อสมท กางแผนปี’65 เข้มข่าว-ธุรกิจใหม่ปั้นรายได้โต

อสมท กางโรดแมปปี’65 เข้มข่าวเสริมบันเทิงปั้นเรตติ้งติดท็อป 10 พร้อมเดินหน้าธุรกิจใหม่เปิดแพลตฟอร์มขายรูปวิดีโอ สร้างมูลค่าเพิ่มคอนเทนต์เก่าส่งขาย OTT ไทย-เทศ ควบคู่พัฒนาที่ดิน คาดประมูลเฟสแรก 50 ไร่ ย่านรัชดา-พระรามเก้า ระยะยาว 30 ปี ไตรมาส 2 ปีหน้า ย้ำเป้าเติบโตอย่างยั้งยืนทำกำไรทุกไตรมาสภายในปี’68

วันที่ 1 ธันวาคม 2564 กว่า 70 ปี บนเส้นทาง อสมท สื่อโทรทัศน์รายแรกของประเทศไทย ที่เคยมีกำไรเฟื่องฟูในยุคแอนtล็อก ทว่าเมื่อเข้าสู่การประมูลทีวีดิจิทัล ผนวกกับกระแสดิจิทัลดิสรัปต์ชัjน ผลักให้ อสมท ต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน และเคยขาดทุนสูงสุดถึง 2,020 ล้านบาท ก่อนจะเริ่มปรับกระบวนท่าจนในปี 2564 เริ่มกลับมาทำกำไรอีกครั้งในรอบ 5 ปี พร้อมกับการเข้ามาของ “รศ.เกษมศานต์ โชติชาคมพันธุ์” แม่ทัพใหม่ของ อสมท ที่ประกาศวิสัยทัศน์นำ อสมท ผงาดเป็นหุ้นยั่งยืน และทำกำไรต่อเนื่องภายในปี 2568

รศ.เกษมศานต์ โชติชาคมพันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ 9 MCOT HD ช่อง 30 เริ่มฉายภาพว่า การเข้ารับตำแหน่งเป็นอีกหนึ่งความท้าทาย ในการปรับภาพ อสมท จากสื่อที่เก่าที่สุดไปสู่ช่องทางที่ใหม่ที่สุด เพื่อนำสิ่งที่มีอยู่ในมือไปสร้างมูลค่าเพิ่ม และทำให้คนไทยเข้าใจความเป็น “อสมท” มากขึ้น โดยไม่ละทิ้งกลิ่นอายเดิม

โดยในปี 2565 อสมท จะปรับตัวภายใต้วิสัยทัศน์ “The Year of Trusted News & Smart Entertainment” ใน 3 คีย์หลัก ได้แก่

1.Reinforce เสริมจากสิ่งเดิมที่มีอยู่ให้ดียิ่งขึ้น ด้วย Strategic Partner ยกระดับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อร่วมสร้างเป้าหมายไปด้วยกัน เสริม Content ที่ Wise & Clean มุ่งนำเสนอเนื้อหาที่สร้างสรรค์ เป็นประโยชน์กับสังคม ถูกต้องตรวจสอบได้

2.Refresh มุ่งสู่ The Trusted Platform และ Smart Entertainment โดยพัฒนาคอนเทนต์ข่าว เสริมด้วยบันเทิง ตรึงผู้ชมทุกช่องทาง

3.Refine ต่อยอด Assets เดิมเพื่อสร้างรายได้ มีเป้าหมายก้าวเข้าไปสู่ “หุ้นยั่งยืน” ภายในปี 2568 ที่มีกำไรต่อเนื่อง ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามหลักสากล (ESG) เพื่อสร้างโอกาสให้บริษัทเป็นที่สนใจจากผู้ลงทุนที่มีแนวคิดด้านการลงทุนอย่างยั่งยืน

