โออิชิ ท็อปฟอร์มไตรมาส 1 โตเพิ่ม 11.8% ชู 5 หัวหอกปั้นยอดปี’65

โออิชิ โชว์ผลงานไตรมาส 1 โตเพิ่ม 11.8% โกยยอด 2,982 ล้าน ชู 5 กลยุทธ์หลัก ทั้ง กิจกรรมการตลาด-สินค้าใหม่-เทคโนโลยี-ขยายช่องทางจำหน่าย-สยายปีกต่าวประเทศ สร้างการเติบโตเพิ่มในปี 2565

วันที่ 7 มีนาคม 2565 นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมานับเป็นการเริ่มต้นปีงบประมาณใหม่ที่ท้าทายท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังคงอยู่ อย่างไรก็ตาม จากความแข็งแกร่งในธุรกิจเครื่องดื่มและอาหาร รวมถึงการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทสามารถสร้างรายได้รวม 2,982 ล้านบาท เติบโตถึง 11.8%

โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่ม 1,694 ล้านบาท เติบโต 14.5% และรายได้จากธุรกิจอาหาร 1,288 ล้านบาท เติบโต 8.5% ขณะที่กำไรสุทธิ 389 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 73.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน”

สำหรับทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวต่อไปอย่างแข็งแกร่ง บริษัทฯ มีการวางกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์และพฤติกรรมผู้บริโภคที่ซับซ้อนมากขึ้นและเปลี่ยนแปลงไป ผ่าน 5 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1. สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ: จากสภาวะโควิด-19 ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาใส่ใจในเรื่องของสุขภาพมากขึ้น โออิชิได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่ตอบรับเทรนด์ สุขภาพอย่างต่อเนื่อง

2.เดินหน้ากิจกรรมทางการตลาดที่แปลกใหม่และแตกต่างเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น: ธุรกิจเครื่องดื่มสร้างสรรค์กิจกรรมทางการตลาดที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอยู่เสมอ เช่น กิจกรรมของชาเขียวโออิชิ ‘โออิชิ x ดาบพิฆาตอสูร’ นำตัวละครอนิเมะสัญชาติญี่ปุ่นมาปรากฏบนบรรจุภัณฑ์ โดยมีการออกแบบร่วมกับเจ้าของลิขสิทธิ์อนิเมะดาบพิฆาตอสูรประเทศญี่ปุ่น

พร้อมสร้างสรรค์ต่อยอดเป็นของรางวัลและไอเท็มดีไซน์ลิมิเต็ดอิดิชั่นซึ่งได้รับการตอบรับจากกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของโออิชิได้เป็นอย่างดี ส่วนธุรกิจอาหารทำการตลาดในรูปแบบออมนิแชนแนล (Omni-Channel) เชื่อมโยงช่องทางขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากที่สุด

3.การนำเทคโนโลยีและดิจิทัลมาพัฒนาสินค้าและบริการที่มุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกและยกระดับความปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค: ร้านอาหารมีการพัฒนานวัตกรรมทั้งสินค้าและบริการเพื่อมุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกและยกระดับความปลอดภัยให้ลูกค้า เช่น ระบบ contactless payment, QR ordering รวมทั้งการนำระบบมาใช้ในการบริหารจัดการภายในทำให้เกิดความคล่องตัวในการทำงาน ส่งผลให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

4.ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย ทันสมัย ครอบคลุม และเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ: ธุรกิจเครื่องดื่มเน้นกลยุทธ์การเข้าถึงผู้บริโภคในพื้นที่และช่องทางขายใหม่ ๆ อย่างช่องทางออนไลน์และเดลิเวอรี่ รวมถึงการสื่อสารและการทำตลาดในโลกดิจิทัล เช่น สร้าง Loyalty Platform แอปพลิเคชัน ‘OISHI CLUB’

ส่วนธุรกิจร้านอาหารเพิ่มโอกาสเข้าถึงลูกค้าโดยเปิดแบรนด์ร้านอาหารใหม่ “โออิชิ บิซโทโระ” (OISHI BIZTORO) ด้วยโมเดลไฮบริดภายใต้แนวคิด ‘ทางเลือกความอร่อยง่าย ๆ สไตล์ญี่ปุ่นโมเดิร์น’ ที่ผสมผสานระหว่างการให้บริการอาหารประเภทราเมน / และดงบุริหรือข้าวหน้าญี่ปุ่นต่าง ๆ แบบทานง่าย ๆ สะดวก ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่ต้องการความสะดวกสบายรวดเร็ว ในราคาคุ้มค่า

ตลอดจน Grab & Go ที่มีโมเดลร้านของ “โออิชิ ทู โก” (OISHI to go) รวมถึงโมเดลช่องทางการขายรุกประชิดผู้บริโภคด้วยกลยุทธ์ “โออิชิ ฟู้ด ทรัค” (OISHI Food Truck) ที่สามารถย้ายไปหาลูกค้าในพื้นที่ต่าง ๆ ได้สะดวกยิ่งขึ้น ขณะที่ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานมีการขยายช่องทางการขายให้ครอบคลุมทั้ง Modern Trade และออนไลน์

และ 5. ขณะที่ขยายตลาดส่งออกนั้นบริษัทเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งและขยายสินค้าในตลาดส่งออกหลัก พร้อมขยายการเติบโตในตลาดใหม่อย่างต่อเนื่องโดยจัดกิจกรรมการตลาดที่โดนใจผู้บริโภคในแต่ละท้องถิ่นและใช้การสื่อสารทางออนไลน์มากขึ้น จากปัจจุบันโออิชิ กรีนที เป็นผู้นำในตลาดชาพร้อมดื่มในประเทศกัมพูชา ลาว และเมียนมา ส่วนผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานมีการผลักดันตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์เกี๊ยวซ่าสู่ประเทศ ใหม่ ๆ ในยุโรปมากขึ้น