ZOLL ปูพรมตลาดเครื่องกระตุกหัวใจ รับกฎหมายบังคับตึกสูงติดตั้ง

ZOLL รุกตลาดเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ (AED) ไทยเต็มสูบ รับลูกมหาดไทยออกกฎตึกสูงติดตั้ง AED ภายใน 2 ธ.ค. หนุนตลาดโต ชูจุดเด่นแบรนด์ดังระดับโลก-ใช้งานง่าย-เทคโนโลยีระดับสูง เจาะลูกค้าหลายกลุ่มครอบร้านอาหาร-ฟิตเนส-สนามบิน

วันที่ 8 กันยายน 2564 นายนคร พรณัฐวุฒิกุล ผู้จัดการประจำประเทศ บริษัท โซลล์ เมดดิคอล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ZOLL เปิดเผยว่า หลังจากกระทรวงมหาดไทยออกประกาศกฎกระทรวง โดยกำหนดให้อาคารสูง และอาคารขนาดใหญ่พิเศษ ที่เป็นอาคารสาธารณะต้องจัดให้มีพื้นที่หรือตำแหน่งเพื่อติดตั้งเครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator) หรือ AED 

โดยได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ให้เริ่มใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา คือตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไปนั้น 

นับเป็นการยกระดับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหรือผู้ป่วยฉุกเฉินในอาคาร เพื่อให้บุคคลที่ใช้ประโยชน์ในอาคารได้รับความปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ซึ่งในประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิตกว่า 54,000 คนต่อปี (เฉลี่ย 6 คนต่อชั่วโมง) หากมีการติดตั้งเครื่อง AED ในอาคารในจุดที่เข้าถึงเพื่อการใช้งานได้ง่าย จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากภาวะดังกล่าวได้เป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ ZOLL MEDICAL (โซลล์ เมดิคอล) ซึ่งเป็นผู้นำเครื่องมือทางการแพทย์ของประเทศอเมริกา เกี่ยวกับอุปกรณ์การดูแลฉุกเฉินและการช่วยชีวิต ได้ขานรับมาตรการนโยบายกระทรวงมหาดไทย ตัดสินใจเข้ารุกตลาดไทยเต็มกำลัง

โดยเส่งครื่องเครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator) หรือ AED ทำการตลาดและสร้างการรับรู้ในไทย เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานในอาคารที่มีลักษณะแตกต่างกัน 

ชูจุดเด่นความน่าเชื่อด้วยความเป็นแบรนด์การแพทย์ระดับโลก และฟังก์ชั่น Real CPR Help® ให้ข้อมูลทั้งอัตราและความลึกของการปั๊มหัวใจได้ทันที เพื่อเพิ่มโอกาสความอยู่รอดของผู้ป่วยที่เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นฉับพลัน ด้วยการทำ CPR คุณภาพสูง (High-Quality Cardiopulmonary Resuscitation)

เบื้องต้นจะทำการตลาดเครื่อง AED 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่

1.AED Plus เน้นความทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ แต่สำหรับเด็กสามารถเพิ่มแผ่นอิเล็กโทรด (electrode) ได้ ใช้สำหรับสถานที่ที่มีการใช้ AED ไม่มากนัก เช่น ร้านอาหาร ฟิตเนส สนามกีฬา เป็นต้น พร้อมการรับประกันสินค้า 5 ปี

2.AED 3 มีระบบสัมผัสหน้าจอ และเปิดใช้งานการกำหนดค่าโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์หรือซอฟต์แวร์ภายนอกเพิ่มเติม มีข้อมูลเป้นทั้งภาษาไทย อังกฤษ และจีน สามารถเชื่อม Wi-Fi เพื่อส่งข้อมูลและเชื่อมต่อกับเครื่อง AED อื่น ๆ ได้ เหมาะกับโครงการหรืออาคารสูงที่มี AED หลายเครื่อง อาทิ โรงเรียน มหาวิทยาลัย ชุมชน ที่พักอาศัยประเภทต่าง ๆ สนามบิน เป็นต้น สำหรับชุดอิเล็กโทรดที่มาพร้อมกับ AED 3 รองรับการใช้งานทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และรับประกันการใช้งาน 6 ปี

3.AED Powerheart G5 เน้นการใช้งานง่ายเหมาะสำหรับทั้งผู้มีและไม่มีประสบการณ์ช่วยชีวิตในรูปแบบอัตโนมัติ ควบคู่ฟังก์ชัjน Intellisense™ CPR (ICPR) ให้ข้อมูลแก่ผู้กู้ชีพได้สองภาษาในแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ผู้กู้ชีพสามารถทำ CPR คุณภาพสูงเพื่อรักษาชีวิตผู้ป่วยที่ประสบภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน พร้อมรับประกันการใช้งาน 7 ปี

“ต้องยอมรับว่า ZOLL ได้รับปัจจัยบวกจากนโยบายของกระทรวงมหาดไทย โดยปัจจุบันไทยมีการติดตั้งเครื่อง AED ประมาณ 30,000 เครื่อง แต่ยังถือว่ามีสัดส่วนน้อยมาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ การออกกฎกระทรวงครั้งนี้จะช่วยให้เกิดการติดตั้งอย่างแพร่หลายมากขึ้น เมื่ออาคารสาธารณะต่าง ๆ มีการยกระดับความปลอดภัยได้ดี จะเป็นการเพิ่มโอกาสของการรอดชีวิตที่สูงขึ้น (Higher Survivor Rate) ทั้งนี้ เชื่อว่าสินค้าของบริษัทที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานง่าย บวกกับบริการหลังการขายที่ดีจะทำให้สินค้าของเราได้รับผลตอบรับที่ดีในประเทศไทย”