วย”

นายรักษิต ย้ำว่า บริษัทพยายามบาลานซ์จำนวนโชว์ให้หลากกลาย เจาะคนดูในหลาย ๆ กลุ่ม ทั้งวัยรุ่น วัยทำงานและครอบครัว ที่ผ่านมาก็ทดลองนำโชว์ใหม่ ๆ เข้ามา เช่น บาร์บี ไลฟ์ ไททาทิค ดิสนีย์ ออน ไอซ์ เป็นต้น ซึ่งมีทั้งโชว์ที่มีผลตอบรับที่ดีและไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งโดยรวมแล้วทำให้รู้ว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่คุณภาพของโชว์ เพราะบริษัทได้คัดเลือกโชว์ที่ดี

พร้อมนำเสนอในคุณภาพแสง สี เสียง ที่ได้มาตรฐาน เพียงแต่ว่าตลาดหรือคนดูยังไม่พร้อมกับโชว์ที่นำเข้ามา ซึ่งบริษัทก็มีสต๊อกโชว์จำนวนมากที่พร้อมจะนำเข้ามา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องเลือกให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้ชมไทยด้วย