“เอสแอนด์พี” รุกร้านไซซ์เล็ก-เมนูเฮลตี้เจาะคนรักสุขภาพ

“เอส แอนด์ พี” ไม่หวั่น ! ศก.ชะลอตัว-ต้นทุนขยับ เดินหน้าขยายสาขา-เพิ่มช่องทางขาย ทดลองร้านไซซ์เล็กเกาะรถไฟฟ้า แย้มไต๋เตรียมเพิ่มแบรนด์ใหม่ รับตลาดแข่งขันสูง-พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ส่งเมนูใหม่ลงตลาดทุุกเดือน ล่าสุดผนึก “สามพรานโมเดล” ส่งซอสออร์แกนิกเจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ

นายกำธร ศิลาอ่อน กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการผลิตและการเงิน บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปีนี้ว่า บริษัทยังมีแผนเพิ่มช่องทางขาย-ขยายสาขา ร้านเอสแอนด์พี ทั้งในรูปแบบร้านอาหาร และเบเกอรี่อย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นการขยายสาขาเข้าไปในแหล่งชุมชนทั่วไป เช่น ซูเปอร์มาเก็ต ห้างสรรพสินค้า ส่วนโมเดลรูปแบบใหม่ “S&P Food and Bakery” จะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าในอาคารสำนักงาน สถานศึกษา โรงพยาบาล และสถานีบริการน้ำมัน ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้อย่างครอบคลุม จากปัจจุบันเอสแอนด์พีมีกว่า 500 สาขา

ขณะเดียวกันก็จะเน้นการเพิ่มโอกาสขายผ่านช่องทางดีลิเวอรี่เพื่อสอดรับกับพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่มีข้อจำกัดเรื่องเวลามากขึ้น จึงนำเมนูเบเกอรี่และอาหารที่หลากหลาย ชูจุดขายคือ สะดวก จัดส่งเร็ว รสชาติไม่เปลี่ยนเหมือนทานอยู่ร้าน ให้บริการจัดส่งผ่านแพลตฟอร์มแอปพลิเคชั่นของตัวเอง “S&P Delivery” หรือ โทร.ผ่านเบอร์ “1344” ซึ่งมีทีมงานจัดส่งกว่า 200 คน และยังจับมือกับพันธมิตร อาทิ ฟู้ดแพนด้า ไลน์แมน และแกร็บฟู้ดจัดส่งสินค้า คาดสิ้นปีนี้จะมีรายได้มาจากช่องทางดีลิเวอรี่เพิ่มขึ้น

“ปีที่ผ่านมาบริษัทได้ทดลองเปิดร้านโมเดลไซซ์เล็กที่มีพื้นที่ขนาดประมาณ 20 ตร.ม. “เอส แอนด์ พี โกโกบ็อกซ์” บริเวณสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ (พญาไท) และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) จตุจักร ขายสินค้า 60-70 รายการ อาทิ แซนด์วิช เครื่องดื่ม อาหารพร้อมทานสำหรับมื้อเช้าและมื้อเที่ยง เพื่อรองรับผู้บริโภคกลุ่มคนเดินทางที่เร่งรีบต้องการความรวดเร็ว ถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี” นายกำธรกล่าวและระบุว่า

นอกจากนี้ บริษัทจะให้ความสำคัญในการขยายธุรกิจร้านอาหารแบรนด์ใหม่มากขึ้น เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับผู้บริโภค รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เน้นราคาเข้าถึงง่าย โดยมีแผนจะลอนช์เมนูใหม่ทุก ๆ เดือน โดยจะโฟกัสไปที่เมนูเบเกอรี่และอาหารเพื่อสุขภาพ เช่น ข้าวไรซ์เบอรี่ออร์แกนิก เยลลี่สูตรน้ำตาลน้อย เป็นต้น ล่าสุดเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้ร่วมกับสามพรานโมเดล ที่เป็นกลุ่มเครือข่ายธุรกิจเกษตรอินทรีย์เกื้อกูลสังคม ในอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ทำซอสออร์แกนิกเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่ใส่ใจสุขภาพ และเป็นการขยายฐานลูกค้าออกไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ

สำหรับในส่วนของธุรกิจรับจ้างผลิต หรือโออีเอ็ม (OEM) ปัจจุบันมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยจะผลิตตามความต้องการของพาร์ตเนอร์ทั้งในและต่างประเทศ หลัก ๆ จะเป็นผลิตภัณฑ์ข้าวเหนียว ไส้กรอก คุกกี้ ขนมไหว้พระจันทร์ ตลอดจนชุดอาหารและขนมเบเกอรี่ต่าง ๆ ควบคู่กับการผลิตสแน็กบอกซ์เพื่อให้บริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ เพื่อให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยปัจจุบันเอสแอนด์พีมีร้านอาหารในเครือประกอบด้วย เอสแอนด์พี ภัทรา ร้านพาทิโอ ร้านวะนิลา ร้านอูเมโนฮานะ ร้านไมเซน ร้านสุดา และร้านบางกอกแจม

อย่างไรก็ตามในปีที่ผ่านมา บริษัทมีผลประกอบการลดลง 3.9% หรือมีรายได้จากการขายและการให้บริการ 7,312 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากร้านอาหารและเบเกอรี่ภายในประเทศ ถือเป็นปีแรกที่ยอดขายตก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังชะลอตัว ขณะที่เรื่องต้นทุนการขายและการให้บริการ รวมถึงวัตถุดิบมีทิศทางที่เพิ่มขึ้น และยังคงมีการขยายสาขาใหม่เข้าไปในทำเลที่มีศักยภาพเพื่อเพิ่มยอดขาย จำนวน 24 สาขา และยังมีส่วนของการรับจ้างผลิตเบเกอรี่เข้ามาช่วยเพิ่มยอด

ปัจจุบันตลาดร้านอาหารและร้านเบเกอรี่เป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง โดยมีผู้ประกอบการทั้งรายเล็ก-รายใหญ่กระโดดเข้ามาเป็นระยะ ๆ บางรายเป็นร้านอาหารที่ไม่มีหน้าร้าน และเน้นการให้บริการแบบดีลิเวอรี่ และที่สำคัญ คือ การจัดโปรโมชั่นที่หลากหลายรูปแบบและเน้นเรื่องราคาเพื่อจูงใจลูกค้า ซึ่งปัจจุบันคาดว่ามูลค่าตลาดรวมน่าจะมีประมาณ 4.2 แสนล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโต 4-5% ต่อปี

สำหรับเอสแอนด์พีเองที่ผ่านมาก็ปรับตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากเพื่อรับมือกับการแข่งขันจากผู้ประกอบการร้านอาหาร-เบเกอรี่ในตลาดแล้ว ยังต้องเตรียมรับมือกับการขยายตัวของเทคโนโลยีและดิจิทัลดิสรัปชั่น ที่เข้ามาเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้บริโภค และต้องปรับตัวให้ทันกับพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค