โควิดทุบ “ตรุษจีน-วาเลนไทน์” ซึม

ตรุษจีน-เยาวราช

เริ่มทยอยลอนช์แคมเปญใหญ่ออกมารองรับหน้าขายสำคัญ “เทศกาลตรุษจีน-วาเลนไทน์” ที่กำลังจะมาถึง ไม่ว่าจะเป็นค่ายเซ็นทรัล, เดอะมอลล์ กรุ๊ป รวมถึงกลุ่มวันสยามและไอคอนสยาม ที่พร้อมใจทุ่มงบฯการตลาดค่ายละกว่า 100 ล้านบาทเพื่อปลุกกระแสการจับจ่ายตลอดทั้งเดือนกุมภาพันธ์ให้มีความคึกคัก

เช่นเดียวกับค่ายไฮเปอร์มาร์เก็ต ทั้งเทสโก้ โลตัสและบิ๊กซี ที่ได้มีการเปิดตัวแคมเปญเพื่อปลุกการจับจ่ายช่วงเทศกาลสำคัญนี้เช่นกัน

โดยหลัก ๆ ยังเป็นแคมเปญการลดราคาสินค้า 30-70% แคชแบ็ค 15-30% รวมไปถึงคูปองส่วนลดที่มากันในรูป “อั่งเปา” ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันบาท

อีกด้านหนึ่ง ผู้ประกอบการต่างก็ลุ้นและตั้งตารอ การประกาศปลดล็อกของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (ศบค.) ว่าจะผ่อนปรนอย่างไร

แหล่งข่าวจากวงการค้าปลีกรายใหญ่ แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า ปกติช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เทศกาลวันตรุษจีนและวาเลนไทน์ จะเป็นหน้าขายสำคัญของผู้ประกอบการค้าปลีกและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ทุกค่ายต่างจะมีกิจกรรมทางการตลาดออกมารองรับ แต่ปีนี้จากการแพร่ระบาดของโควิดที่เกิดขึ้น บวกกับปัญหาเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ไม่ดีนัก รวมถึงมู้ดจับจ่ายที่ลดลงจะทำให้บรรยากาศการจับจ่ายทั้ง 2 เทศกาลนี้ไม่คึกคักเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม การคลายล็อกขยายเวลาการเปิดให้บริการทั้งในส่วนของห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ก็อาจจะช่วยได้ระดับหนึ่ง

สอดคล้องกับแหล่งข่าวจากวงการค้าปลีก ที่กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า สิ่งที่ผู้ประกอบการเป็นห่วงในขณะนี้ก็คือ โควิดและกำลังซื้อผู้บริโภคที่ลดลงตั้งแต่การระบาดรอบแรกจนถึงรอบใหม่นี้ พฤติกรรมผู้บริโภคเลือกจับจ่ายเฉพาะสินค้าที่จำเป็นเท่านั้น

“เมื่อเศรษฐกิจไม่ดี กำลังซื้อลด การให้แต๊ะเอีย อั่งเปา ก็ลดตามไปด้วย รวมถึงมาตรการเว้นระยะห่าง ห้ามรวมกลุ่มคนจำนวนมาก จะทำให้บรรยากาศการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เงียบเหงา และการจับจ่ายจะหายไปกว่า 30%”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 มกราคม2564  ศบค.ได้ประกาศผ่อนปรนร้านอาหาร ให้สามารถจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม ให้นั่งรับประทานอาหารได้ จำกัดจำนวนคนต่อโต๊ะ (เน้นการเว้นระยะห่าง) จำกัดเวลาไม่เกิน 23.00 น. และงดดื่มสุราในร้าน (ซื้อกลับบ้านได้) รวมถึงการอนุญาตให้ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมิวนิตี้มอลล์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ เปิดบริการได้ตามเวลาปกติ ภายใต้มาตรการป้องกันโรคที่กำหนด

“ฐนิวรรณ กุลมงคล” นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การคลายล็อกดาวน์ดังกล่าวจะเป็นการช่วยผู้ประกอบการร้านอาหารได้ในวงกว้าง ทั้งที่เปิดในศูนย์การค้ารายกลาง รายเล็ก รวมไปจนถึงสตรีตฟู้ด เนื่องจากการกำหนดให้นั่งทานอาหารในร้านได้ถึง 21.00 น. ร้านไม่สามารถทำยอดขายและกำไรได้

“บุญยง ตันสกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ผู้บริหารร้านอาหารรายใหญ่ อาทิ ร้านอาหารญี่ปุ่น เซ็น, ร้านอาหารญี่ปุ่น ปิ้งย่าง อากะ, ร้านอาหารสไตล์ฟิวชั่นออน เดอะ เทเบิล, ร้านอาหารตามสั่ง เขียง ฯลฯ แสดงความเห็นว่า การปลดล็อกให้สามารถนั่งทานในร้านได้ถึง 5 ทุ่ม จะเป็นปัจจัยบวกให้กับธุรกิจร้านอาหารโดยรวม เนื่องจากรายได้ของร้านอาหารกว่า 60% มาจากช่วงมื้อเย็น และคาดว่ารายได้จากการขายหน้าร้านจะกลับมาประมาณ 40%

ที่ผ่านมาการอนุญาตให้นั่งทานได้ถึง 3 ทุ่ม งดขายแอลกอฮอล์ กระทบรายได้ร้านอาหารมาก โดยเฉพาะสาขาที่อยู่ในพื้นที่ห้าง ทราฟฟิกการเดินห้างลดลง ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงธุรกิจร้านอาหารเท่านั้น ธุรกิจอื่น ๆ ที่อยู่ในศูนย์การค้ากระทบหมด การปลดล็อกดังกล่าวคาดว่าจะช่วยให้ทราฟฟิกการเดินห้างจะกลับมาและมีการจับจ่ายเพิ่มขึ้นในระดับหนึ่ง

ขณะที่ “ศิรินทร์ ใต้ชัยภูมิ” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มิส ลิลลี่ ฟลาวเวอร์ จำกัด ได้ประเมินภาพรวมของตลาดดอกกุหลาบในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์นี้ว่า อาจจะซบเซาลงบ้าง เนื่องจากผลกระทบของโควิด-19 กำลังซื้อและอารมณ์การจับจ่ายที่ลดลง ทั้งนี้ มิสลิลลี่ได้จัดโปรโมชั่นในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น คาดว่ายอดสั่งจองดอกกุหลาบจะลดลงจากปีที่ผ่านมาเล็กน้อย

ปรากฎการณ์ทั้งหมดนี้คาดการณ์ว่า เทศกาลตรุษจีน-วาเลนไทน์ปีนี้คงเป็นปีที่เงียบเหงาที่สุดในรอบหลายปี