JSL ปลดล็อก…เพื่อเดินต่อ ลุยรับจ้างผลิต โกยรายได้คืน

กลายเป็นประเด็นร้อนทะลุจอทีวีส่งท้ายปี เมื่อช่อง 7 สั่งปลด 2 รายการแม่เหล็ก กิ๊กดู๋สงครามเพลง เงาเสียง และกิ๊กดู๋ ซุปตาร์เงินล้าน ของผู้ผลิตรายใหญ่ ฝีมือเก๋าอย่าง เจเอสแอล แบบฟ้าผ่า

“จำนรรค์ ศิริตัน” ประธานกรรมการ บริษัท เจเอสแอล โกลบอล มีเดีย จำกัด ผู้ผลิตคอนเทนต์เกมโชว์ วาไรตี้ ละคร กล่าวว่า ปัจจุบันเม็ดเงินโฆษณาที่เป็นรายได้หลักของผู้ผลิตคอนเทนต์และช่องทีวีลดลง ขณะที่ต้นทุนสูงขึ้น ประกอบกับพฤติกรรมการรับชมทีวีก็เปลี่ยนไป และสื่อออนไลน์ก็เข้ามาแย่งความสนใจของผู้ชมไป ทำให้ผู้ผลิตบางรายตัดสินใจปิดบริษัทลง เพื่อหยุดเลือดไหลเพราะขาดทุนมาต่อเนื่อง ซึ่งเจเอสแอลก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับผู้ผลิตหลาย ๆ ราย ทำให้ต้องตัดสินใจเปลี่ยนโมเดลธุรกิจใหม่ เป็นการรับจ้างผลิต เพื่อสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทต่อ

สำหรับทิศทางธุรกิจปี 2562 จะเดินหน้าผลิตคอนเทนต์มากขึ้น โดยเปลี่ยนโมเดลธุรกิจเป็นการรับจ้างผลิต เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 จะนำรายการกิ๊กดู๋สงครามเพลงไปออกอากาศช่องพีพีทีวี ทุกวันอังคาร เวลา 20.15 น. รวมถึงเดินหน้าผลิตละคร รายการวาไรตี้เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับหลายช่อง รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ด้วย เช่น ไลน์ทีวี เป็นต้น เท่ากับว่าปีหน้า พร้อมบุกทุกแพลตฟอร์ม โดยไม่จำกัดอยู่กับช่องใดช่องเดียวเหมือนที่ผ่านมา

“จำนรรค์” กล่าวเพิ่มว่า ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดี เม็ดเงินโฆษณาน้อย เรตติ้งก็ลดลง ทำให้ช่องเองก็หาเม็ดเงินโฆษณายาก ส่วนผู้ผลิตก็ต้องปรับโมเดลธุรกิจเพื่อสร้างความอยู่รอดเช่นกัน ซึ่งโมเดลการรับจ้างก็เป็นอีกโมเดลในการสร้างการเติบโตให้แก่ผู้ผลิตในตอนนี้ในส่วนประเด็นการปลด 2 รายการแบบฟ้าผ่านั้น “จำนรรค์” ชี้แจงว่า บริษัทได้ทำหนังสือชี้แจงล่วงหน้าแก่ช่อง 7 ไปเมื่อวันที่ 20 พ.ย. 61 ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไข และบริษัทจะออกอากาศ 2 รายการนี้ต่อจนถึงสิ้นเดือนธันวาคมนี้ แต่ทางสถานีได้แจ้งกลับมาว่า ให้ยุติการออกอากาศในสิ้นเดือนพฤศจิกายนทันที

“ช่อง 7 ได้แจ้งล่วงหน้า 2 วันว่า ให้หยุดออกอากาศทั้ง 2 รายการ ซึ่งการบอกเลิกสัญญานี้ก็เป็นไปตามเงื่อนไขที่ทำไว้ แต่บริษัทได้บันทึกเทปล่วงหน้าไปแล้ว ทำให้เกิดความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท ส่วนอนาคตจะร่วมงานกับช่อง 7 ได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่ว่าช่องจะร่วมงานกับเราหรือไม่ เพราะความสัมพันธ์ของเรากับช่องก็ถือว่าเป็นคู่ค้าที่ทำงานร่วมกันมานาน”

ขณะเดียวกัน “จำนรรค์” ก็ยอมรับว่า ด้วยโมเดลธุรกิจที่บริษัททำไว้กับช่อง 7 คือ การเช่าเวลา และหารายได้เอง กลายเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องแก้ เพราะเม็ดเงินโฆษณาไม่ดี ทำให้รายได้ของบริษัทก็เริ่มลดลงมาตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งสวนทางกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาบริษัทและผู้ผลิตรายการให้ช่อง 7 เช่น กันตนา ทริปเปิ้ลทู เซ้นส์ เป็นต้น ก็ได้พยายามเจรจากับช่องเพื่อขอปรับลดค่าเช่าเวลามาเป็นระยะ ๆ พร้อมทั้งเรียกร้องไม่ให้ช่องขายโฆษณาแข่งกับผู้ผลิตด้วย เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น

“ที่ผ่านมาช่องรับรู้มาตลอดว่า ผู้ผลิตกำลังมีปัญหา เพราะเม็ดเงินโฆษณาลดลงเรื่อย ๆ ซึ่งเราเห็นสัญญาณมาตั้งแต่ปี”59 จนเดือนตุลาคมปี”60 บริษัทตัดสินใจคืนเวลาช่วง 22.00 น. วันจันทร์ ที่เคยออกอากาศรายการจันทร์พันดาว ให้แก่ช่อง 7 พร้อมขอลดค่าเช่าลง 50% แต่ช่องก็ลดให้ส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งไม่สัมพันธ์กับรายได้ เพราะค่าเช่าเวลาคิดเป็นต้นทุนหลัก หรือประมาณ 50% ของต้นทุนทั้งหมด”

เมื่อผู้จัดรายใหญ่อย่าง เจเอสแอล ยังต้องตกอยู่ในสถานการณ์ สู้หลังชนฝา งานนี้ก็คงสร้างแรงกระเพื่อมให้แก่ผู้ผลิตรายเล็ก ๆ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับทีวีดิจิทัลไม่น้อย ว่าจะอยู่รอดอย่างไร ท่ามกลางเม็ดเงินโฆษณาที่หดหาย

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat
.
หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!