คนจีนแห่ทำ “เด็กหลอดแก้ว” โรงพยาบาลเฮ-คิวยาวข้ามปี

คนจีนอยากมีลูกเพิ่ม แห่บินเข้าไทยทำเด็กหลอดแก้วเพียบ รพ.-คลินิกรับทรัพย์กันถ้วนหน้า เผยคลินิกเบอร์ 1-2 คิวแน่นรอยาวเหยียด “เอกชัย-ปิยะเวท” ลูกค้าทะลัก ส่วน “เวิลด์เมดิคอล” ทุ่ม 30 ล้าน เปิดศูนย์พร้อมฝากไข่รองรับตลาดในอนาคต

ที่ผ่านมาแม้ว่าโรงพยาบาลหลาย ๆ แห่งจะเปิดให้บริการ “เด็กหลอดแก้ว” มาระยะหนึ่งแล้ว แต่ตลาดก็ไม่ได้หวือหวามากนัก ขณะที่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผลพวงของทางการจีนที่ต้องการให้คู่แต่งงานสามารถมีบุตรได้มากกว่า 1 คนส่งผลให้ธุรกิจนี้ในไทยมีการเติบโตมากขึ้น และจากดีมานด์ของชาวจีนที่มีเป็นจำนวนมหาศาล บวกกับกำลังซื้อที่อยู่ในเกณฑ์สูง กลายเป็นปัจจัยที่จะผลักดันให้ตลาดนี้เติบโตขึ้นอีกมาก

ดีมานด์มหาศาล

แหล่งข่าวระดับสูงจากโรงพยาบาลเอกชนรายใหญ่เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากการศึกษาพบว่าปัจจุบันมีประชากร หรือคู่แต่งงานชาวจีน ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านคู่ ที่ต้องการมีลูกคนที่ 2 ซึ่งที่ผ่านมาแม้ว่าคนจีนจำนวนหนึ่งจะทำเด็กหลอดแก้วในจีน แต่เนื่องจากความเข้มงวดของทางการจีน รวมถึงบริการด้านนี้ที่ไม่เพียงพอกับความต้องการและต้องรอคิวนาน จึงทำให้ผู้ที่ต้องการจะมีบุตรเพิ่มจำนวนหนึ่งบินไปทำเด็กหลอดแก้วในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน ฯลฯ

สำหรับในไทย จากการเก็บข้อมูลพบว่า มีกลุ่มคนจีนที่ทยอยเข้ามาทำเด็กหลอดแก้วในโรงพยาบาลเอกชน และศูนย์หรือคลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก (IVF & In Vitro Fertilisation) มากขึ้น ตั้งแต่ช่วงปีที่ผ่านมาและเพิ่มจำนวนขึ้นต่อเนื่อง โดยโรงพยาบาลหลายแห่งก็หันมาให้ความสำคัญกับตลาดนี้มากขึ้น เนื่องจากกระบวนการหรือขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้วจะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 30-45 วัน คนไข้จึงต้องมาอยู่นานเป็นเดือนหรือมากกว่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้วิธีการเข้ามาเช่าคอนโดฯเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ อยู่ใกล้ ๆ โรงพยาบาล โดยเฉพาะย่านเพลินจิต สุขุมวิท พระราม 9

“ตอนนี้คลินิกไอวีเอฟรายใหญ่มีคนจีนเข้ามาใช้บริการ 70-80% และคนไข้ต้องรอคิวนาน บางคลินิกต้องรอนานข้ามปี ซึ่งคาดว่าปีนี้ตัวเลขการทำเด็กหลอดแก้วน่าจะเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาค่อนข้างมาก”

“เอกชัย-ปิยะเวท” คนไข้ทะลัก

นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอกชัย เปิดเผย”ประชาชาติธุรกิจ” ว่า โรงพยาบาลเพิ่งเปิดศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ตอนนี้ก็มีลูกค้าชาวจีนเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นทุกเดือน โดยมีเอเย่นต์ในประเทศจีนเป็นคนทำตลาดแล้วส่งคนไข้เข้ามาให้ และคาดว่าปีนี้จะมีลูกค้าชาวจีนเข้ามาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 120 ราย เหตุผลที่คนจีนนิยมเข้ามาทำเด็กหลอดแก้วในเมืองไทย หลัก ๆ มาจากการที่ไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของชาวจีนมาก ไทย-จีนมีวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกัน ในแง่ของราคาที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับหลาย ๆ ประเทศ คือ เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 4-5 แสนบาท ที่สำคัญคืออัตราการตั้งครรภ์ ของเมืองไทยมีค่าเฉลี่ยสูงถึง 40% รวมทั้งโรงพยาบาลของไทยได้รับการยอมรับในเรื่องมาตรฐานการรักษาจากนานาชาติ