เขย่าผังรายการปั้นเรตติ้งท็อป 10

รศ.เกษมศานต์กล่าวว่า จุดแข็งของ อสมท คือความแข็งแกร่งของคอนเทนต์รายการข่าว อาทิ สำนักข่าวไทย โดยจากนี้ไปจะมีการเพิ่มเวลาในรายการข่าวเฉลี่ย 80 ชม./สัปดาห์ เน้นความเป็นกลาง และความน่าเชื่อถือ ทุกข้อมูลต้องชัวร์ก่อนแชร์ สามารถนำไปใช้อ้างอิงได้

ขณะที่อีกด้านหนึ่งจะหันมาให้ความสำคัญกับรายการบันเทิงมากขึ้น โดยอาศัยความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ร่วมแชร์คอนเทนต์กันและกัน หรือจับมือร่วมกันทำรายการใหม่ ๆ ภายใต้แนวคิด Smart Entertainment ได้ทั้งความบันเทิงและสาระไปพร้อม ๆ กัน

พร้อมกันนี้ ยังได้รีเฟรชแบรนด์ผ่านการส่งรายการใหม่ลงจอเต็มผังในช่วงไพรมไทม์ เช่น รายการเปิดอกเคลียร์, รายการชูวิทย์สะกิดติ่ง ที่ได้ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ในบุคลิกใหม่ที่ไม่เคยปรากDที่ไหนมาก่อน รายการข่าวหุ้น เป็นต้น ตอกย้ำความเป็น Trusted Content จับใจผู้ชม เพื่อตรึงคนดูในทุกช่วงเวลา และทำให้ อสมท เรตติ้งติดท็อป 10 จากปัจจุบันอยู่ในลำดับที่ 11

ส่วนเป้าหมายในระยะยาวของ อสมท คือการต่อยอดคอนเทนต์ที่มีอยู่ในมือไปสู่ช่องทางออนไลน์และ OTT แพลตฟอร์ม อาทิ วีทีวี อ้ายฉีอี้ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มจากคอนเทนต์เดิม และกระจายความเสี่ยงในแง่ทีวีดิจิทัลยังอยู่ในช่วงขาลง ประกอบกับพฤติกรรมของผู้ชมเปลี่ยนไปเสพคอนเทนต์ทางแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น และคาดการณ์ได้ว่าปัจจุบันตลาด OTT วิดีโอสตรีมมิ่งมีมูลค่าสูงกว่า 1 หมื่นล้านบาท

ซึ่งในอนาคต อสมท มีแนวโน้มขยายการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปสู่ต่างประเทศมากขึ้น โดยจะเริ่มจากตลาดอาเซียน ทั้งในแพลตฟอร์ม OTT และเครือข่ายฟรีทีวี ทำให้ส่วนนี้จะกลายเป็นรายได้ระยะยาวให้แก่บริษัท ได้

ต่อยอดธุรกิจใหม่

ขณะเดียวกัน อสมท ได้เร่งปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจไปสู่ธุรกิจใหม่ (New Business Model) เพื่อรายได้เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการนำภาพและวิดีโอของ อสมท ตั้งแต่ยุคแรก ๆ มาแปลงเป็นไฟล์ดิจิทัล และลงขายในเว็บไซต์ ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา ปัจจุบันลงรูปและวีดิโอได้ราว 3-4 พันรายการ ภายในไตรมาส 1 น่าจะลงได้ทั้งหมดราว 1 แสนรายการ

“ธุรกิจใหม่การให้ขายรูปและวิดีโอจะทำในรูปแบบไม่ได้ขายขาด รูปและวิดีโอหลายรายการมีคนสนใจมาก โดยเฉพาะฟุตเทสเก่า ๆ เช่น ข่าวเก่า ละครเก่า เป็นต้น แต่อยู่ในช่วงเคลียร์เรื่องลิขสิทธิ์ ประกอบกับการแปลงไฟล์เก่ามาสู่ดิจิทัลมีต้นทุนค่อนข้างมาก จึงต้องมีการคัดสรรพอสมควร และหากเป็นไปด้วยดี ในปี’66 อาจรับฝากรูปหรือวิดีโอให้คนทั่วไปมาลงขายภาพของตนเองได้ คล้าย ๆ รูปแบบ Shutter Storck ในประเทศไทย”

