อีฟโรเชหั่นราคาขยายตลาด ปรับแผนบุกไฮเปอร์มาร์เก็ต

ปรับทัพใหม่ - เพื่อขยายฐานลูกค้าได้เร็วขึ้น-กว้างขึ้น "อีฟ โรเช" เปิดเกมบุกไฮเปอร์มาร์เก็ต เข้าถึงลูกค้าแมส-ต่างจังหวัด จากเดิมเน้นสาขาในห้างสรรพสินค้า

“อีฟ โรเช” เปิดเกมรุก เขย่าโครงสร้างราคาใหม่ ถูกลงเฉลี่ย 30% นำร่อง 3 แคทิกอรี่ รับแผนสปีดสาขาบุกไฮเปอร์มาร์เก็ต ขยายฐานลูกค้าแมส-ต่างจังหวัด ก่อนส่งแฟลกชิปสโตร์ใจกลางกรุง หวังสร้างประสบการณ์ช็อปปิ้งที่แตกต่าง พร้อมเดินหน้ารีโนเวตสาขารับคอนเซ็ปต์ใหม่ คาดกระตุ้นยอดโตต่อเนื่อง

นายเอียน ลองเด้น กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีฟ โรเช (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่อีฟ โรเช ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยมานานกว่า 20 ปี และเน้นการขยายสาขาในห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก จึงทำให้ช่องทางอื่น ๆ เช่น ไฮเปอร์มาร์เก็ต ยังมีช่องว่างที่จะเติบโตได้อีก บริษัทจึงเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการเปิดสาขาในบิ๊กซี, เทสโก้ โลตัส ปัจจุบันมี 4 สาขา เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ และสร้างการเติบโตให้กับบริษัทมากขึ้น

ขณะเดียวกัน เพื่อรองรับกับการเจาะตลาดในกลุ่มไฮเปอร์มาร์เก็ต บริษัทได้ปรับโครงสร้างราคาใหม่ให้ถูกลงกว่าเดิมเฉลี่ย 30% ช่วงแรกจะนำร่องใน 3 แคทิกอรี่ เช่น กลุ่มแชมพู และกลุ่มผลิตภัณฑ์อาบน้ำ อาทิ แชมพูจากเดิมขวดละ 300 บาท ปรับเป็น 199 บาท เพื่อทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าแมสได้มากขึ้น ตลอดจนฐานลูกค้ากลางบนที่จะสามารถตัดสินใจซื้อได้เลยโดยไม่ต้องรอโปรโมชั่น และในอนาคตจะทยอยปรับราคาให้ครบทุกแคทิกอรี่

โดยในปีหน้าจะขยายเปิดสาขาใหม่อีก 12 สาขา เป็นสาขาในไฮเปอร์มาร์เก็ต 8 สาขา ส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัด และจะรีโนเวตสาขาเดิมปีละ 10 สาขาให้เป็นร้านคอนเซ็ปต์ใหม่ หรือแล็บสโตร์ ซึ่งจะมีรูปแบบร้านที่ทันสมัยมากขึ้น มีพื้นที่ของสินค้าที่หลากหลายกว่าเดิม รวมถึงพื้นที่ในการนำผลิตภัณฑ์มาทดลองใช้ ภายใต้ธีมโบทานิก หรือความเป็นธรรมชาติ เพื่อสร้างประสบการณ์ในการช็อปปิ้งแบบใหม่ รับกับความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน

“หลังจากที่มีการรีโนเวตร้านไปบ้างแล้ว 2-3 สาขา การทำราคาในบางแคทิกอรี่ให้ต่ำลง เราพบว่าลูกค้าชื่นชอบและให้การตอบรับที่ดี และยอดขายในสาขานั้น ๆ ก็ปรับตัวดีขึ้นเฉลี่ย 50-60% จากเดิม”

กรรมการผู้จัดการ บริษัทอีฟ โรเช กล่าวด้วยว่า ส่วนช่องทางห้างสรรพสินค้าที่ยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ได้เปิดร้านแฟลกชิปสโตร์ ที่เซ็นทรัลเวิลด์ พื้นที่ขนาด 200 ตร.ม. เป็นคอนเซ็ปต์สโตร์ที่แรกและใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยจะมีความแตกต่างกับร้านปกติในด้านของการตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ จำนวนสินค้าที่มากกว่า รวมถึงสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟที่มีกว่า 50 รายการ และจะหมุนเวียนเข้ามาในร้านอย่างต่อเนื่อง

“ในแง่กลยุทธ์การตลาด จะเน้นการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย และจะปรับมาใช้สื่อออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็น 70% เน้นการแจกตัวอย่างให้ทดลอง เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับสินค้า และเกิดการรับรู้แบรนด์ที่แข็งแกร่งขึ้น ตลอดจนการกระตุ้นด้วยสินค้าใหม่ ๆ ที่จะนำเข้ามาเติมในร้านทุกเดือน”

นายเอียนระบุว่า ตลาดเครื่องสำอางในไทยยังมีศักยภาพเติบโตอีกมาก เพราะผู้หญิงยุคใหม่ใส่ใจกับการดูแลตัวเอง และใช้จ่ายกับสินค้าดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง แต่จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ลูกค้าจะพิจารณาถึงความคุ้มค่ามากขึ้น ซึ่งระดับราคาและคุณภาพของอีฟ โรเช ก็สามารถเข้าไปตอบโจทย์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี รวมถึงเทรนด์การใช้สินค้าที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายของบริษัทในปีนี้ยังคงเติบโตขึ้น 12% จากปีที่ผ่านมา