ขณะที่นายแพทย์วิฑิต อรรถเวชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลปิยะเวท จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตอนนี้ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากของโรงพยาบาลทุกแห่ง มีคนจีนเข้ามาทำเด็กหลอดแก้วเป็นจำนวนมาก สำหรับปิยะเวทเองก็ได้รับอานิสงส์นี้ด้วย และมีชาวจีนเข้ามาทำเด็กหลอดแก้วเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังมีศักยภาพที่จะรองรับความต้องการมีบุตรของชาวจีนได้อีกมาก เนื่องจากการทำเด็กหลอดแก้วนั้นเป็นเรื่องของโอพีดีเคส (ผู้ป่วยนอก) ไม่ต้องแอดมิตในโรงพยาบาลดังนั้นจึงสามารถที่จะรองรับได้เรื่อย ๆ

เวิลด์เมดิคอลรับฝากไข่

นายแพทย์เฉลิม หาญพานิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ และเวิลด์เมดิคอล เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่าปลายปีนี้ เวิลด์เมดิคอลจะเปิดให้บริการคลินิกผู้มีบุตรยาก เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าชาวจีนที่ต้องการจะมีบุตรเพิ่มตามนโยบายการมีลูกคนที่ 2 ของทางการจีน นอกจากชาวจีนแล้ว ยังมีกลุ่มลูกค้าชาวเมียนมา กัมพูชา ลาว เวียดนาม ก็เป็นเป้าหมายที่สำคัญ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าไปทำตลาดซีแอลเอ็มวีมาเป็นระยะ ๆ และตอนนี้ รพ.เอกชนหลาย ๆ แห่งก็ให้ความสำคัญกับเรื่องไอวีเอฟมากขึ้น

“คลินิกไอวีเอฟนี้จะลงทุนประมาณ 30 ล้านบาท มีบริการครบวงจร และนอกจากเด็กหลอดแก้วแล้ว ศูนย์นี้ยังได้เซตขึ้นมาเพื่อรองรับการเป็นธนาคารไข่ ซึ่งจะเป็นตลาดที่ใหญ่ในอนาคต เนื่องจากปัจจุบันไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมของผู้หญิงยุคใหม่จะไม่นิยมแต่งงานเร็ว และรอให้มีความพร้อม มีเงินทองมาก ๆ ก่อน ระหว่างนี้ก็สามารถนำไข่มาฝากไว้ก่อนได้ พอแต่งงานก็เอาไข่มาผสม เพราะไข่ที่เก็บตอนเป็นหนุ่มสาวจะแข็งแรงและสมบูรณ์กว่า” นายแพทย์เฉลิมกล่าว

ทุนจีนโดดเปิดคลินิกรับตลาดโต

แหล่งข่าวจากโรงพยาบาลเอกชนอีกรายเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตอนนี้ศูนย์ไอวีเอฟทุกแห่งล้วนได้รับอานิสงส์จากนโยบายของทางการจีนที่กระตุ้นให้ประชาชนมีลูกได้มากกว่า 1 คน นอกจากคนจีนที่ทยอยเดินทางเข้ามาทำเด็กหลอดแก้วในไทยแล้ว ล่าสุดก็มีกลุ่มทุนจีนเข้ามาเปิดศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากแล้ว และมีบางรายที่เข้ามาจับมือกับคนไทยจากการตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาพบว่า มีกลุ่มทุนจากประเทศจีนเข้ามาจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท จูโน เมดิคอล โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท เพื่อให้คำปรึกษา ให้บริการตรวจทางสูตินรีเวช โดยเฉพาะการรักษาผู้มีบุตรยาก ตั้งอยู่เลขที่ 68/17 ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร มีผู้ถือหุ้นประกอบด้วย กว่างโจว จูโน เมดิคอล สัญชาติจีน 97% น.ส.ฟาง เฉียน สัญชาติจีน 1% นายยี่กัง หยาง สัญชาติจีน 1%และนายหงจุน โจว สัญชาติจีน 1%

จากรายงานของสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ระบุว่า จากข้อมูล ณ วันที่ 25 เมษายน 2561 มีโรงพยาบาลและสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการให้บริการด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ทั้งสิ้น 76 แห่ง แบ่งเป็นโรงพยาบาล 40 แห่งและคลินิกอีก 36 แห่ง โดยตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ 50 แห่ง และต่างจังหวัด 26 แห่ง