ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง เทรนด์ฮิตนักช็อปทั่วโลกช่วงสิ้นปี

ช็อปปิ้ง
Market move

 

บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง หรือ Buy now pay later (BNPL) ซึ่งเป็นการผ่อนชำระค่าสินค้าโดยไม่ใช้บัตรเครดิต กำลังได้รับความนิยมจากนักช็อปทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มจะกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกการชำระค่าสินค้าหลักในช่วงเทศกาลช็อปปิ้งท้ายปีนี้ สะท้อนจากข้อมูลของ “เซลส์ฟอร์ซ” ผู้ให้บริการโซลูชั่นซอฟต์แวร์การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ ระบุว่า การใช้บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง ช่วงเทศการช็อปปิ้งไซเบอร์วีก (23-29 พ.ย.) ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 29% จากช่วงเดียวกันของปี 2563

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีได้รายงานถึงกระแสฮิตนี้ว่า บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง ได้แทรกซึมเข้าไปในกลุ่มผู้บริโภคและร้านค้าหลากหลายไม่จำกัดอยู่เฉพาะวัยรุ่น หรือผู้มีรายได้น้อยจนไม่สามารถมีบัตรเครดิต หรือร้านค้าออนไลน์อย่างที่เคยเข้าใจกันอีกต่อไปแล้ว โดยแม้แต่นักช็อประดับกลาง-บนที่มีรายได้ถึง 7.5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ/ปี ก็ยังหันมาใช้บริการนี้กันมากขึ้น จนเชื่อว่าจะกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกการชำระเงินหลักที่ทุกร้านค้าต้องมีไว้รองรับลูกค้าในช่วงช็อปปิ้งท้ายปี 2564 นี้

สาเหตุของความนิยมนี้มาจากหลายปัจจัยตั้งแต่การระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้ผู้คนต้องหันไปซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ซึ่งมักไม่รองรับบริการผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต การผลักดันของบริษัทตัวกลางชำระเงินทั้งรายใหญ่ข้ามชาติ อย่างเพย์พาล และรายย่อย เช่น สแคว, แอฟเฟิร์มและคลานา

เช่นเดียวกับการผลักดันจากฝั่งผู้ค้าปลีก อาทิ อเมซอนที่เปิดให้ผ่อนรายเดือนได้แม้มียอดซื้อเพียง 50 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.6 พันบาทเท่านั้นในขณะที่รายอื่น ๆ เช่น วอลมาร์ต และแบรนด์เครื่องออกกำลังเพโลตัน และอื่น ๆ อีกกว่า 1.2 พันราย เตรียมเปิดบริการผ่อนโดยไม่ใช้บัตรเครดิตเช่นกัน

Advertisment

“แดน ชูลแมน” ซีอีโอของเพย์พาล ระบุว่า การผ่อนแบบไม่ใช้บัตรเครดิตนี้ถือเป็นหนึ่งในบริการดาวรุ่งของบริษัทในช่วงโค้งท้ายนี้ หลังจากจำนวนการใช้งานช่วงแบล็กฟรายเดย์เพิ่มขึ้น 400% หรือกว่า 7.5 แสนครั้งภายในวันเดียว

นอกจากนี้ ฐานผู้ใช้บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลังยังขยายตัว โดยนอกจากกลุ่มผู้ใช้เดิม อย่างวัยรุ่นและผู้มีรายได้ไม่ถึงขั้นมีบัตรเครดิตแล้ว กลุ่มผู้มีรายได้สูงและมีบัตรเครดิตอยู่แล้วยังหันมาสนใจใช้บริการนี้ด้วยเช่นกัน

สอดคล้องกับผลสำรวจของเซลส์ฟอร์ซที่ระบุว่า 4% ของการใช้จ่ายช่วงแบล็กฟรายเดย์ในสหรัฐอเมริกาเป็นการใช้บริการซื้อก่อนจากทีหลัง “เท็ด รอสแมน” นักวิเคราะห์อาวุโสจากเครดิตการ์ดดอทคอม กล่าวว่า บริการนี้ได้รับความนิยมจากนักช็อประดับบนที่มีรายได้สูง แต่ไม่ถึงกับร่ำรวยมากขึ้น เนื่องจากจุดเด่นที่ไม่มีวงเงินจำกัดทำให้สามารถใช้ได้แน่นอน แตกต่างจากบัตรเครดิตที่อาจวงเงินเต็มจนใช้ไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญในวงการการเงินยังแสดงความกังวลว่า ความง่ายในการใช้และความแพร่หลายของบริการนี้เสี่ยงที่จะทำให้เกิดวิกฤตหนี้เสีย เนื่องจากการจับจ่ายเกินรายได้ด้วยเช่นกันซึ่งต้องจับตาและระมัดระวังจากทุกฝ่าย

Advertisment