ส่วนธุรกิจทีวีโฮมช้อปปิ้งภายใต้ชื่อ Shop Mania อสมท จะหันมาเพิ่มความสำคัญมากขึ้น โดยเพิ่มความหลากหลายของประเภทสินค้า รวมถึงเตรียมผลิตสินค้ากลุ่มสุขภาพและความงามภายใต้ Brand ของตัวเอง เพื่อออกจำหน่ายทาง Shop Mania และขยายช่องทางโปรโมตด้วยการผสานทุก Platform ของ อสมท เพื่อให้ครอบคลุมและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค ตลอดจนสร้างสรรค์ Content การนำเสนอขายสินค้าให้น่าสนใจยิ่งขึ้นเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้ออย่างรวดเร็ว

ขณะที่ทรัพย์สินเดิมอย่างอสังหาริมทรัพย์ที่ อสมท มีพื้นที่หลายจุด ครอบคลุมกรุงและต่างจังหวัด ขณะนี้ได้ร่างแผนพัฒนาขึ้นในหลายซีเนริโอ เพื่อให้บอร์ดบริหารพิจารณา เบื้องต้น จะประมูลพื้นที่ย่านรัชดา-พระราม 9 แปลง 50 ไร่ก่อนเป็นที่แรก โดยคาดว่าจะเป็นการให้เช่าในระยะยาว 30 ปี เพื่อเป็นการสร้างรายได้ระยะยาวจากการเช่าพื้นที่

ขณะที่เฟสต่อมาเตรียมนำพื้นที่บริเวณบางไผ่ 59 ไร่ และหนองแขม 40 ไร่ ออกมาประมูลต่อ แต่ยังอยู่ระหว่างการหารือถึงแผนพัฒนาในแต่ละจุด และคาดว่าการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้จะเห็นภาพชัดเจนในไตรมาส 2 ปี’65 หลังจากในปีนี้ต้องเลื่อนเวลาออกไปจากปัญหาโควิด

จ่อประมูลคลื่นวิทยุปี’65

รศ.เกษมศานต์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับธุรกิจวิทยุนั้น อสมท เตรียมความพร้อมในการร่วมประมูลคลื่นวิทยุ ตามที่สำนักงาน กสทช.ประกาศว่าจะมีขึ้นในช่วงต้นปี 2565 ในระหว่างนี้มุ่งสร้าง Community ผู้ฟังผ่าน New Platform Online : The Trusted มุ่งเน้น Content ที่ชัดเจน ตรงประเด็น มีสาระขยายรูปแบบการให้บริการเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นหลังการประมูลคลื่นวิทยุ คาดว่า ในปีหน้ารายได้จากธุรกิจวิทยุจะมีแนวโน้มดีขึ้น ประกอบกับจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้เริ่มมีการปรับรูปแบบการจัดกิจกรรมจาก On ground ไปสู่ Online ทำให้สามารถสร้างสรรค์กิจกรรมในรูปแบบใหม่ๆได้หลากหลายและควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายได้ดี

โดยอนาคตภายวางเป้าหมายสัดส่วนรายได้ไว้ว่า ทีวีจะมีสัดส่วนที่ 24% จาก 28%, วิทยุมีสัดส่วน 22% จาก 26%, การให้เช่าโครงข่ายวิศวกรรม (เสาสัญญาณวิทยุและโทรทัศน์) มีสัดส่วน 20% จาก 24% และธุรกิจใหม่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 22% จากเดิม 6%

“ที่ผ่านมา อสมท ได้ปรับแผนธุรกิจให้สอดรับกับสถานการณ์และสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้อย่างทัดเทียม ไม่ว่าจะเป็นการมุ่งหาพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจใหม่ และเพิ่มความสามารถด้านการสร้างผลกำไรเพื่อสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น โดยมีเป้าหมายในการ ขับเคลื่อน อสมท ให้เติบโตและก้าวสู่หุ้นยั่งยืน ภายในปี 2568” รศ.เกษมศานต์ กล่าวทิ้งท้าย