“ยูนิแอร์” ต่อยอดวาระครบ 50 ปี ย้ำเชื่อมั่นเพิ่มดีกรีรุกลูกค้าองค์กร-งานโครงการ หลังเห็นสัญญาณฟื้นตัวช่วงต้นปี พร้อมส่งทัพสินค้าใหม่เสริมฟังก์ชั่นสุขภาพและไอโอที ตอบโจทย์ทั้งโรงงาน สถานพยาบาล ฯลฯ ก่อนเปิดตัวแล็บทดสอบแอร์ไซซ์ใหญ่แห่งแรกในไทยไตรมาส 3 เสริมศักยภาพรุกตลาดส่งออก
ดร.ณรัณ ศิริสันธนะ กรรมการผู้จัดการบริษัท ยูนิแอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแอร์และอุปกรณ์ทำความเย็นแบรนด์ “ยูนิแอร์” (UNI-Aire) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตลาดแอร์ปี 2565 นี้ยังมีแนวโน้มผันผวนและคาดการณ์ล่วงหน้าได้ยากจากทั้งการระบาดของโรคโควิด-19 และสถานการณ์สงครามในยุโรปตะวันออก ซึ่งต่างส่งผลกระทบกับราคาวัตถุดิบและการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ไปจนถึงเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคและการใช้งบฯองค์กรธุรกิจต่าง ๆ
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
“ช่วงปลายปี 2564 จนถึงกุมภาพันธ์ 2565 เริ่มเห็นสัญญาณบวกทั้งการกลับมาลงทุนของกลุ่มลูกค้าองค์กร และราคาวัตถุดิบที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นก่อนจะดีดตัวสูงขึ้นอีกหลังเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน จึงต้องจับตาสถานการณ์ใกล้ชิดต่อไป”
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่างานโครงการและลูกค้าองค์กรทั้งในไทยและต่างประเทศจะเป็นกลุ่มที่เริ่มฟื้นตัวก่อนแล้วจึงตามด้วยลูกค้าครัวเรือน สะท้อนจากช่วงปลายปี 2564 งานโครงการหลายแห่งกลับมาดำเนินการหลังไทยและหลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค รวมถึงมีการสั่งซื้อและสอบถามสินค้า อาทิ ชิลเลอร์ เข้ามาจากหลายธุรกิจทั้งที่อยู่อาศัย โรงแรม โรงงานอุตสาหกรรม เสริมกับโรงพยาบาลที่ลงทุนต่อเนื่องมาตลอดช่วงโควิด
สำหรับการแข่งขันในฝั่งลูกค้าองค์กรนั้น เชื่อว่าแม้การแข่งขันจะสูงเพราะเป็นกลุ่มที่ฟื้นตัวก่อน ทำให้ผู้เล่นทุกรายหันมาสนใจ แต่การแข่งขันราคาอาจไม่หนักหน่วงนักเนื่องจากทุกแบรนด์ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ต้นทุนพุ่งสูง จึงต้องนำด้านฟีเจอร์และจุดเด่นอื่น ๆ อย่างการกรองฝุ่น ระยะเวลารับประกัน บริการหลังการขาย รวมถึงการทำตลาดเพื่อสร้างการรับรู้-ความเชื่อมั่นมานำเสนอมากขึ้น เช่นเดียวกับในตลาดลูกค้าครัวเรือน
จากแนวโน้มนี้บริษัทจึงโฟกัสกลุ่มลูกค้าองค์กร โดยเฉพาะกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมที่เป็นฐานลูกค้าหลักและสถานพยาบาล โดยอาศัยจุดแข็งในการมีทีมวิจัยพัฒนาออกแบบ และโรงงานผลิตเป็นของตนเองแบบครบวงจร จึงสามารถพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องโรคโควิด-19, ฝุ่น PM 2.5 และการประหยัดพลังงาน ซึ่งต่างเป็นประเด็นที่ลูกค้าองค์กรให้ความสนใจในการลงทุนจัดซื้อเครื่องปรับอากาศ
