“สุกี้ตี๋น้อย” เร่งเครื่องลุยดีลิเวอรี่ ฝ่าโควิด

เปิดใจ “สุกี้ตี๋น้อย” หลังเจอพิษโควิด-19 กระทบยอดขายหนัก เร่งปรับตัวพึ่งพาแพลตฟอร์มดีลิเวอรี่ ล่าสุด จับมือ Gojek ส่งชุดสุกี้ถึงบ้าน ด้วยการชูจุดขายอร่อยคุ้มค่า ราคาสบายกระเป๋า

วันที่ 6 กรกฎาคม 2564 นางสาวนัทธมน พิศาลกิจวนิช เจ้าของร้าน สุกี้ตี๋น้อย บริษัท บีเอ็นเอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า จากวิกฤตโควิดที่ยังระบาดต่อเนื่อง รวมถึงมาตรการควบคุมจากภาครัฐที่ไม่สามารถให้นั่งรับประทานอาหารที่ร้าน และได้ยกเว้นบริการสั่งแบบ Take Away ต้องยอมรับว่าร้านอาหารส่วนใหญ่ที่ไม่เคยทำดีลิเวอรี่ ต้องหันมาเลือกใช้แพลตฟอร์มฟู้ดดีลิเวอรี่ช่วยเพิ่มยอดขาย

เช่นเดียวกับ “สุกี้ตี๋น้อย” ปัจจุบันได้หันมาให้ความสำคัญกับการทำตลาดผ่านแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กเป็นหลัก และตอนนี้มีผู้ติดตามกว่า 3 แสนราย ถือว่าตั้งแต่เปิดร้านมาภายในเวลา 4 ปี ได้รับกระแสตอบรับที่ค่อนข้างดี จากการทำกิจกรรมแจกรางวัลเพื่อช่วยสร้างเอ็นเกจเมนต์ให้ร้าน ทำหใปัจจุบันมีทั้งหมด 29 สาขา และทำให้รายได้ในปี 2563 ได้ 1,200 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ในปี 2563 ที่ผ่านมา ช่วงที่เจอสถานการณ์โควิด ร้านได้รับผลกระทบต้องปิดไป และเริ่มกลับมาเปิดอีกครั้งหลังสถานการณ์ดีขึ้น ช่วยสร้างรายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ตอนนั้นร้านเริ่มมีการขายสุกี้แบบ Take Away แต่ขายผ่านหน้าร้านเป็นหลัก

นางสาวนัทธมนกล่าวต่อถึงกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินงานจากนี้ ต้องหันมาให้ความสำคัญกับช่องทางดีลิเวอรี่ เพื่อเพิ่มทางเลือก และความสะดวก ให้ลูกค้าเข้าถึงร้านได้มากขึ้น ล่าสุด จึงสมัครเข้าร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับทาง Gojek ช่วงนั้นคิดว่าจะทำอย่างไรให้ลูกค้าสั่งสุกี้แบบ Take Away และยังรู้สึกคุ้มค่าเหมือนทานที่ร้าน ถือเป็นโจทย์ที่ยากมาก จึงทำเมนูออกมาเป็น 2 เซต และยังคงคอนเซ็ปต์อร่อยคุ้มเหมือนมาทานที่ร้าน ราคาเริ่มต้น 219 บาท มีให้เลือกทั้งหมูหรือเนื้อ สามารถทานได้ 1-2 คน หรือจะเลือกสั่งเพิ่มแบบ A La carte ก็ได้เช่นกัน

อีกทั้ง การที่เลือกเป็นพาร์ตเนอร์กับ Gojek เพราะเห็นว่า Gojek มีการจัดแคมเปญการตลาด ทั้งส่วนลด และมีคูปองจัดส่งฟรี ลูกค้านิยมเอาไปรีวิวและแชร์ต่อ ๆ กันในโซเขียลมีเดีย และสามารถดูแลจัดการเรื่องต้นทุนและค่า GP ได้เอง การสมัครเป็นพาร์ตเนอร์จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายและช่วยเพิ่มยอดขายให้ร้านได้ในช่วงนี้