“อีเวนต์นอกห้าง” สะพรั่ง กระตุกมู้ด-ยอดขาย

คอลัมน์ จับกระแสตลาด

ไม่ใช่แค่การเพิ่มดีกรีจัดโปรโมชั่นร้อนแรงภายในห้างให้ยั่วใจขาช็อปเท่านั้น แต่ปีนี้บรรดาค้าปลีกหันมาจัดอีเวนต์นอกห้างกันมากขึ้นเพื่อเพิ่มยอดขายฝ่ากำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก อย่างเดือนนี้ที่เพิ่งจบไปก็มีงานโรบินสัน ช็อปมันส์ สนั่นเมือง ระหว่าง 10-13 ส.ค.ที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ เดือนถัดไปจะมีงานมหกรรมลดทะลุพิกัดของกลุ่มเดอะมอลล์นำสินค้ากว่าล้านรายการลดราคาระหว่าง 27 ก.ย.-1 ต.ค.ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี

รายล่าสุดที่กระโดดมาชิมลางในสมรภูมินี้คือ “เทสโก้ โลตัส” ที่เพิ่งประกาศเตรียมจัดงานเอ็กซ์โปเป็นครั้งแรกบนพื้นที่กว่า 20,000 ตร.ม ผนึกพันธมิตรและผู้ผลิตเข้าร่วมกว่า 500 บูท คาดหวังจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 1.5 แสนรายตลอด 4 วันของการจัดงานที่จะมีขึ้นระหว่าง 9-12 พ.ย.นี้ที่เมืองทองธานี ซึ่งหากได้รับการตอบรับดีก็มีแผนจะพิจารณาจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“ไพบูลย์ กนกวัฒนาวรรณ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ฉายภาพ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ค้าปลีกหันมาจัดอีเวนต์นอกห้างกันมากขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะเศรษฐกิจไม่ดีจึงมองหาโอกาสในการเพิ่มยอดขาย อย่างไรก็ตามการจัดงานแสดงสินค้ามีต้นทุนค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง อาทิ ค่าเช่าสถานที่ ค่าการตลาด ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของแต่ละค้าปลีกในการดึงผู้เข้าชมงาน

สำหรับเดอะมอลล์เริ่มจัดงานมหกรรมลดทะลุพิกัดเมื่อ 3-4 ปีก่อนและจัดติดต่อกันทุกปี ปีละ 3-4 ครั้ง พร้อมสเกลงานขนาดใหญ่ด้วยการรวบรวมแบรนด์สินค้าชั้นนำกว่า 1,800 บูท บนพื้นที่ 4-5 หมื่นตร.ม. สร้างรายได้เฉลี่ย 140-150 ล้านบาท โดยครั้งต่อไปจะมีขึ้นปลายเดือนกันยายนนี้ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับดีและมีบรรยากาศจับจ่ายคึกคัก

“ค้าปลีกทำเลใจกลางเมืองยังดี โดยเฉพาะย่านท่องเที่ยวที่มีทัวริสต์เยอะ แต่รอบนอกอาจจะไม่ค่อยดีเพราะกำลังซื้อคนไทยยังไม่ดี แต่เวลาจัดงานได้รับการตอบรับดี เพราะสินค้าราคาถูกกระตุ้นตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น”

ด้าน “สมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย” ประธานกรรมการฝ่ายการพาณิชย์เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า เทสโก้มุ่งช่วยลูกค้าประหยัดค่าครองชีพจำหน่ายสินค้าราคาย่อมเยาทั้ง 1,900 สาขาและออนไลน์ ล่าสุดจับมือพันธมิตรคู่ค้าทางธุรกิจ ทั้งเกษตรกร, เอสเอ็มอี, โอท็อป และ ผู้ผลิตสินค้า อาทิ เครือเจริญโภคภัณฑ์, ดูเม็กซ์, เนสท์เล่, เป๊ปซี่-โคล่า, ซีโน-แปซิฟิคเทรดดิ้ง, ไทย เบฟเวอเรจ, ไทยน้ำทิพย์ และยูนิลีเวอร์ รวมทั้งสินค้านำเข้าภายใต้แบรนด์เทสโก้และฟายเนสท์ โดยกลุ่มแฟชั่นลดสูงสุด 80% จัดงานเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์โป ปี”60 เป็นครั้งแรก ถือเป็นอีเวนต์เฉพาะของไทย ซึ่งเทสโก้ในประเทศอื่น ๆ ยังไม่มี

