“ชาริช โฮลดิ้ง” สบช่องแท็กซี่วีไอพี ส่ง BYD อี 6 กวาดลูกค้าเล็งปี62 ขายทะลุพัน

“ชาริช โฮลดิ้ง” บุกตลาดรถยนต์-สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ประเดิมส่ง “บีวายดี e6” เจาะตลาดแท็กซี่ วี.ไอ.พี. ตั้งเป้าปีหน้าขายพันคัน พร้อมส่ง “นิว” ลุยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าพรีเมี่ยม หวังโกยรายได้ทั้งปีทะลุ 1.2 พันล้าน รับกระแสรถอีวีบูม

นายอภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ชาริช โฮลดิ้ง จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงแผนขยายธุรกิจว่า อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรรายใหม่ 2-3 ราย เพื่อนำสินค้าผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มานำเสนอให้กับลูกค้าชาวไทย ตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่จะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในไลน์ความถนัดของบริษัท ซึ่งน่าจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้

ส่วนปีนี้บริษัทตั้งเป้าผลประกอบการโดยรวมไว้ที่ 1,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่สามารถทำได้ 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการเปิดธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ บีวายดี (BYD) และรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าอัจฉริยะยี่ห้อ นิว (NIU) ซึ่งถือเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนผลประกอบการ

ล่าสุด บริษัท ไรเซน เอนเนอร์จี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของชาริช โฮลดิ้ง ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในโครงการแท็กซี่ วี.ไอ.พี. ที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า 100% บีวายดี รุ่น e6 เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการรถแท็กซี่สาธารณะแก่ประชาชนด้วยเป็นความร่วมมือกันระหว่างพันธมิตร 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท ไรเซน เอนเนอร์จี จำกัด, บริษัท อีวี โซไซตี้ จำกัด, บริษัท พลังงานมหานคร จำกัด และบริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) โดยได้จำหน่ายในลอตแรกจำนวน 100 คัน ซึ่งจะส่งมอบได้ราวเดือนสิงหาคมนี้

ส่วนปี 2562 ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 1,000 คันโดยรถรุ่นนี้เป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานจริง เนื่องจากเป็นรถที่วิ่งเยอะ ๆ แล้วจะคุ้ม เช่น กลุ่มรถแท็กซี่ โดยบริษัทจะเน้นการจำหน่ายในลักษณะของ

บีทูบีมากกว่าการจำหน่ายทั่วไป สำหรับรถบีวายดี e6 นั้น มีราคาจำหน่ายที่ 1.89 ล้านบาท และเนื่องจากสินค้าในไลน์อัพของบีวายดี มีทั้งรถยนต์, รถโมโนเรล, รถบัส, รถโฟร์กลิฟต์ ฯลฯ อนาคตบริษัทยังมีแผนจะนำเข้ามาจำหน่ายเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในประเทศไทยด้วย

ส่วนแผนนำเข้ารถแวน T3 เพื่อใช้ในธุรกิจขนส่ง ซึ่งขณะนี้ได้รับการติดต่อจากบริษัท ดีเอชแอล เพื่อให้นำรถรุ่นนี้เข้ามาทำตลาด โดยคาดว่าจะจำหน่ายในราคา 1.5-1.6 ล้านบาทด้วย รวมถึงแผนการขยายตลาดเข้าไปเจาะกลุ่มรถหัวลากในสนามบิน ซึ่งหากมีความเป็นไปได้ บริษัทจะนำเสนอรถหัวลากแบบไฟฟ้า 100% ซึ่งรถหัวลากดังกล่าวช่วยลดต้นทุนได้ถึง 48%

ส่วนรถยนต์นั่งไฟฟ้า 100% บีวายดี รุ่นอื่น ๆ นั้น หากบริษัทแม่มีการพัฒนาและเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าคนไทย บริษัทพร้อมที่จะนำเข้ามาทำตลาดในอนาคตด้วย

ขณะที่บริษัทยังได้แนะนำรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่มาพร้อมเทคโนโลยีในการเชื่อมต่อรถกับสมาร์ทโน สามารถดูสถานที่ต่าง ๆ ผ่านแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนมีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น N1 เป็น smart electric scooter แบบ 2 ที่นั่ง ซึ่งเป็นรุ่นที่สามารถใช้งานบนท้องถนนและจดทะเบียนได้ จำหน่ายในราคา 98,000 บาท อีกรุ่นคือ M1 มีขนาดเล็กกว่า เหมาะสำหรับใช้งานในถนนปิด เช่น ในหมู่บ้าน รีสอร์ต หรือแม้กระทั่งใช้งานในโรงพยาบาล โดยราคาจำหน่ายอยู่ที่ 95,000 บาท เบื้องต้นบริษัทยังไม่ได้ตั้งเป้าหมายในแง่ของยอดการจำหน่ายสำหรับรถสกู๊ตเตอร์ นิว ไว้แต่อย่างใดแต่ก็เชื่อว่าน่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้าชาวไทยเป็นอย่างดี

ปัจจุบัน ชาริช โฮลดิ้ง มี 7 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1.รถจักรยานยนต์ดูคาติ 2.รถจักรยานยนต์รอยัล เอนฟิลด์ 3.รถไฟฟ้าบีวายดี 4.ตัวแทนจำหน่ายชุดแต่งรถยนต์ไฟฟ้า เทสล่า RevoZport และ Unplugged Performance อย่างเป็นทางการในประเทศไทย 5.สินค้านวัตกรรมไอโรบอต 6.เครื่องล้างแปรงแต่งหน้า สไตล์โปร (StylPro) และ 7.รถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยม นิว