“ทีวีบูรพา” โฟกัส 3 ธุรกิจหลัก ลุยผลิตคอนเทนต์ป้อนต่างประเทศเร่งโต

ทีวีบูรพาเปิดเกมรุก โฟกัส 3 ธุรกิจหลัก”บริหารคอนเทนต์-ออนไลน์-ธุรกิจการสื่อสาร” พร้อมผลิตรายการแม่เหล็ก “คนค้นฅน-กบนอกกะลา” ลงออนไลน์ หวังสิ้นปีรายได้พุ่ง 40% จากปีก่อน

นายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ประธาน บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด ผู้ผลิตคอนเทนต์สารคดี กล่าวถึงทิศทางธุรกิจปีนี้ว่า จะเดินหน้าด้วย 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ การบริหารคอนเทนต์ ออนไลน์ และการสื่อสารแบบบูรณาการ 360 องศา ภายใต้แนวคิด “content solutions inspiring the world”

สอดรับกับนายชนวัฒน์ วาจานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้ได้ปรับโมเดลธุรกิจให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ด้วยการเปลี่ยนลูกค้าเป็นพาร์ตเนอร์ หรือหุ้นส่วนทางธุรกิจ เน้นการทำงานร่วมกันมากขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตไปพร้อม ๆ กัน

เริ่มที่ธุรกิจแรก การบริหารคอนเทนต์ ด้วยการปรับทิศทางใหม่ จากธุรกิจมีเดีย สู่การเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ (content provider) เดินหน้ารับผลิตคอนเทนต์ต่าง ๆ มากขึ้น ด้วยเอกลักษณ์การเล่าเรื่องของทีวีบูรพา โดยเน้นการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงการผลิตคอนเทนต์ต่างประเทศ เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายในการนำคอนเทนต์ไทยสู่ตลาดโลก ซึ่งที่ผ่านมาก็มีคอนเทนต์ของบริษัทที่ออกอากาศในช่องต่างประเทศ เช่น Tasty journey วัฒนธรรม ยั่วน้ำลาย ออกอากาศทางช่อง afc, the snake master ออกอากาศทาง discovery asia, wet land ออกอากาศที่ประเทศบรูไน เป็นต้น ส่วนปีนี้ได้ร่วมมือกับ iconfilm จากประเทศอังกฤษ เพื่อร่วมผลิต (coproduction) ให้กับ Nat geo wild ทำ series wild Thailand ออกอากาศที่อเมริกา ยุโรป และนิวซีแลนด์

นายชนวัฒน์กล่าวว่า ส่วนคอนเทนต์แม่เหล็กอย่าง “คนค้นฅน” นอกจากออกอากาศช่อง 30 เอ็มคอทแล้ว ก็เพิ่มคอนเทนต์สำหรับออกอากาศผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เช่นเดียวกับอีก 2 รายการ คือ “กบนอกกะลา” ที่เปลี่ยนชื่อเป็น The KOB Knowledge Out of Box และคนมันส์พันธุ์อาสา คนบันดาลไฟ ก็ออกอากาศทางยูทูบแชนเนล “ทีวีบูรพา” รวมถึงมีรายการใหม่ “ภารกิจพิชิตตะวัน” ออกอากาศช่องไทยรัฐทีวี ทุกวันอาทิตย์ เวลา 13.30-14.30 น.

ส่วนธุรกิจออนไลน์ ที่ผ่านมาก็มีการปรับรูปแบบธุรกิจมาต่อเนื่อง ปัจจุบันมีฐานสมาชิกในโซเซียลมีเดียกว่า 1 ล้านราย และมียอดติดตาม (subcribe) บนยูทูบ (youtube) มากกว่า 1 ล้านราย โดยนำรายการแม่เหล็กของบริษัทมาออกอากาศผ่านช่องทางออนไลน์ด้วย นอกจากนี้ยังมีแผนจะเปิดแพลตฟอร์มคอนเทนต์ออนไลน์ใหม่ในเดือนมีนาคมนี้ด้วย รวมถึงได้ขยายธุรกิจสู่ออนไลน์เอเยนซี่ ให้บริการครบวงจรตั้งแต่ดูแลกลยุทธ์ สร้างแบรนด์ สร้างการรับรู้ และการเล่าเรื่อง storytelling ของหน่วยงาน ภาครัฐ และเอกชน ที่มีการพูดถึง เช่น เพจ Bangkok Stories เรื่องเล่าดี ๆ ของคนกรุงเทพมหานคร เป็นต้น

สุดท้าย คือ ธุรกิจการสื่อสารแบบบูรณาการ หรือการผันตัวเองเป็นครีเอทีฟเอเยนซี่ ซึ่งปีนี้เป็นปี 3 ที่เปิดให้บริการนี้มาและได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า (สินค้า) ขณะที่ปีนี้ก็ยังตอกย้ำการทำงานรูปแบบเดิม คือ content agency อย่างไรก็ตามคาดว่าด้วยแนวทางที่วางไว้จะทำให้บริษัทเติบโต 40% จากปีก่อน