“คนไทยชอบงานมหกรรมสินค้า จึงเป็นการนำเสนอให้ลูกค้าได้เห็นสินค้าของเรามากขึ้น จัดงาน 4 วันอาจจะไม่ได้ช่วยเรื่องยอดขายมาก เมื่อเทียบจำนวนสาขาที่มีกว่า 2,000 สาขา”

ผู้บริหารเทสโก้มองว่าธุรกิจครึ่งปีแรกทรง ๆ ไม่ได้หวือหวา แนวโน้มครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้นตามปกติที่เป็นช่วงไฮซีซั่นที่มีการจับจ่ายมากขึ้น โดยเฉพาะปลายปี การจัดอีเวนต์จึงกระตุ้นการรับรู้ บวกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ คาดหวังว่าเงินสะพัดในระบบจะทำให้เกิดการใช้จ่ายมากขึ้น

“เทสโก้มีอีเวนต์ใหญ่ทุกเดือนเป็นรายการส่งเสริมการขายกระตุ้นการใช้จ่าย ผู้บริโภคยังมีความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเมื่อออกจากบ้าน รู้ว่าเข้ามาในห้างจะซื้อมากกว่าที่วางแผนไว้ก็จะหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านหรือลดความถี่ในการเข้าห้างและยอดซื้อต่อบิลไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก ไม่ว่ากลุ่มสินค้าไหนก็ทรงตัวเหมือนกัน ไม่ได้มีอะไรหวือหวา เทสโก้จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นหลัก ไม่ได้มีสินค้าไฮแฟชั่นมาก กลุ่มนี้จึงไม่ได้โตหวือหวาอยู่แล้ว”

สำหรับค่ายอื่น ๆ “วรอนงค์ อัจฉรารุจิ” ผู้จัดการอาวุโสแผนกการตลาด บริษัท สหลอว์สัน จำกัด ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อลอว์สัน 108 เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ลอว์สัน 108 จัดอีเวนต์นอกร้านปีละ 2 ครั้งโดยไปออกบูทร่วมกับพันธมิตร อาทิ งานไทยแลนด์คอมมิค คอน ล่าสุดกำลังจะร่วมออกบูทในงานเจแปน เอ็กซ์โปเป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 1-3 ก.ย.นี้ที่พารากอน ฮอลล์ โดยเลือกอีเวนต์ที่มีภาพลักษณ์ญี่ปุ่น เพื่อตอกย้ำความเป็นร้านสะดวกซื้อจากญี่ปุ่น โดยคาดหวังยอดขายและสร้างการรับรู้แบรนด์ ซึ่งในครั้งนี้ยังเตรียมคูปองส่วนลด 3,000 ใบเพื่อนำไปแจกให้ลูกค้านำกลับมาใช้ที่ร้าน

“ปีหน้าจะจับมือกับพันธมิตรรายใหม่ ๆ มากขึ้น ยอดขายในงานค่อนข้างดีเท่ากับหรือดีกว่าบางสาขา แต่ทั้งนี้ลอว์สันมีร้านค้าหลายรูปแบบ โดยสินค้าที่นำไปวางขายในอีเวนต์จะเป็นสินค้าไฮไลต์ อย่างครั้งก่อนจัดที่พารากอนได้นำเบนโตะข้าวหน้าปลาไหลราคา 350 บาทไปจำหน่าย งานที่กำลังจะมีเร็ว ๆ นี้เน้นซอฟต์เสิร์ฟมันม่วง”

รายงานข่าวจากโรบินสันกล่าวถึง ยอดขายในอีเวนต์ที่เพิ่งจบไปว่าเติบโตกว่าเป้า โดยปกติมีการจัดงานทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยปีนี้ได้มีการเพิ่มจำนวนงานมากขึ้น เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนในการปั๊มยอดขายจึงน่าจะได้เห็นแต่ละค่ายพลิกกลยุทธ์งัดไม้เด็ดออกมาชิงกำลังซื้อกันเต็มที่