โดยมีสินค้าใหม่ ๆ ที่ส่งมอบ-ติดตั้งแล้ว และอยู่ระหว่างพัฒนาหลายรายการ ตัวอย่างเช่น เครื่องเติมอากาศบริสุทธิ์สำหรับใช้ในโรงพยาบาลโดยเฉพาะ, ระบบปรับอากาศแยกส่วนพร้อมแผ่นกรอง N 95, แอร์ฝังฝ้าแบบ 1 ทิศทางตอบโจทย์ด้านการออกแบบ-ติดตั้งง่ายไม่ต้องเดินท่อลงหรือลดระดับฝ้าเพดาน ไปจนถึงชิลเลอร์ที่ควบคุมผ่านอินเทอร์เน็ตหรือไอโอทีได้
พร้อมเปิดรับพันธมิตรเข้ามาเสริมแกร่งด้านต่าง ๆ ที่บริษัทไม่เชี่ยวชาญ โดยก่อนหน้านี้จับมือ จาร์ตัน (Jarton) ผู้ผลิตอุปกรณ์ไอโอทีเข้ามาเสริมฟังก์ชั่นนี้ให้กับสินค้า
นอกจากนี้ ยังมีไฮไลต์เป็นห้องทดสอบประสิทธิภาพแอร์ขนาดใหญ่ และระบบทำความเย็นแบบชิลเลอร์แห่งแรกในประเทศไทย มูลค่าการลงทุน 25 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดใช้งานได้ช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ พร้อมเตรียมขอมาตรฐาน ISO เพื่อให้ผลทดสอบสามารถอ้างอิงได้ในระดับสากล ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับการออกแบบและสินค้า เพิ่มความได้เปรียบทั้งในตลาดประเทศไทยและต่างประเทศให้สูงขึ้น
ในขณะที่ตลาดต่างประเทศจะเพิ่มตัวเลือกผู้ให้บริการขนส่งสินค้าและวัตถุดิบ เพื่อสร้างอำนาจต่อรองราคาให้มากที่สุด พร้อมจับตาและประเมินสถานการณ์ในต่างประเทศอย่างใกล้ชิดเนื่องจากบริษัทมีลูกค้าในหลายประเทศ รวมถึงประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หรือสงครามอย่างรัสเซีย ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย และอื่น ๆ เนื่องจากที่ผ่านมาลูกค้าในต่างประเทศหลายรายขอเลื่อนการรับมอบสินค้าออกไปก่อน เพราะแม้บริษัทจะไม่ได้ปรับราคาสินค้า แต่ค่าขนส่งข้ามประเทศพุ่งขึ้นไปถึง 300% จากช่วงปกติ
ขณะเดียวกัน ด้านการทำตลาดจะมุ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าองค์กรและงานโครงการ โดยใช้โอกาสครบรอบ 50 ปีของบริษัทในปี 2565 นี้ และห้องทดลองเป็นเครื่องมือหลักในการสะท้อนคุณภาพและความน่าเชื่อถือของแบรนด์และสินค้า
พร้อมกับนำทัพสินค้าใหม่ ๆ เข้าร่วมงานแสดงสินค้าเครื่องปรับอากาศ อาทิ Bangkok RHVAC 2022 ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ก่อนจะจัดกิจกรรมฉลองครบรอบ 50 ปีในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่เป็นเดือนก่อตั้งบริษัท
สำหรับวิสัยทัศน์หลังจากครบรอบ 50 ปีนี้ บริษัทจะมุ่งใช้ความเชี่ยวชาญทางวิศวกรรมตอบสนองเมกะเทรนด์ของโลก ไม่ว่าจะเป็นการประหยัดพลังงานและความเป็นมิตรกับธรรมชาติ อาทิ นำพลังแสงอาทิตย์มาใช้ในสินค้า ใช้สารทำความเย็นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงรองรับสังคมสูงวัยและไอโอทีด้วยสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพอย่างที่ใส่ระบบกรองฝุ่น PM 2.5 และไอโอทีในสินค้าให้หลากหลายรุ่นขึ้น เป็นต้น
ตามเป้าหมายที่จะให้ยูนิแอร์เป็นแบรนด์ที่ผู้คนนึกถึง เมื่อพูดถึงแอร์พาณิชย์และระบบปรับอากาศแบบชิลเลอร์
